กระทู้ก่อนๆ
http://ppantip.com/topic/30447400
http://ppantip.com/topic/30448112
http://ppantip.com/topic/30452010
http://ppantip.com/topic/30456248
http://ppantip.com/topic/30461165
http://ppantip.com/topic/30470125
http://ppantip.com/topic/30474202
http://ppantip.com/topic/30476481
http://ppantip.com/topic/30499021
“ฐานนี้ก็มีกิจกรรมให้พวกน้องๆ กลุ่มยังเพได้ร่วมสนุกกัน น้องๆ จะต้องกรอกน้ำจกกะละมังลงขวดแก้วให้เต็มภายใน 3 นาทีด้วยวิธีการใดก็ได้นะคะแต่พี่ขอเตือนน้องๆ ว่าต้องคิดให้ดีก่อน ย้ำนะคะว่าต้องคิดให้ดี พี่ตู่จับเวลา เริ่มได้”
ทุกคนในกลุ่มต่างมีความคิดเห็นเป็นของตนเองที่จะใช้อุปกรณ์ต่างๆ ถ่ายเทน้ำจากกะละมังสู่ขวดแก้ว ผึ้งสาขาผลิตกรรมชีวภาพถอดรองเท้าผ้าใบตักน้ำกรอกลงขวด ผมก็ทำตามเธอโดยการถอรองเท้าผ้าใบของผมกรอกน้ำลงขวดแก้ว ปากขวดที่แคบไม่อาจจะรองรับน้ำทั้งหมดได้จึงกระเฉาะออก จนหมดเวลาน้ำในขวดแก้วก็ไม่อาจเต็ม
“ทำไมทำกันแบบนี้!” พี่น้อยเอ็ดตะโรลั่นใส่สมาชิกกลุ่มยังเพทุกคน “บอกแล้วว่าคิดให้ดีก่อนจะทำ สิ่งที่ได้คือน้ำล้างรองเท้าขุ่นๆ เช่นนี้นะเหรอ?” พี่น้อยชูขวดแก้วที่บรรจุน้ำขุ่นสีโคลนที่ปริ่มคอขวด สีหน้าท่าทางของหล่อนเปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว จากนางฟ้าร่างอวบกลายเป็นนางยักษ์ขมูขี ผมหลบตาหล่อนและลอบมองเพื่อนๆ ในกลุ่ม ผึ้งก้มหน้าแต่มีน้ำตาไหล เจฟยืนหน้านิ่งๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็ทำหน้าเจื่อนๆ เหมือนกัน
“ขอให้จำไว้เป็นบทเรียน พี่ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้น้องๆ คิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไรลงไป จะทำอะไรก็แล้วแต่ไม่ใช่ว่าสักแต่ทำให้เสร็จ สุกเอาเผากินอย่างไรฉันไม่สน และนี่คือบทลงโทษที่จะทำให้ทุกคนหลาบจำ อีกุ้งแกกินน้ำในขวดนี้ให้หมด” พี่น้อยออกคำสั่งลงโทษ ใจผมแทบจะหยุดเต้น ไม่นึกเลยว่าผลจากการกระทำของผมและเพื่อนๆ จะส่งผลร้ายกาจต่อผู้อื่น
“เอาจริงๆ เหรอน้อย?” พี่กุ้งถามย้ำด้วยความตกใจ หล่อนคงไม่เชื่อว่าเพื่อนจะทำเพื่อนได้ถึงขนาดนี้
“เออสิกุ้ง ถ้าแกไม่กินไอพวกนี้มันก็จะได้ใจ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง คนที่เดือดร้อนไม่ได้มีเฉพาะพวกมันเท่านั้น” พี่น้อยยื่นขวดแก้วบรรจุน้ำขุ่นโคลนที่เป็นฝีมือของพวกเราให้พี่กุ้ง เธอรับมาหลับตากระดกดื่ม เธอคงจินตนาการว่ามันเป็นน้ำดื่มปกติที่สามารถดื่มได้แต่เธอไม่ใช่นักแสดงจึงเล่นบทนี้ไม่เก่งผลที่ผมเห็นสีหน้าของเธอบ่งบอกว่าน้ำล้างรองเท้าไม่อร่อยเลย
“พอเถอะครับพี่กุ้ง” เสียงเจฟปราม “ความผิดของพวกผม ผมจะรับชอบเอง” เขาคว้าขวดน้ำล้างรองเท้านั้นมาจากพี่กุ้ง
“ไม่นะเจฟ เรากินเอง เราทำผิดก็ต้องรับผิด” ผมยื้อแย่งขวดน้ำจากมือของเขา
“ก็เราบอกแล้วไงแบงค์ เราจะไม่ให้อันตรายใดๆ มาข้องเกี่ยวกับแบงค์” เจฟต่อล้อต่อเถียงกับผม ต่างคนต่างไม่ยอมกัน น้ำล้างรองเท้านั้นกลายเป็นน้ำวิเศษไปเสียแล้ว ผมและเขาต่างขันอาสาดื่มน้ำล้างรองเท้านั้น เพื่อให้อีกฝ่ายรอดปลอดภัย
“อ้าว! ไม่ต้องเถียงกัน ได้กินทั้งคู่แหละ ตู่ไปเอาแก้วมา 2 ใบ” พี่น้อยตัดสินอย่างยุติธรรม พี่ตู่รูมเมทของพี่อ๊อฟหยิบแก้วน้ำพลาสติกมา 2 ใบรินน้ำล้างรองเท้าจากขวดแก้ว ผมและเจฟหยิบขึ้นมาดื่มคนละแก้ว ผมดื่มรวดเดียวหมดชนิดไม่กลัวตาย รสชาดนั้นหรือ? มันก็เฝื่อนๆ เพราะเหมือนน้ำผสมดินนั่นแหละ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ปะปนมาด้วย โชคดีที่ไม่มีแก้วที่สอง กิจกรรมฐานนี้จึงยุติลงด้วยเพราะล่วงเลยเวลามานานมากแล้ว
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมวอล์คแรลลี่ทั่วมหาวิทยาลัย มีเวลาได้พักผ่อนหายใจหายคอ วันนี้เวลาหกโมงเย็นมีการประชุมนักศึกษาที่อยู่หอพักในมหาวิทยาลัยทั้งหมด เรื่องที่ประชุมคือนักศึกษาชายทั้งหมดที่พักอยู่ในหอ 2 ต้องสลับหอพักกับนักศึกษาหญิงที่พักอยู่ที่หอ 5 ในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ประชุมกันเสร็จ เวลาที่เหลือพวกปีหนึ่งก็ใช้เวลาในการล่าประวัติรุ่นพี่พร้อมลายเซ็น ผมโชคดีที่มีเจฟให้ลอกประวัติของรุ่นพี่ ส่วนการได้ลายเซ็นจากพวกรุ่นพี่ก็ต้องอาศัยความสามารถของตนเอง รุ่นพี่บางคนยื่นประวัติให้ตรวจก็เซ็นลายเซ็นให้ทันที บางคนต้องรายงานตัวแนะนำตัวเองให้รุ่นพี่รู้จัก ที่แย่หน่อยกว่าจะได้ลายเซ็นรุ่นพี่ก็ต้องเต้นแร้งเต้นกาทำอะไรก็ตามแต่ที่รุ่นพี่สั่ง สำหรับผมเองก็ได้รับคำสั่งจากพี่ออฟว่าหาประวัติชองพี่เขาให้ได้ไม่ต่ำกว่าสองหน้ากระดาษเอ 4 แต่ผมก็ไม่ได้สืบหาประวัติพี่อ๊อฟและรุ่นพี่คนอื่นๆ เพราะมีอาการท้องเดินเล่นงานเข้าให้ โชคดีที่ห้องพักของผมอยู่ใกล้ห้องน้ำรวมมากที่สุด มิฉะนั้นคงจะมีเรี่ยราดรายทาง และตลอดทั้งคืนนั้นเป็นคืนอันแสนทรมาน ผมถ่ายทุกข์จนไม่มีอะไรจะถ่ายแล้ว ผมแน่ใจแล้วว่าสิ่งผมรับประทานเข้าไปจนผิดสำแดงคือน้ำล้างรองเท้านั่นเอง แต่น่าแปลกที่เจฟไม่มีอาการอะไรเลย คงเป็นเวรเป็นกรรมผมเอง รองเท้าไม่คิดจะซักทำความสะอาดจะท้องเสียตายเพราะน้ำล้างรองเท้าตนเองก็เอาเถอะ สงสารเจ้ารูมเมทผม มันก็ต้องมาทรมานทรกรรมร่วมกันกับผม เนื่องด้วยอาการท้องเสียวิ่งเข้าวิ่งออกรบกวนการนอนหลับของเขา ผมเก็บของอย่างลวกๆ ลงกล่อง บอกอำลาห้อง 2310 ย้ายสู่ห้อง 5413 และต้องขอบคุณเจฟที่ช่วยเหลือในการขนสัมภาระ
“ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย ไปห้องพยาบาลที่หอวิจัยก่อนดีไหม?” เจฟถามขณะที่วางกล่องหนังสือลงบนโต๊ะอ่านหนังสือ
“ไม่เป็นไรหรอก เรากินยาเข้าไปแล้ว” ผมพูดปดทั้งๆ ที่รู้สึกว่าตนเองใกล้ตายเต็มทนแล้ว และทุกๆสิ่งพลันวูบดับลง ผมไม่รู้สึกอะไรอีกเลย จนกระทั่ง....
(Y) น้ำค้างมองพระจันทร์ บทที่ 5.2 สายใยรักสายใยม่วงแดง(ปฐมบท) เขียนโดย... กัลปังหา
กระทู้ก่อนๆ
http://ppantip.com/topic/30447400
http://ppantip.com/topic/30448112
http://ppantip.com/topic/30452010
http://ppantip.com/topic/30456248
http://ppantip.com/topic/30461165
http://ppantip.com/topic/30470125
http://ppantip.com/topic/30474202
http://ppantip.com/topic/30476481
http://ppantip.com/topic/30499021
“ฐานนี้ก็มีกิจกรรมให้พวกน้องๆ กลุ่มยังเพได้ร่วมสนุกกัน น้องๆ จะต้องกรอกน้ำจกกะละมังลงขวดแก้วให้เต็มภายใน 3 นาทีด้วยวิธีการใดก็ได้นะคะแต่พี่ขอเตือนน้องๆ ว่าต้องคิดให้ดีก่อน ย้ำนะคะว่าต้องคิดให้ดี พี่ตู่จับเวลา เริ่มได้”
ทุกคนในกลุ่มต่างมีความคิดเห็นเป็นของตนเองที่จะใช้อุปกรณ์ต่างๆ ถ่ายเทน้ำจากกะละมังสู่ขวดแก้ว ผึ้งสาขาผลิตกรรมชีวภาพถอดรองเท้าผ้าใบตักน้ำกรอกลงขวด ผมก็ทำตามเธอโดยการถอรองเท้าผ้าใบของผมกรอกน้ำลงขวดแก้ว ปากขวดที่แคบไม่อาจจะรองรับน้ำทั้งหมดได้จึงกระเฉาะออก จนหมดเวลาน้ำในขวดแก้วก็ไม่อาจเต็ม
“ทำไมทำกันแบบนี้!” พี่น้อยเอ็ดตะโรลั่นใส่สมาชิกกลุ่มยังเพทุกคน “บอกแล้วว่าคิดให้ดีก่อนจะทำ สิ่งที่ได้คือน้ำล้างรองเท้าขุ่นๆ เช่นนี้นะเหรอ?” พี่น้อยชูขวดแก้วที่บรรจุน้ำขุ่นสีโคลนที่ปริ่มคอขวด สีหน้าท่าทางของหล่อนเปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว จากนางฟ้าร่างอวบกลายเป็นนางยักษ์ขมูขี ผมหลบตาหล่อนและลอบมองเพื่อนๆ ในกลุ่ม ผึ้งก้มหน้าแต่มีน้ำตาไหล เจฟยืนหน้านิ่งๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็ทำหน้าเจื่อนๆ เหมือนกัน
“ขอให้จำไว้เป็นบทเรียน พี่ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้น้องๆ คิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไรลงไป จะทำอะไรก็แล้วแต่ไม่ใช่ว่าสักแต่ทำให้เสร็จ สุกเอาเผากินอย่างไรฉันไม่สน และนี่คือบทลงโทษที่จะทำให้ทุกคนหลาบจำ อีกุ้งแกกินน้ำในขวดนี้ให้หมด” พี่น้อยออกคำสั่งลงโทษ ใจผมแทบจะหยุดเต้น ไม่นึกเลยว่าผลจากการกระทำของผมและเพื่อนๆ จะส่งผลร้ายกาจต่อผู้อื่น
“เอาจริงๆ เหรอน้อย?” พี่กุ้งถามย้ำด้วยความตกใจ หล่อนคงไม่เชื่อว่าเพื่อนจะทำเพื่อนได้ถึงขนาดนี้
“เออสิกุ้ง ถ้าแกไม่กินไอพวกนี้มันก็จะได้ใจ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง คนที่เดือดร้อนไม่ได้มีเฉพาะพวกมันเท่านั้น” พี่น้อยยื่นขวดแก้วบรรจุน้ำขุ่นโคลนที่เป็นฝีมือของพวกเราให้พี่กุ้ง เธอรับมาหลับตากระดกดื่ม เธอคงจินตนาการว่ามันเป็นน้ำดื่มปกติที่สามารถดื่มได้แต่เธอไม่ใช่นักแสดงจึงเล่นบทนี้ไม่เก่งผลที่ผมเห็นสีหน้าของเธอบ่งบอกว่าน้ำล้างรองเท้าไม่อร่อยเลย
“พอเถอะครับพี่กุ้ง” เสียงเจฟปราม “ความผิดของพวกผม ผมจะรับชอบเอง” เขาคว้าขวดน้ำล้างรองเท้านั้นมาจากพี่กุ้ง
“ไม่นะเจฟ เรากินเอง เราทำผิดก็ต้องรับผิด” ผมยื้อแย่งขวดน้ำจากมือของเขา
“ก็เราบอกแล้วไงแบงค์ เราจะไม่ให้อันตรายใดๆ มาข้องเกี่ยวกับแบงค์” เจฟต่อล้อต่อเถียงกับผม ต่างคนต่างไม่ยอมกัน น้ำล้างรองเท้านั้นกลายเป็นน้ำวิเศษไปเสียแล้ว ผมและเขาต่างขันอาสาดื่มน้ำล้างรองเท้านั้น เพื่อให้อีกฝ่ายรอดปลอดภัย
“อ้าว! ไม่ต้องเถียงกัน ได้กินทั้งคู่แหละ ตู่ไปเอาแก้วมา 2 ใบ” พี่น้อยตัดสินอย่างยุติธรรม พี่ตู่รูมเมทของพี่อ๊อฟหยิบแก้วน้ำพลาสติกมา 2 ใบรินน้ำล้างรองเท้าจากขวดแก้ว ผมและเจฟหยิบขึ้นมาดื่มคนละแก้ว ผมดื่มรวดเดียวหมดชนิดไม่กลัวตาย รสชาดนั้นหรือ? มันก็เฝื่อนๆ เพราะเหมือนน้ำผสมดินนั่นแหละ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ปะปนมาด้วย โชคดีที่ไม่มีแก้วที่สอง กิจกรรมฐานนี้จึงยุติลงด้วยเพราะล่วงเลยเวลามานานมากแล้ว
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมวอล์คแรลลี่ทั่วมหาวิทยาลัย มีเวลาได้พักผ่อนหายใจหายคอ วันนี้เวลาหกโมงเย็นมีการประชุมนักศึกษาที่อยู่หอพักในมหาวิทยาลัยทั้งหมด เรื่องที่ประชุมคือนักศึกษาชายทั้งหมดที่พักอยู่ในหอ 2 ต้องสลับหอพักกับนักศึกษาหญิงที่พักอยู่ที่หอ 5 ในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ประชุมกันเสร็จ เวลาที่เหลือพวกปีหนึ่งก็ใช้เวลาในการล่าประวัติรุ่นพี่พร้อมลายเซ็น ผมโชคดีที่มีเจฟให้ลอกประวัติของรุ่นพี่ ส่วนการได้ลายเซ็นจากพวกรุ่นพี่ก็ต้องอาศัยความสามารถของตนเอง รุ่นพี่บางคนยื่นประวัติให้ตรวจก็เซ็นลายเซ็นให้ทันที บางคนต้องรายงานตัวแนะนำตัวเองให้รุ่นพี่รู้จัก ที่แย่หน่อยกว่าจะได้ลายเซ็นรุ่นพี่ก็ต้องเต้นแร้งเต้นกาทำอะไรก็ตามแต่ที่รุ่นพี่สั่ง สำหรับผมเองก็ได้รับคำสั่งจากพี่ออฟว่าหาประวัติชองพี่เขาให้ได้ไม่ต่ำกว่าสองหน้ากระดาษเอ 4 แต่ผมก็ไม่ได้สืบหาประวัติพี่อ๊อฟและรุ่นพี่คนอื่นๆ เพราะมีอาการท้องเดินเล่นงานเข้าให้ โชคดีที่ห้องพักของผมอยู่ใกล้ห้องน้ำรวมมากที่สุด มิฉะนั้นคงจะมีเรี่ยราดรายทาง และตลอดทั้งคืนนั้นเป็นคืนอันแสนทรมาน ผมถ่ายทุกข์จนไม่มีอะไรจะถ่ายแล้ว ผมแน่ใจแล้วว่าสิ่งผมรับประทานเข้าไปจนผิดสำแดงคือน้ำล้างรองเท้านั่นเอง แต่น่าแปลกที่เจฟไม่มีอาการอะไรเลย คงเป็นเวรเป็นกรรมผมเอง รองเท้าไม่คิดจะซักทำความสะอาดจะท้องเสียตายเพราะน้ำล้างรองเท้าตนเองก็เอาเถอะ สงสารเจ้ารูมเมทผม มันก็ต้องมาทรมานทรกรรมร่วมกันกับผม เนื่องด้วยอาการท้องเสียวิ่งเข้าวิ่งออกรบกวนการนอนหลับของเขา ผมเก็บของอย่างลวกๆ ลงกล่อง บอกอำลาห้อง 2310 ย้ายสู่ห้อง 5413 และต้องขอบคุณเจฟที่ช่วยเหลือในการขนสัมภาระ
“ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย ไปห้องพยาบาลที่หอวิจัยก่อนดีไหม?” เจฟถามขณะที่วางกล่องหนังสือลงบนโต๊ะอ่านหนังสือ
“ไม่เป็นไรหรอก เรากินยาเข้าไปแล้ว” ผมพูดปดทั้งๆ ที่รู้สึกว่าตนเองใกล้ตายเต็มทนแล้ว และทุกๆสิ่งพลันวูบดับลง ผมไม่รู้สึกอะไรอีกเลย จนกระทั่ง....