ความเย่อหยิ่ง คือ ท่าทีต่อตนเอง ที่บุคคลยึดถือ เพื่อ แสดงความต่างจากคนอื่นอย่างไม่แยแสต่อการเปลี่ยนแปลง
ความเย่อหยิ่ง ดำรงอยู่ ใน การยึดถืออดีต ที่ผู้นั้นภาคภูมิใจ เกาะยึดไว้ประหนึ่งชัยชนะชั่วนิรันดร์
ความเย่อหยิ่ง เป็นการฝืนความจริง ที่มีความหลากหลาย แปรเปลี่ยน แต่เขาผู้เย่อหยิ่งไม่ยอมแปรเปลี่ยน ปากแข็ง ยืนหยัดเพราะมั่นใจในพลังและความถูกต้องแบบตัวกูของกู ตั้งป้อม ตีกรอบ..
มันมีที่ไหนในโลกนี้ ที่อนุญาตให้ มนุษย์ตัวจ๋อย ฝืนวันและคืน เพื่อประกาศความแท้จริงที่ว่างเปล่าของ ตัวมนุษย์เอง
เพราะ มนุษย์ไม่มีอะไรจะอวดได้เลย ต่อหน้าความจริงที่ครอบพวกเขาอยู่ และเขาจะต้องเปลี่ยนไปตามกรอบโครงที่ใหญ่กว่า อยู่แล้ว
ความไม่มีตัวตนนั่นแหละคือ สารัตถะ ไม่ใช่ ความเย่อหยิ่ง อันสวมครอบจากหน้าตา ที่หลอกคนอื่นว่า ข้าแน่
ข้าคือความถูกต้อง ไม่มีทางผิด....
มนุษย์ คือ ผลผลิตของการปรับตัวเท่านั้นแหล่ะ ไม่มีสารัตถะอื่นใดเหนือจากนี้
และความเย่อหยิ่ง ก็คือ มายาการที่ผู้นั้นสร้างขึ้น เพื่อสถาปนา ตัวตนปลอมๆ เพียงเพื่อไม่ต้องการเหมือนใคร ลอยเด่น ไม่ตกฟากหรือยึดเกาะภาพลักษณ์อันเป็นมายาของอดีตแห่งอดีต...
คนที่เย่อหยิ่ง จะไม่เรียนรู้ หรือ รับรู้สิ่งใหม่ได้ เพราะ เขาปิดกั้นตนเองแต่แรกแล้ว
ผู้อื่นก้าวไป แต่เขายังหลงยุคในกะลาครอบแห่งตัวตนของตน จนกว่าจะต้องเจ็บ จึงจักทะลุเปลือกเพื่อรับแสงแห่งความจริง
ผู้ที่มีใจเย่อหยิ่ง คือ คนที่เจ็บป่วยโดยไม่รู้ว่าป่วย เพราะ เขาอยู่กับมันมานานจนเป็นตัวตน ที่ไม่มีอย่างอื่นเปรียบเทียบ
เขาอาจฉลาดในวิถีของเขา เพราะ ได้เคยทำหรือใช้ความเย่อหยิ่งเพื่อเอาชนะ แต่จนกว่าถึงภาวะหนึ่งที่ความเย่อหยิ่ง
จะทำให้เขาตาบอด และไม่เห็นไม่อาจเรียนรู้แม้ในสิ่งง่ายๆ เพียงเพราะ ความเย่อหยิ่งได้ปิดใจเขา ปิดกั้นการรับรู้จะจะตรงหน้า
แต่เขาจะไม่เห็น ไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ เพราะ กลัวขายหน้า ปากกับใจเขาไม่ตรงกัน และความเที่ยงธรรมต่อความจริงได้หนีจากเขาไป
การป่วยจากฤทธิ์ความเย่อหยิ่งนี้ เป็น การป่วยที่อยู่ลึกในระดับจิตวิญญาณเลยก็ว่าได้
และการรื้อถอนมัน จากกรอบโครงทางจิต หรือ ระบบคิด จึงทำได้ยากมาก
เพราะ รื้อเมื่อไร อาจหมายถึง การล่มสลายของตัวตนเลยทีเดียว
โรคที่มิอาจรักษา ..ความเย่อหยิ่ง
ความเย่อหยิ่ง ดำรงอยู่ ใน การยึดถืออดีต ที่ผู้นั้นภาคภูมิใจ เกาะยึดไว้ประหนึ่งชัยชนะชั่วนิรันดร์
ความเย่อหยิ่ง เป็นการฝืนความจริง ที่มีความหลากหลาย แปรเปลี่ยน แต่เขาผู้เย่อหยิ่งไม่ยอมแปรเปลี่ยน ปากแข็ง ยืนหยัดเพราะมั่นใจในพลังและความถูกต้องแบบตัวกูของกู ตั้งป้อม ตีกรอบ..
มันมีที่ไหนในโลกนี้ ที่อนุญาตให้ มนุษย์ตัวจ๋อย ฝืนวันและคืน เพื่อประกาศความแท้จริงที่ว่างเปล่าของ ตัวมนุษย์เอง
เพราะ มนุษย์ไม่มีอะไรจะอวดได้เลย ต่อหน้าความจริงที่ครอบพวกเขาอยู่ และเขาจะต้องเปลี่ยนไปตามกรอบโครงที่ใหญ่กว่า อยู่แล้ว
ความไม่มีตัวตนนั่นแหละคือ สารัตถะ ไม่ใช่ ความเย่อหยิ่ง อันสวมครอบจากหน้าตา ที่หลอกคนอื่นว่า ข้าแน่
ข้าคือความถูกต้อง ไม่มีทางผิด....
มนุษย์ คือ ผลผลิตของการปรับตัวเท่านั้นแหล่ะ ไม่มีสารัตถะอื่นใดเหนือจากนี้
และความเย่อหยิ่ง ก็คือ มายาการที่ผู้นั้นสร้างขึ้น เพื่อสถาปนา ตัวตนปลอมๆ เพียงเพื่อไม่ต้องการเหมือนใคร ลอยเด่น ไม่ตกฟากหรือยึดเกาะภาพลักษณ์อันเป็นมายาของอดีตแห่งอดีต...
คนที่เย่อหยิ่ง จะไม่เรียนรู้ หรือ รับรู้สิ่งใหม่ได้ เพราะ เขาปิดกั้นตนเองแต่แรกแล้ว
ผู้อื่นก้าวไป แต่เขายังหลงยุคในกะลาครอบแห่งตัวตนของตน จนกว่าจะต้องเจ็บ จึงจักทะลุเปลือกเพื่อรับแสงแห่งความจริง
ผู้ที่มีใจเย่อหยิ่ง คือ คนที่เจ็บป่วยโดยไม่รู้ว่าป่วย เพราะ เขาอยู่กับมันมานานจนเป็นตัวตน ที่ไม่มีอย่างอื่นเปรียบเทียบ
เขาอาจฉลาดในวิถีของเขา เพราะ ได้เคยทำหรือใช้ความเย่อหยิ่งเพื่อเอาชนะ แต่จนกว่าถึงภาวะหนึ่งที่ความเย่อหยิ่ง
จะทำให้เขาตาบอด และไม่เห็นไม่อาจเรียนรู้แม้ในสิ่งง่ายๆ เพียงเพราะ ความเย่อหยิ่งได้ปิดใจเขา ปิดกั้นการรับรู้จะจะตรงหน้า
แต่เขาจะไม่เห็น ไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ เพราะ กลัวขายหน้า ปากกับใจเขาไม่ตรงกัน และความเที่ยงธรรมต่อความจริงได้หนีจากเขาไป
การป่วยจากฤทธิ์ความเย่อหยิ่งนี้ เป็น การป่วยที่อยู่ลึกในระดับจิตวิญญาณเลยก็ว่าได้
และการรื้อถอนมัน จากกรอบโครงทางจิต หรือ ระบบคิด จึงทำได้ยากมาก
เพราะ รื้อเมื่อไร อาจหมายถึง การล่มสลายของตัวตนเลยทีเดียว