จากตอนที่แล้วที่บักแว่นแอบย่องกลับบ้านเข้ามาเอาสมุดโน้ตของพี่ชายไปติวให้อากิจัง โดยกะแค่มาเอาโน้ตแล้วเผ่นกลับโรงเรียนเลย แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อวันนี้ทั้งเตี่ยทั้งแม่ดันอยู่บ้านพอดี แถมพอจะตัดบทเดินหนี ท้องเจ้ากรรมก็ดันมาร้องได้จังหวะพอดีซะอีก บักแว่นของเราเลยโดนแม่ลากให้มานั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกันด้วยประการฉะนี้แล
บรรยากาศมาคุระหว่างสองพ่อลูกขณะนั่งรอข้าวเที่ยงของแม่
กระทั่งนั่งกินข้าวก็ยังมาคุกันไม่เลิก
ที่สุดหลังจากนั่งมาคุกันพักใหญ่ บักแว่นก็พยายามหาเรื่องมาคุยกับเตี่ยให้เป็นเรื่องเป็นราวตามที่ปู่ของอากิจังเคยแนะนำมา แต่ก็ได้มาแต่คำตอบแบบถามคำตอบคำ แถมยังวกมาย้อนใส่อีกว่าให้เรียนไปอย่าสนเรื่องไม่เข้าเรื่อง เล่นเอาบักแว่นถึงกับฉิววูบขึ้นมา แต่ก็พยายามข่มไว้แล้วพยายามคุยต่อ โดยคราวนี้วกไปคุยเรื่องของเพื่อนตัวเองคนหนึ่ง (อากิ) ที่ต้องเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ไม่งั้นก็ทำความฝันให้เป็นจริง (ทำงานอะไรก็ได้เกี่ยวกับม้า) ไม่ได้ และยอมรับว่าที่พ่อเคยพูดว่าถ้าไม่มีประวัติการเรียนดีๆ ไม่มีเกรดดีๆ ในทรานสคริปต์ก็ทำอะไรไม่ได้นั้นมีส่วนถูกอยู่จริงๆ เตี่ยก็ถามว่า ที่กลับมาเอาโน้ตของพี่ไปก็เพื่อเพื่อนคนนั้นเหรอ บักแว่นก็ยอมรับว่าใช่ ตัวเองกลับมาเอาโน้ตของพี่ไปสอนเพื่อนคนนั้น
เลยเจอเตี่ยย้อนเข้าเต็มหน้าแงว่า
"คนที่เรียนไม่ทันคนอื่นเขาอย่างแกมีหน้าไปสอนเรื่องเรียนให้คนอื่นรึไง?"
เจอคำพูดดูถูกของเตี่ยเข้าไปแบบนั้น บักแว่นก็ถึงกับน็อตหลุด ลุกขึ้นใส่เตี่ยเป็นชุดๆ ว่า แล้วไง คนทำพลาดไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลยรึไง พลาดครั้งเดียวแล้วจะต้องพลาดไปตลอดรึไง วิธีคิดแบบเตี่ยมันวิธีคิดแบบเห็นคนเป็นสัตว์เศรษฐกิจ เป็นวัวเป็นไก่ที่ไม่มีค่าถ้าออกไข่หรือให้นมไม่ได้ตามที่เจ้าของต้องการชัดๆ แล้วสำทับต่อว่า กระทั่งในวงการการเกษตรเองก็มีคนเลี้ยงที่ไม่ยอมกำจัดสัตว์เลี้ยงของตััวเองง่ายๆ อยู่ ในการแข่งขี่ม้าข้ามสิ่งกีดขวางเองก็ใหโอกาสม้าที่กระโดดพลาดได้กระโดดอีกครั้งด้วยเหมือนกัน ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยประโยคคำถามที่อัดอั้นอยู่ในใจตัวเองมานานว่า
"พ่อเห็นผมต่ำชั้นกว่าสัตว์เศรษฐกิจพวกนั้นงั้นเหรอ?"
บังเกิดความเงียบอันน่าอึดอัดขึ้นภายในห้องกินข้าวทันที บักแว่นจ้องตาพ่ออย่างแข็งกร้าวไม่ยอมลดราวาศอก ในขณะที่พ่อจ้องตอบกลับด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึกอย่างเคยเท่านั้น
จ้องหน้ากันได้ครู่ใหญ่ บักแว่นก็เป็นฝ่ายเดินถอยออกมา แล้วคว้าถุงใส่โน้ตของพี่ชายเดินออกจากบ้านไปแล้วปิดประตูดังโครม (โดยไม่ลืมเก็บจานชามให้เรียบร้อยด้วย) โดยมีแม่มองตามหลังไปอย่างเป็นห่วง
อ่านตอนนี้จบแล้วขอมอบภาพนี้ให้บักแว่นเลยแฮะ
นับเป็นครั้งแรกในเรื่องเลยนะเฟ้ยที่เอ็งดีเบตกับเตี่ยเอ็งแล้วทำให้อีกฝ่ายจนด้วยถ้อยคำเถียงไม่ออกได้แบบนี้ ถึงอีกฝ่ายจะเอาแต่เงียบไม่ยอมรับก็เถอะ แต่การเงียบไม่ยอมพูดย้อนลูกอย่างทุกทีก้แสดงให้เห็นชัดๆ แล้วว่าไม่รู้จะหาอะไรมาดีเบตกับลูกได้
นับว่ามีพัฒนาการจริงๆ
สุดท้ายสำหรับเตี่ยในตอนนี้...ถ้ายังทำตัวแบบนี้ต่อไปละก็ ระวังบั้นปลายชีวิตจะเป็นอย่างท่านผู้นี้ในคลิปนี้นะ เหอๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดอน ไมเคิล คอร์เลโอเน แห่ง The Godfather ภาค 3 ผู้จบชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมีแต่หมาตัวเดียวอยู่เคียงข้าง
[Spoil] ช้อนเงินคนแปรธาตุ (Silver Spoon) #73 - การดีเบตยกสองระหว่างพ่อกับลูกชาย
บรรยากาศมาคุระหว่างสองพ่อลูกขณะนั่งรอข้าวเที่ยงของแม่
กระทั่งนั่งกินข้าวก็ยังมาคุกันไม่เลิก
ที่สุดหลังจากนั่งมาคุกันพักใหญ่ บักแว่นก็พยายามหาเรื่องมาคุยกับเตี่ยให้เป็นเรื่องเป็นราวตามที่ปู่ของอากิจังเคยแนะนำมา แต่ก็ได้มาแต่คำตอบแบบถามคำตอบคำ แถมยังวกมาย้อนใส่อีกว่าให้เรียนไปอย่าสนเรื่องไม่เข้าเรื่อง เล่นเอาบักแว่นถึงกับฉิววูบขึ้นมา แต่ก็พยายามข่มไว้แล้วพยายามคุยต่อ โดยคราวนี้วกไปคุยเรื่องของเพื่อนตัวเองคนหนึ่ง (อากิ) ที่ต้องเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ไม่งั้นก็ทำความฝันให้เป็นจริง (ทำงานอะไรก็ได้เกี่ยวกับม้า) ไม่ได้ และยอมรับว่าที่พ่อเคยพูดว่าถ้าไม่มีประวัติการเรียนดีๆ ไม่มีเกรดดีๆ ในทรานสคริปต์ก็ทำอะไรไม่ได้นั้นมีส่วนถูกอยู่จริงๆ เตี่ยก็ถามว่า ที่กลับมาเอาโน้ตของพี่ไปก็เพื่อเพื่อนคนนั้นเหรอ บักแว่นก็ยอมรับว่าใช่ ตัวเองกลับมาเอาโน้ตของพี่ไปสอนเพื่อนคนนั้น
เลยเจอเตี่ยย้อนเข้าเต็มหน้าแงว่า
"คนที่เรียนไม่ทันคนอื่นเขาอย่างแกมีหน้าไปสอนเรื่องเรียนให้คนอื่นรึไง?"
เจอคำพูดดูถูกของเตี่ยเข้าไปแบบนั้น บักแว่นก็ถึงกับน็อตหลุด ลุกขึ้นใส่เตี่ยเป็นชุดๆ ว่า แล้วไง คนทำพลาดไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลยรึไง พลาดครั้งเดียวแล้วจะต้องพลาดไปตลอดรึไง วิธีคิดแบบเตี่ยมันวิธีคิดแบบเห็นคนเป็นสัตว์เศรษฐกิจ เป็นวัวเป็นไก่ที่ไม่มีค่าถ้าออกไข่หรือให้นมไม่ได้ตามที่เจ้าของต้องการชัดๆ แล้วสำทับต่อว่า กระทั่งในวงการการเกษตรเองก็มีคนเลี้ยงที่ไม่ยอมกำจัดสัตว์เลี้ยงของตััวเองง่ายๆ อยู่ ในการแข่งขี่ม้าข้ามสิ่งกีดขวางเองก็ใหโอกาสม้าที่กระโดดพลาดได้กระโดดอีกครั้งด้วยเหมือนกัน ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยประโยคคำถามที่อัดอั้นอยู่ในใจตัวเองมานานว่า
"พ่อเห็นผมต่ำชั้นกว่าสัตว์เศรษฐกิจพวกนั้นงั้นเหรอ?"
บังเกิดความเงียบอันน่าอึดอัดขึ้นภายในห้องกินข้าวทันที บักแว่นจ้องตาพ่ออย่างแข็งกร้าวไม่ยอมลดราวาศอก ในขณะที่พ่อจ้องตอบกลับด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึกอย่างเคยเท่านั้น
จ้องหน้ากันได้ครู่ใหญ่ บักแว่นก็เป็นฝ่ายเดินถอยออกมา แล้วคว้าถุงใส่โน้ตของพี่ชายเดินออกจากบ้านไปแล้วปิดประตูดังโครม (โดยไม่ลืมเก็บจานชามให้เรียบร้อยด้วย) โดยมีแม่มองตามหลังไปอย่างเป็นห่วง
อ่านตอนนี้จบแล้วขอมอบภาพนี้ให้บักแว่นเลยแฮะ
นับเป็นครั้งแรกในเรื่องเลยนะเฟ้ยที่เอ็งดีเบตกับเตี่ยเอ็งแล้วทำให้อีกฝ่ายจนด้วยถ้อยคำเถียงไม่ออกได้แบบนี้ ถึงอีกฝ่ายจะเอาแต่เงียบไม่ยอมรับก็เถอะ แต่การเงียบไม่ยอมพูดย้อนลูกอย่างทุกทีก้แสดงให้เห็นชัดๆ แล้วว่าไม่รู้จะหาอะไรมาดีเบตกับลูกได้
นับว่ามีพัฒนาการจริงๆ
สุดท้ายสำหรับเตี่ยในตอนนี้...ถ้ายังทำตัวแบบนี้ต่อไปละก็ ระวังบั้นปลายชีวิตจะเป็นอย่างท่านผู้นี้ในคลิปนี้นะ เหอๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้