คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
1. เราไม่ทราบว่าคุณออกกำลังกายที่ไหน แต่ถ้าเลือกได้ คุณควรออกกำลังกายในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก โดยเฉพาะการออกกำลังกายประเภท HIIT ทำให้เสียเหงื่อมาก ควรจิบน้ำเป็นระยะ ชดเชยน้ำที่เสียไป
2. เราว่าการเล่นโยคะ ไม่ควรซ้ำกับเวทในวันหนึ่งๆ และเวทควรเล่นวันเว้นวัน ถ้าเล่นโดน อาจต้องเว้นสองสามวัน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัฒนา ควรพักกล้ามเนื้อส่วนที่เล่นอย่างน้อย 48 ชั่วโมง ถ้าต้องการเล่นทุกวัน ควรสลับวันเล่นกล้ามเนื้อแต่ละส่วนไป เช่น วันที่ 1 เล่นอก กับน่อง , วันที่ 2 เล่นต้นขา กับไบเซบ , วันที่ 3 ไหล่ กับ หลัง วันที่ 4 ก็กลับมาเล่นเหมือนวันที่ 1 วนไปเรื่อยค่ะ
ช่วงเย็นควรเล่นเวทก่อน แล้วค่อยวิ่ง และการวิ่งหลังเวท ให้วิ่งแค่ 20 นาทีพอค่ะ
3. เป้าหมาย 5 กิโลของคุณ เปลี่ยนเป็นสัดส่วนลดลงดีกว่าไหม? เลิกสนใจน้ำหนัก มาสนใจไขมันส่วนเกินดีกว่าค่ะ ยิ่งถ้าคิดจะเล่นเวทด้วยแล้ว ลืมเรื่องน้ำหนักไปได้เลย ใช้ส่องกระจกวัดสัดส่วนจากสายตาเอา หรือใช้สายวัดวัดเอาดีกว่าค่ะ
การนับแคลก็เป็นวิธีที่ดีค่ะ แต่ต้องรู้ปริมาณพลังงานที่เราควรได้รับจริง แล้วกำหนดให้อยูในช่วงที่เราต้องการ คือถ้าอยากลดให้ทานต่ำกว่า BMR 10-20% ค่ะ
อันนี้เว็บหาค่า BMR >> http://www.never-age.com/bmr_2.php
***ตัวเลขน้ำหนักที่ใช้ในการคำนวน จะต้องเป็นน้ำหนักที่ไม่รวมไขมัน เปรียบเทียบเอาจากรูปนะคะ
การเล่นเวท ต้องทานโปรตีนให้ได้ 1-1.5 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (ทั้งนี้น้ำหนักตัวไม่รวม Boby Fat นะคะ เปรียบเทียบจากรูปด้านบนเหมือนเดิม) เพื่อให้ร่างกายจะได้มีวัตถุดิบในการสร้าง/ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และส่วนต่างๆของร่างกายค่ะ
4. คงต้องรับผลกรรมไปสักพักค่ะ จนกว่าร่ายกายจะปรับได้ ออกกำลังกายไปเรื่อยๆ ช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญได้ แล้วช่วงนี้อย่าลดคาร์บมาก ให้กินคาร์บปกติ แต่เปลี่ยนเป็นคาร์บดี อย่างเช่น ข้าวกล้อง เคยอ่านมาว่าคาร์บช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้นะ บางคนยอมอัดคาร์บ เพื่อเพิ่มเมตาโบ จนอ้วนขึ้นมานิดนึง ได้ที่แล้วก็รีดออก (โปรดใช้วิจารณญาณ)
ปล.พิมพ์ในมือถือ ลำบากจังเลย ^ ^
2. เราว่าการเล่นโยคะ ไม่ควรซ้ำกับเวทในวันหนึ่งๆ และเวทควรเล่นวันเว้นวัน ถ้าเล่นโดน อาจต้องเว้นสองสามวัน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัฒนา ควรพักกล้ามเนื้อส่วนที่เล่นอย่างน้อย 48 ชั่วโมง ถ้าต้องการเล่นทุกวัน ควรสลับวันเล่นกล้ามเนื้อแต่ละส่วนไป เช่น วันที่ 1 เล่นอก กับน่อง , วันที่ 2 เล่นต้นขา กับไบเซบ , วันที่ 3 ไหล่ กับ หลัง วันที่ 4 ก็กลับมาเล่นเหมือนวันที่ 1 วนไปเรื่อยค่ะ
ช่วงเย็นควรเล่นเวทก่อน แล้วค่อยวิ่ง และการวิ่งหลังเวท ให้วิ่งแค่ 20 นาทีพอค่ะ
3. เป้าหมาย 5 กิโลของคุณ เปลี่ยนเป็นสัดส่วนลดลงดีกว่าไหม? เลิกสนใจน้ำหนัก มาสนใจไขมันส่วนเกินดีกว่าค่ะ ยิ่งถ้าคิดจะเล่นเวทด้วยแล้ว ลืมเรื่องน้ำหนักไปได้เลย ใช้ส่องกระจกวัดสัดส่วนจากสายตาเอา หรือใช้สายวัดวัดเอาดีกว่าค่ะ
การนับแคลก็เป็นวิธีที่ดีค่ะ แต่ต้องรู้ปริมาณพลังงานที่เราควรได้รับจริง แล้วกำหนดให้อยูในช่วงที่เราต้องการ คือถ้าอยากลดให้ทานต่ำกว่า BMR 10-20% ค่ะ
อันนี้เว็บหาค่า BMR >> http://www.never-age.com/bmr_2.php
***ตัวเลขน้ำหนักที่ใช้ในการคำนวน จะต้องเป็นน้ำหนักที่ไม่รวมไขมัน เปรียบเทียบเอาจากรูปนะคะ
การเล่นเวท ต้องทานโปรตีนให้ได้ 1-1.5 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (ทั้งนี้น้ำหนักตัวไม่รวม Boby Fat นะคะ เปรียบเทียบจากรูปด้านบนเหมือนเดิม) เพื่อให้ร่างกายจะได้มีวัตถุดิบในการสร้าง/ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และส่วนต่างๆของร่างกายค่ะ
4. คงต้องรับผลกรรมไปสักพักค่ะ จนกว่าร่ายกายจะปรับได้ ออกกำลังกายไปเรื่อยๆ ช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญได้ แล้วช่วงนี้อย่าลดคาร์บมาก ให้กินคาร์บปกติ แต่เปลี่ยนเป็นคาร์บดี อย่างเช่น ข้าวกล้อง เคยอ่านมาว่าคาร์บช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้นะ บางคนยอมอัดคาร์บ เพื่อเพิ่มเมตาโบ จนอ้วนขึ้นมานิดนึง ได้ที่แล้วก็รีดออก (โปรดใช้วิจารณญาณ)
ปล.พิมพ์ในมือถือ ลำบากจังเลย ^ ^
แสดงความคิดเห็น
ขอคำแนะนำเรื่องการออกกำลังกายหน่อยค่ะ :D
1. เป็นคนเหงื่อออกเยอะมากๆ ตอนโยคะคือชุ่มไปทั้งแมทโยคะเลยค่ะ ยิ่งพอมาฝึกโปรแกม HIIT // Cardio นี่มันท่วมจนชุ่มไปทั้งตัว เหงื่อหยดเหมือนรูขุมขนรั่วเลยค่ะ - -* คือโดยส่วนตัวก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่รู้ว่าเเบบนี้จะส่งผลกับสุขภาพในระยะยาวมั้ยคะ?
2. ตอนนี้ ออกกำลังวันละสองครั้ง คือเช้าจะเป็นโยคะ ประมาณ 30 นาที - 1 ชม. และเย็นเป็น cardio / HIIT / weight training ด้วยตัวเอง ประมาณ 1ชม. - 1 ชม. ครึ่ง เป็นแบบนี้ทุกวันเลยค่ะนอกจากวันไหนออกไปปั่นจักรยานหรือจ๊อกกิ้งก็จะไม่มีโปรเเกรมเย็นค่ะ แบบนี้มากเกินไปรึเปล่าคะ?
3. มีเป้าหมายว่าจะลดนน. 5 กกภายในสองเดือนด้วยเลยจำกัดอาหารอยู่ที่ 1000 - 1200 แคลอรี่ต่อวัน ถ้าจำกัดไปแบบนี้พร้อมกับโปรแกรมออกกำลังข้างต้นจะเวิร์คมั้ยคะ?
4. ก่อนหน้านี้เคยลดแบบกินมื้อเช้า กลางวันกินโยเกิร์ตไขมันต่ำ กับแอปเปิ้ล 1 ผล และงดมื้อเย็นควบคู่ไปกับโยคะตอนเย็นค่ะ ซึ่งนน.ก็ลดเร็วจริงนะคะ เคยลดลงไปถึง 48 กก. แต่ว่าพอหยุดเพราะว่าไปต่างประเทศครึ่งเดือนเท่านั้นก็โยโย่กลับชนิดที่ว่าไม่ทันได้ตั้งตัวเลย - -* แบบนี้เเสดงว่าอัตราเมตาบอลิซึ่มต่ำลงถาวรแล้วใช่มั้ยคะ TT^TT ถ้าอยากเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึมควรทำยังไงดี?
ช่วยให้คำแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ