ธาตุ ปรุงเป็น อายตนะ .... (ตามกฏ อิทัปปัจจยตาปฏิจจสมุปบาโท เพราะ มีอวิชชาเป็นหัวขบวน)

มโน (ธาตุ) เมื่อตั้งขึ้นในฐานะ เป็นอายตนะภายใน เพราะ อายตนะภายนอก คือธัมมารมณ์ ก็เข้ามาสู่ มโนทวาร

ประเด็นสนทนา

ใครว่า "อายตนะของพระอรหันต์ เหมือนกับ อายตนะของปุถุชน" (เมื่อกำหนดที่ พระอรหันต์ท่านนั้น เช่น กรณี อุปติสสะ)

^^^^^
กำหนดตาม ที่ตรัสว่า (พระสูตรที่ ๕ นกุลปิตุวรรค ขันธสังยุตต์ ขนฺธ สํ ๑๗/๑๘/๒๗)

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุนั้น ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ำสรรเสริญ ย่อมเมาหมกอยู่ซึ่ง (รูป ซึ่งเวทนา ซึ่งสัญญา ซึ่งสังขารทั้งหลาย)  ซึ่งวิญญาณ

นันทิ ย่อมเกิดขึ้น -------------------------------------------------------> (กลับกัน คือไม่เพลิดเพลิน ฯ  นันทิก็ดับไป)


ความเพลินใด  ใน วิญญาณ  ความเพลินนั้น คือ อุปาทาน ------------> (ความเพลิน = เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมี ความเพลิน)
เพราะมีอุปาทาน (ความเพลิน) เป็นปัจจัย จึงมี ภพ
เพราะมีภพ เป็นปัจจัย จึงชาติ ------------------------------------------>ร้องไห้ชาติแบบนี้  ไม่เกี่ยวกับ คร่อม ๓ ภพ ๓ ชาติ --- ชัวร์)

เพราะมีชาติ เป็นปัจจัย  (ตามด้วย ไม่ตรัสว่า จึงมี ทุกข์อริยสัจคือ) ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย
จึงเกิดขึ้นครบถ้วน

ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ (อริยสัจ) ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
นี้คือความเกิดขึ้นแห่งรูป นี้คือความเกิดขึ้นแห่งเวทนา นี้คือความเกิดขึ้นแห่งสัญญา นี้คือความเกิดขึ้นแห่งสังขารทั้งหลาย นี้คือความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณ -----------------------------------------------------------> = ธาตุ ปรุงเป็น อายตนะ / ปรุงเป็น ขันธ์ ๕  
                                                                                               ขันธ์ทั้ง ๕ ที่ เนื่องกับ นันทิคืออุปาทาน เพราะ อวิชชา

^^^^
ใครว่า "อายตนะที่ ๖ (มโนอันเป็นอายตนะภายใน)" ของพระอรหันต์ (ตามจูฬสุญญตสูตร)  เหมือนกับ สมัยที่ท่าน ยังเป้นปุถุชน"

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่