ตั้งแต่สมัยที่ฉันยังเป็นเด็ก วันสงกรานต์ จะเป็นวันเวลา
ที่ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นรอคอยมากที่สุดในทุกๆ ปี  
รู้สึกว่ามันมีความหมายมากกว่าเทศกาลอื่นๆ

ในหมู่บ้านที่ฉันอยู่สมัยนั้น จะมีการเตรียมทำอาหารและเครื่องดื่ม
เพื่อวันสงกรานต์ ล่วงหน้าหลายวัน คือ การทำขนมจีน กับเหล้าสาโท
(ฉันแอบตักดื่มกินเรื่อยเพราะมันหวานดี แต่มันทำให้เมาผู้ใหญ่จึงไม่อนุญาต)
ซึ่งอาหารและเครื่องดื่ม 2 อย่างนี้ ต้องใช้เวลาหมักบ่มหลายวัน

เมื่อถึงวันก่อนสงกรานต์ 1 วัน ตกกลางคืน
ชาวบ้านจะมีการมารวมตัวกัน ช่วยกันทำขนมจีน
จะเอาแป้งที่หมักได้ที่แล้ว มานวดให้เหนียว ใส่ครกใบใหญ่ๆ
ต้องใช้คนที่มีกำลัง มีร่างกายแข็งแรง ช่วยกันตำถึง 2 คน

ต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการบีบโรยขนมจีนให้เป็นเส้นสวยๆ ลงในหม้อน้ำร้อนใบใหญ่ๆ
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะเป็นคนแ่ก่ๆ ในหมู่บ้าน
อีกกลุ่มก็จะช่วยกันปอกหอมกระเทียมทำเครื่องแกง
ทั้งน้ำยาขนมจีนและแกงเขียวหวาน

ส่วนฉันวิ่งเล่นบ้าง เอาแป้งมาปั้นเป็นรูปต่างๆ โยนใส่หม้อน้ำร้อนบ้าง เอาไปเผาไฟบ้าง
แล้วก็เอามากินกันเป็นที่สนุก กับเด็กๆ ด้วยกัน
ความสนุกสนานเช่นนั้น ทำให้ฉันชอบเทศกาลวันสงกรานต์มาก

ยายของฉัน ก็เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญผู้มีฝีมือในการทำขนมจีนและน้ำยา
แม่กับยายของฉันเคยทำขนมจีนหาบไปขายตามบ้านคนในหมู่บ้าน
ฉันยังจำเพลง ที่แม่กับยายร้องขณะหาบขนมจีนว่า "ขนมจีนแม่เอ๊ย..."
"ขนมจีนแม่วัลลา คู่กับน้ำยาพระอภัย..ถั่วงอกเสาวคนธ์คู่พริกป่นสหชัย...."

แต่พอถึงสงกรานต์ จะรวมตัวกันทำขนมจีนเพื่อรุ่งเช้าจะนำไปที่วัด
เพื่อทำบุญและเหลือจากนั้นก็จะเป็นอาหาร สำหรับผู้คนที่ไปเล่นสงกรานต์กันหลังจากทำบุญกันเสร็จ
เพราะหลังทจาทำบุญเสร็จ คนหนุ่มๆ สาวๆ ก็จะเล่น การละเล่นที่ลานวัด
คนเฒ่าคนแก่ หรือคนมีอายุมากแล้ว ก็จะจับกลุ่มพูดคุย และดูการเล่นของหนุ่ม-สาว
ส่งเสียงเชียร์กันเป็นที่สนุกสนาน

ฉันยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ และถูกจำกัดให้เป็นคนสงบเสงี่ยมเรียบร้อย
คนหนุ่ม-สาว  เมื่อเล่นกันจนเหนื่อยแล้วก็จะพากันไปเที่ยวเล่นน้ำที่อื่น ไปกันเป็นกลุ่มใหญ่
ฉันอยากไปด้วยแต่ไม่เคยได้รับอนุญาต ผู้ใหญ่บอกว่าให้โตก่อนแล้วจะให้ไป

ดังนั้นฉันจึงเฝ้ารอว่า เมื่อไหร่ฉันจะโตสักที วันสงกรานต์ฉันจะได้ไปเที่ยวสนุกกับคนอื่นๆ
จนกระทั่งฉันโต ฉันก็ไม่ค่อยได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยววันสงกรานต์นัก
เพราะเมื่อฉันโตเป็นสาว กิจกรรมวันสงกรานต์แบบที่ฉันเคยเห็นตอนเ็ด็กๆ ก็แทบไม่มีแล้ว
พอได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวดูคนเล่นสงกรานต์ ก็เจอแต่พวกผู้ชายที่คอยจ้องแต่จะอาศัย
คำว่า ประเพณีสงกรานต์ มาแตะเนื้อต้องตัวฉัน ซึ่งฉันไม่ชอบมากๆ

จนกระทั่งปัจจุบัน วันสงกรานต์ กลายเป็นวันที่ฉันไม่อยากให้มีเลย
แม้แต่การจะไปวัดเพื่อทำบุญตักบาตร ก็ไม่สามารถจะไปทำได้
เพราะกลัวว่าพออกจากบ้านก็จะมีพวกฉวยโอกาสอ้างเอาวันสงกรานต์เป็นที่ระบายความถ่อยใส่

วันนี้จึงขอเปิดกระทู้ ระบายความในใจในวันสงกรานต์สักวัน