สวัสดีครับ อยู่กันมาถึงบทที่ 3 แล้วนะครับ ขอบคุณนะครับที่ตามกันเข้ามาอ่านนี้ อยากจะขอชี้แจงหน่อยว่า ตั้งแต่บทที่ 3 เป็นต้นไปเหตุการณ์จะแบ่งออกเป็น 2 ภาคนะครับ คือ ภาคอดีต กับภาคปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อป้องกันการสับสน ภาคปัจจุบันผมขอใช้ตัวอักษรแบบเดิมนะครับ ส่วนภาคอดีต จะใช้ตัวเอียงนะครับ
บทที่ 3
มันจะมีแต่ภาพเก่าๆ ที่จะกลับมาทำร้าย
บาสเมื่อลงมาจากห้องพักอาจารย์ก็ได้เจอกับนักศึกษาชายผิวขาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง มากับเพื่อนที่เอามือกุมที่แก้มของตัวเองและสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เด็กคนนั้นบาสคุ้นหน้าเป็นอย่างดี
“โอม มาที่นี่ทำไมครับ” บาสรีบเดินเข้าไปทักด้วยความตื่นเต้น
“พอดีโอมพาเพื่อนมาหาหมออ่ะครับ เห็นมันปวดฟัน ไม่ทราบคลินิกไปทางไหนเหรอครับ” โอมรีบถาม
“งั้นตามพี่มาเลยครับ” บาสพูดแล้วเดินนำสองคนนั้นไปที่คลินิกทันที พอเพื่อนของโอมเข้าไปในห้องตรวจ โอมก็นั่งรออยู่หน้าห้อง โดยที่บาสนั่งรออยู่ข้างๆ ด้วย โอมจึงค่อยๆ หันไปมอง
“พี่ยังไม่กลับหออีกเหรอครับ นี่มันก็เย็นแล้วนะ” โอมพูดแล้วรีบหันกลับมาทันที
“พี่อยากนั่งเป็นเพื่อนโอมอ่ะครับ นานๆ จะได้เจอโอมสักที” บาสพูด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ โอมก็มีเพื่อนกลับแล้วนี่ครับ พี่กลับไปเถอะครับ ขอบคุณนะครับที่พามาส่ง” โอมพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆ แต่ก็ดูเย็นชาสำหรับบาส
“โอมครับ โอมจะว่าอะไรมั้ย ถ้าเรา....” บาสกำลังเริ่มพูด
“เป็นพี่น้องกันใช่มั้ยครับ ถ้าพี่คิดแบบนี้โอมจะสบายใจมากเลยนะครับ” โอมพูดตัดบทและยิ้มเบาๆ แต่หน้ายังคงไม่มองหน้าบาส
“พี่ก็ว่าจะพูดแบบนี้เหมือนกัน จะว่าอะไรมั้ยถ้าพี่จะขอโทรหาโอมบ้างอ่ะครับ” บาสถามเชิงขออนุญาต
“ถ้าเป็นไปได้โอมว่าอย่าโทรเลยดีกว่านะครับ แต่โอมคงบังคับพี่ไม่ได้หรอกใช่มั้ยครับถ้าพี่จะโทร” โอมพูดด้วยคำที่กำกวมเนื่องจากความสับสนในใจ
“ครับ เอาเป็นว่า ถ้ามันไม่จำเป็นจริงๆ พี่ก็จะไม่โทรก็แล้วกันนะครับ” บาสพูด โอมพยักหน้าเบาๆ
“งั้นพี่กลับก่อนนะครับ ฝากบอกเพื่อนโอมให้หายเร็วๆ ด้วยล่ะ” บาสพูดแล้วยิ้มให้โอมที่กำลังทำหน้านิ่งๆ แต่ก็แอบยิ้ม แล้วก็เดินจากไป
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้บาสได้กลับมาสนใจในการเรียนอีกครั้ง เพราะโดยปกติแล้วบาสเป็นคนที่เรียนเก่งมาก สามารถสอบตรงเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้อย่างสบายโดยไม่ต้องรอสอบเอนทรานซ์
วันต่อมาหลังจากเลิกเรียนแล้วบาสก็พยายามค้นหาเบอร์โทรของโอมหลังจากที่ลบไปแล้ว และก็หาเจอจนได้ จึงเสี่ยงโทรหาโอมโดยแอบหวังว่าโอมจะยังใช้เบอร์เดิมอยู่ จึงค่อยๆกดโทรหาโอม ขึ้นสายว่างแต่ไม่มีใครรับ คงคิดว่าคงไม่อยากจะคุยกับตัวเองแล้ว “โอมพี่อยากจะกับโอมบ้างไม่ได้เหรอครับ พี่แค่อยากจะคุยก็แค่นั้น พี่รู้ดีครับว่ามันคงไม่เป็นเหมือนเดิมแน่ๆ พี่แค่อยากได้ยินเสียงเองไม่ได้เหรอ” บาสพูดกับตัวเอง น้ำตาของบาสเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง
แล้วภาพเก่าๆ ก็กลับย้อนขึ้นมาอีก ในที่บาสคบกับโอมตอนเรียนมัธยม โอมรักบาสมากไม่เคยทำให้บาสผิดหวัง ไม่เคยขัดใจบาสแม้แต่ครั้งเดียว บาสพูดอะไรโอมก็จะรับฟังตลอด เหมือนเป็นเด็กที่อยู่ในโอวาทของผู้ใหญ่ แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่โอมไม่อยากจะทำ
“โอม พี่ว่าเราห่างๆ กันสักพักดีมั้ย” บาสพูดกับโอม
“ทำไมล่ะครับ พี่มีปัญหาอะไรบอกโอมได้นะครับ” โอมถามอย่างสงสัย โดยไม่รุ้เลยว่าบาสกำลังโกหกตัวเองอยู่
“ป่าว พี่มีอะไรต้องทำอีกหลายอย่าง ไหนจะอ่านหนังสือสอบ ไหนจะเคลียร์งานส่งอาจารย์อีก เราห่างกันสักพักเถอะนะ” บาสเริ่มสาธยาย
“ก็ได้ครับ แต่โอมขอโทรหาพี่อาทิตย์ละครั้งได้ป่ะครับ แค่วันเดียวเองนะครับ” โอมต่อรอง เพราะตั้งแต่คบกันโอมไม่เคยห่างบาสเลย
“ก็บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ไง” บาสเริ่มตะหวาดใส่โอม โอมตกใจแล้วเงียบก้มหน้า บาสถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหมือนจะคุยในเรื่องที่เบื่อหน่ายไร้สาระ แล้วเข้ามาจับไหล่โอม ให้เงยหน้าขึ้น
“โอม ฟังพี่นะ ช่วงนี้พี่ไม่มีเวลาจริงๆ พี่ต้องเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย โอมไม่อยากให้พี่สอบเข้ามหาวิทยาลัยเหรอได้เหรอครับ” บาสพูดแบบปั้นหน้าใส่โอม
“อยากสิครับ” โอมตอบแบบหงอยๆ
“ถ้าอยากให้พี่สอบติด ก็ต้องให้เวลาพี่นะครับรู้มั้ย” บาสพูดแล้วยิ้มให้โอม โอมพยักหน้าด้วยความจำใจ แต่ก็ต้องยอมเพราะไม่อยากให้บาสไม่สบายใจ และก็อยากที่จะเห็นคนรักของตัวเองประสบผลสำเร็จ
เสียงโทรศัพท์ของบาสดังขึ้น บาสตื่นจากภวังค์ เมื่อเห็นเป็นเบอร์ของโอมโทรเข้ามาบาสจึงรีบรับ
“ฮัลโหล โอมเหรอครับ” บาสพูดด้วยความใจสั่น
“ครับโอมเอง พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ โทรหาโอมเป็นสิบกว่าสายเลยอ่ะครับ” โอมสงสัยที่เห็นเบอร์ของบาสขึ้นเป็นสิบกว่าสาย โดยที่โอมไม่เคยลบเบอร์ของบาสทิ้งเลย
“พี่ ฮึก แค่ อยากได้ยินเสียงโอมเท่านั้นเองครับ” บาสพูดเสียงสั่นแล้วร้องไห้ออกมา อย่างกระวนกระวายใจ
“แล้วมีธุระอะไรอีกมั้ยครับ นอกจากแค่ได้ยินเสียง” โอมถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น และรู้ว่าบาสร้องไห้อยู่ แต่ที่จริงแล้วก็สงสารบาสเช่นกัน แต่ก็ต้องทำเพื่อให้บาสตัดใจจากตัวเองสักที เพราะโอมก็กลัวความรู้สึกตัวเองเช่นกัน
“ไม่มีครับ พี่ต้องการแค่นั้น” บาสพูดแล้วพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองดูดีขึ้นค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าดังๆ
“ถ้าได้ยินแล้วเราก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้วนะครับ” โอมพูดห้วนๆ แล้วก็กดวาง แล้วก็ร้องไห้ออกมาทันที นี่เราทำอะไรลงไป เราทำร้ายเค้าเหรอ เราไม่เคยพูดแบบนี้กับเค้าเลยนะ หรือว่าเราหมดรักเค้าแล้ว ความคิดของโอมชนกันไปมาอีกครั้ง
เมื่อรู้ว่าโอมกดวางไปแล้ว แล้วก็ร้องไห้ต่อ เราเป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอ ทุกทีโอมไม่เคยพูดกับเราแบบนี้เลยนะ แม้แต่ขึ้นเสียงกับเราสักครั้งก็ไม่เคยมี โอมจะให้พี่ทำยังไงดีล่ะครับ พี่รักโอมนะครับ พี่ลืมโอมไม่ได้จริงๆ พี่ไม่อยากเป็นแค่พี่ชายพี่อยากให้เราเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย 2 ปีแล้วนะที่พี่ทิ้งโอมไป แต่พี่ก็ยังไม่ลืมโอมนะครับ ใช่สิพี่มันโง่เองที่เห็นคนอื่นดีกว่าโอม นักกีฬาที่แสนน่ารักของพี่
“เฮ้ยแก แกเห็นน้องที่เล่นตะกร้อคนนั้นป่ะวะ โคตรน่ารักเลยว่ะ” เพื่อนในกลุ่มเกย์ของบาสคนหนึ่งทักขึ้น แล้วชี้ไปที่โอมที่กำลังซ้อมตะกร้อกับทีมอยู่
“ไหนวะ เออว่ะก็น่ารักนะ แต่ฉันว่าชอบชะนีชัวร์ เลิกหวังเถอะแก ไอ้ต้น” บาสพูด แต่สายตาก็มองโอมอย่างไม่ลดละ
“ก็ไม่แน่นะโว้ย ไม่ลองไม่รู้นะ เฮ้ยแกระวังๆ” ต้นพูดแล้วเห็นลูกตะกร้อลอยมาในกลุ่มที่มีคนนั่งอยู่ประมาณ 4-5 คน ทำให้วงแตก แล้วก็มีเด็กผู้ชายม.ต้นหัวเกรียนคนหนึ่งวิ่งตามเก็บ โอมนั่นเอง
“เฮ้ย เล่นกันหัดดูคนซะบ้างสิวะ” เพื่อนในกลุ่มบาสอีกคนทำฟอร์มเข้มใส่โอม เพราะคนในกลุ่มของบาสแต่ละคนร่างกายที่แข็งแรงบึกบึน มีกล้ามเป็นมัดๆ เหมือนผู้ชายทั่วไป และในกลุ่มของบาสก็ยังเป็นนักกีฬารักบี้ประจำโรงเรียนด้วย โดยสามารถเล่นร่วมกับผู้ชายจริงๆ ได้อย่างกลมกลืน
“ผมขอโทษจริงๆ ครับ พวกพี่เป็นอะไรกันมั้ยครับ” โอมยกมือไหว้ทุกคน แล้วก็มีอีกคนหนึ่งถือลูกตะกร้อไว้เหมือนเป็นตัวประกัน
“เป็นอะไรล่ะ ก็เจ็บสิครับ เจ็บที่ใจอยากได้คนมารักษาอ่ะครับ น้องช่วยมารักษาพี่ให้หน่อยสิครับ” ต้นพูดแล้วทำตาหวานใส่ โอมทำหน้าเจื่อนๆ
“แล้วชื่ออะไร ชั้นอะไรฮะ เราอ่ะ” คนที่ถือตะกร้อถาม
“ชื่อโอมครับ อยู่ ม.3 ครับ” โอมแนะนำตัวอย่างนอบน้อม และตัวยังเกร็งๆ
“โอ้ น้องโอมครับ ตอนนี้เหนื่อยมั้ยครับ” คนที่ทักตอนแรกถามโอม
“ทำไมเหรอครับ” โอมถามอย่างสงสัย
“ก็ตอนนี้น้องโอมเข้าไปวิ่งเล่นในหัวใจพี่อยู่น่ะสิครับ” คนเดิมตอบ
“อ้วก” เพื่อนๆในกลุ่มทำท่าทางเหมือนกัน โอมทำหน้าเจื่อนๆอีกครั้ง
“คือว่าผมจะได้ลูกตะกร้อคืนได้ยังครับ” โอมถามอย่างสุภาพ
“เอ้าได้ไงอ่ะ ก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนกันหน่อยสิครับ ทำไรดีวะไอ้บอม” คนที่ถือตะกร้อบอก และถามคนที่หยอดโอม
“ให้น้องโอม หอมแก้มพี่หนึ่งที” บอมเสนอความคิด ท่ามกลางเสียงโห่ขึ้นมาอีกครั้ง อย่างไม่เห็นด้วย โอมทำท่าเหมือนหวาดเสียวขึ้นมา
“โห แกนี่บ้าผู้ชายจังเลยนะไอ้บอม” คนที่ถือตะกร้อพูด
“จร้า ไม่ใช่ดีเลิศเหมือนแกนี่ไอ้ก้องรักเดียวใจเดียวระวังจะตายเพราะความรักเอานะ” บูพูดย้อนก้อง
“เอางี้ดีมั้ยวะ ฉันขอเสนอความคิด” เสียงหนึ่งพูดเข้ามาหลังจากที่เงียบอยู่นานด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม ไม่ใช่ใครที่ไหนบาสนั่นเอง
“โทรศัพท์มีเงินมั้ย” บาสถามโอมอย่างห้วนๆ
“มีครับ พี่จะเอาไปทำไมเหรอครับ” โอมถามอย่างสงสัย
“เอามาเถอะน่า ฉันไม่เอาของนายไปขายหรอกน่า” บาสพูด โอมค่อยๆยื่นโทรศัพท์ให้บาส เมื่อบาสได้มือถือโอมก็กดเลขอะไรสักอย่าง แล้วมือถือของบอมก็ดังขึ้น
“ใครโทรหาวะ” บอมกำลังเอามือถือออกจากกางเกง บาสโชว์มือถือของโอมให้บอมรู้ แล้วคืนโทรศัพท์ให้โอม
“ถือว่าเป็นของแลกเปลี่ยนแล้วกันนะ พอใจมั้ยวะไอ้บอม” บาสพูดแล้วถามบอม บอมมองดูเบอร์นั้นอย่างตื่นเต้นแล้วพยักหน้าให้บาสอย่างพออกพอใจ
“คืนตะกร้อให้มันได้แล้ว ไอ้ก้อง เดี๋ยวน้องเค้าไม่มีอะไรให้เล่น” บาสบอกก้อง ก้องโยนตะกร้อให้โอมโอมยกมือไหว้อีกครั้งแล้วกล่าวขอบคุณ
“เดี๋ยว ถ้าพี่เค้าโทรไปหาอย่าลืมรับด้วยล่ะ แล้วอย่าคิดที่จะเปลี่ยนเบอร์ใหม่ล่ะ ไม่งั้นเราได้เจอดีแน่” บาสขู่โอม
“ครับ” โอมตอบรับ แล้วรีบเดินหนีไป
“เฮ้ยๆ ขอฉันด้วย ฉันด้วย” พวกในกลุ่มบาสแย่งกันขอเบอร์โอม
“แกคิดได้ไงวะไอ้บาส” ต้นถามบาส
“เราทำอะไรมันไม่ได้ ก็ต้องทำแบบนี้หล่ะ ได้ยินเสียงก็ยังดี เด็กอะไรวะ แมร่งน่ารักชิหาย” บาสมองโอมที่เดินจากไปด้วยสายตาที่ไม่กระพริบ
“เฮ้ยๆ แบ่งฉันบ้างดิวะ แกทั้งหล่อ ล่ำ รวย ฟันมาแล้วตั้งหลายคนยังไม่พออีกเหรอวะ” ก้องพูด
“ช่วยไม่ได้ ใครดีใครได้ดิวะ” บาสพูดอย่างไม่สนใจ โดยบาสมีจุดมุ่งหลายแค่โอมคนเดียว
“อ้าวไอ้นี่นิ” บอมพูด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงประตูห้องของบาสดังขึ้น
ดูต่อด้านล่างเลยนะครับ ตอนนี้ยาวหน่อยอย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ
[Y] รัก/ที่สุด/ของหัวใจ (มาใหม่) บทที่ 3 มันจะมีแต่ภาพเก่าๆ ที่จะกลับมาทำร้าย
บทที่ 3
มันจะมีแต่ภาพเก่าๆ ที่จะกลับมาทำร้าย
บาสเมื่อลงมาจากห้องพักอาจารย์ก็ได้เจอกับนักศึกษาชายผิวขาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง มากับเพื่อนที่เอามือกุมที่แก้มของตัวเองและสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เด็กคนนั้นบาสคุ้นหน้าเป็นอย่างดี
“โอม มาที่นี่ทำไมครับ” บาสรีบเดินเข้าไปทักด้วยความตื่นเต้น
“พอดีโอมพาเพื่อนมาหาหมออ่ะครับ เห็นมันปวดฟัน ไม่ทราบคลินิกไปทางไหนเหรอครับ” โอมรีบถาม
“งั้นตามพี่มาเลยครับ” บาสพูดแล้วเดินนำสองคนนั้นไปที่คลินิกทันที พอเพื่อนของโอมเข้าไปในห้องตรวจ โอมก็นั่งรออยู่หน้าห้อง โดยที่บาสนั่งรออยู่ข้างๆ ด้วย โอมจึงค่อยๆ หันไปมอง
“พี่ยังไม่กลับหออีกเหรอครับ นี่มันก็เย็นแล้วนะ” โอมพูดแล้วรีบหันกลับมาทันที
“พี่อยากนั่งเป็นเพื่อนโอมอ่ะครับ นานๆ จะได้เจอโอมสักที” บาสพูด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ โอมก็มีเพื่อนกลับแล้วนี่ครับ พี่กลับไปเถอะครับ ขอบคุณนะครับที่พามาส่ง” โอมพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆ แต่ก็ดูเย็นชาสำหรับบาส
“โอมครับ โอมจะว่าอะไรมั้ย ถ้าเรา....” บาสกำลังเริ่มพูด
“เป็นพี่น้องกันใช่มั้ยครับ ถ้าพี่คิดแบบนี้โอมจะสบายใจมากเลยนะครับ” โอมพูดตัดบทและยิ้มเบาๆ แต่หน้ายังคงไม่มองหน้าบาส
“พี่ก็ว่าจะพูดแบบนี้เหมือนกัน จะว่าอะไรมั้ยถ้าพี่จะขอโทรหาโอมบ้างอ่ะครับ” บาสถามเชิงขออนุญาต
“ถ้าเป็นไปได้โอมว่าอย่าโทรเลยดีกว่านะครับ แต่โอมคงบังคับพี่ไม่ได้หรอกใช่มั้ยครับถ้าพี่จะโทร” โอมพูดด้วยคำที่กำกวมเนื่องจากความสับสนในใจ
“ครับ เอาเป็นว่า ถ้ามันไม่จำเป็นจริงๆ พี่ก็จะไม่โทรก็แล้วกันนะครับ” บาสพูด โอมพยักหน้าเบาๆ
“งั้นพี่กลับก่อนนะครับ ฝากบอกเพื่อนโอมให้หายเร็วๆ ด้วยล่ะ” บาสพูดแล้วยิ้มให้โอมที่กำลังทำหน้านิ่งๆ แต่ก็แอบยิ้ม แล้วก็เดินจากไป
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้บาสได้กลับมาสนใจในการเรียนอีกครั้ง เพราะโดยปกติแล้วบาสเป็นคนที่เรียนเก่งมาก สามารถสอบตรงเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้อย่างสบายโดยไม่ต้องรอสอบเอนทรานซ์
วันต่อมาหลังจากเลิกเรียนแล้วบาสก็พยายามค้นหาเบอร์โทรของโอมหลังจากที่ลบไปแล้ว และก็หาเจอจนได้ จึงเสี่ยงโทรหาโอมโดยแอบหวังว่าโอมจะยังใช้เบอร์เดิมอยู่ จึงค่อยๆกดโทรหาโอม ขึ้นสายว่างแต่ไม่มีใครรับ คงคิดว่าคงไม่อยากจะคุยกับตัวเองแล้ว “โอมพี่อยากจะกับโอมบ้างไม่ได้เหรอครับ พี่แค่อยากจะคุยก็แค่นั้น พี่รู้ดีครับว่ามันคงไม่เป็นเหมือนเดิมแน่ๆ พี่แค่อยากได้ยินเสียงเองไม่ได้เหรอ” บาสพูดกับตัวเอง น้ำตาของบาสเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง
แล้วภาพเก่าๆ ก็กลับย้อนขึ้นมาอีก ในที่บาสคบกับโอมตอนเรียนมัธยม โอมรักบาสมากไม่เคยทำให้บาสผิดหวัง ไม่เคยขัดใจบาสแม้แต่ครั้งเดียว บาสพูดอะไรโอมก็จะรับฟังตลอด เหมือนเป็นเด็กที่อยู่ในโอวาทของผู้ใหญ่ แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่โอมไม่อยากจะทำ
“โอม พี่ว่าเราห่างๆ กันสักพักดีมั้ย” บาสพูดกับโอม
“ทำไมล่ะครับ พี่มีปัญหาอะไรบอกโอมได้นะครับ” โอมถามอย่างสงสัย โดยไม่รุ้เลยว่าบาสกำลังโกหกตัวเองอยู่
“ป่าว พี่มีอะไรต้องทำอีกหลายอย่าง ไหนจะอ่านหนังสือสอบ ไหนจะเคลียร์งานส่งอาจารย์อีก เราห่างกันสักพักเถอะนะ” บาสเริ่มสาธยาย
“ก็ได้ครับ แต่โอมขอโทรหาพี่อาทิตย์ละครั้งได้ป่ะครับ แค่วันเดียวเองนะครับ” โอมต่อรอง เพราะตั้งแต่คบกันโอมไม่เคยห่างบาสเลย
“ก็บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ไง” บาสเริ่มตะหวาดใส่โอม โอมตกใจแล้วเงียบก้มหน้า บาสถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหมือนจะคุยในเรื่องที่เบื่อหน่ายไร้สาระ แล้วเข้ามาจับไหล่โอม ให้เงยหน้าขึ้น
“โอม ฟังพี่นะ ช่วงนี้พี่ไม่มีเวลาจริงๆ พี่ต้องเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย โอมไม่อยากให้พี่สอบเข้ามหาวิทยาลัยเหรอได้เหรอครับ” บาสพูดแบบปั้นหน้าใส่โอม
“อยากสิครับ” โอมตอบแบบหงอยๆ
“ถ้าอยากให้พี่สอบติด ก็ต้องให้เวลาพี่นะครับรู้มั้ย” บาสพูดแล้วยิ้มให้โอม โอมพยักหน้าด้วยความจำใจ แต่ก็ต้องยอมเพราะไม่อยากให้บาสไม่สบายใจ และก็อยากที่จะเห็นคนรักของตัวเองประสบผลสำเร็จ
เสียงโทรศัพท์ของบาสดังขึ้น บาสตื่นจากภวังค์ เมื่อเห็นเป็นเบอร์ของโอมโทรเข้ามาบาสจึงรีบรับ
“ฮัลโหล โอมเหรอครับ” บาสพูดด้วยความใจสั่น
“ครับโอมเอง พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ โทรหาโอมเป็นสิบกว่าสายเลยอ่ะครับ” โอมสงสัยที่เห็นเบอร์ของบาสขึ้นเป็นสิบกว่าสาย โดยที่โอมไม่เคยลบเบอร์ของบาสทิ้งเลย
“พี่ ฮึก แค่ อยากได้ยินเสียงโอมเท่านั้นเองครับ” บาสพูดเสียงสั่นแล้วร้องไห้ออกมา อย่างกระวนกระวายใจ
“แล้วมีธุระอะไรอีกมั้ยครับ นอกจากแค่ได้ยินเสียง” โอมถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น และรู้ว่าบาสร้องไห้อยู่ แต่ที่จริงแล้วก็สงสารบาสเช่นกัน แต่ก็ต้องทำเพื่อให้บาสตัดใจจากตัวเองสักที เพราะโอมก็กลัวความรู้สึกตัวเองเช่นกัน
“ไม่มีครับ พี่ต้องการแค่นั้น” บาสพูดแล้วพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองดูดีขึ้นค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าดังๆ
“ถ้าได้ยินแล้วเราก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้วนะครับ” โอมพูดห้วนๆ แล้วก็กดวาง แล้วก็ร้องไห้ออกมาทันที นี่เราทำอะไรลงไป เราทำร้ายเค้าเหรอ เราไม่เคยพูดแบบนี้กับเค้าเลยนะ หรือว่าเราหมดรักเค้าแล้ว ความคิดของโอมชนกันไปมาอีกครั้ง
เมื่อรู้ว่าโอมกดวางไปแล้ว แล้วก็ร้องไห้ต่อ เราเป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอ ทุกทีโอมไม่เคยพูดกับเราแบบนี้เลยนะ แม้แต่ขึ้นเสียงกับเราสักครั้งก็ไม่เคยมี โอมจะให้พี่ทำยังไงดีล่ะครับ พี่รักโอมนะครับ พี่ลืมโอมไม่ได้จริงๆ พี่ไม่อยากเป็นแค่พี่ชายพี่อยากให้เราเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย 2 ปีแล้วนะที่พี่ทิ้งโอมไป แต่พี่ก็ยังไม่ลืมโอมนะครับ ใช่สิพี่มันโง่เองที่เห็นคนอื่นดีกว่าโอม นักกีฬาที่แสนน่ารักของพี่
“เฮ้ยแก แกเห็นน้องที่เล่นตะกร้อคนนั้นป่ะวะ โคตรน่ารักเลยว่ะ” เพื่อนในกลุ่มเกย์ของบาสคนหนึ่งทักขึ้น แล้วชี้ไปที่โอมที่กำลังซ้อมตะกร้อกับทีมอยู่
“ไหนวะ เออว่ะก็น่ารักนะ แต่ฉันว่าชอบชะนีชัวร์ เลิกหวังเถอะแก ไอ้ต้น” บาสพูด แต่สายตาก็มองโอมอย่างไม่ลดละ
“ก็ไม่แน่นะโว้ย ไม่ลองไม่รู้นะ เฮ้ยแกระวังๆ” ต้นพูดแล้วเห็นลูกตะกร้อลอยมาในกลุ่มที่มีคนนั่งอยู่ประมาณ 4-5 คน ทำให้วงแตก แล้วก็มีเด็กผู้ชายม.ต้นหัวเกรียนคนหนึ่งวิ่งตามเก็บ โอมนั่นเอง
“เฮ้ย เล่นกันหัดดูคนซะบ้างสิวะ” เพื่อนในกลุ่มบาสอีกคนทำฟอร์มเข้มใส่โอม เพราะคนในกลุ่มของบาสแต่ละคนร่างกายที่แข็งแรงบึกบึน มีกล้ามเป็นมัดๆ เหมือนผู้ชายทั่วไป และในกลุ่มของบาสก็ยังเป็นนักกีฬารักบี้ประจำโรงเรียนด้วย โดยสามารถเล่นร่วมกับผู้ชายจริงๆ ได้อย่างกลมกลืน
“ผมขอโทษจริงๆ ครับ พวกพี่เป็นอะไรกันมั้ยครับ” โอมยกมือไหว้ทุกคน แล้วก็มีอีกคนหนึ่งถือลูกตะกร้อไว้เหมือนเป็นตัวประกัน
“เป็นอะไรล่ะ ก็เจ็บสิครับ เจ็บที่ใจอยากได้คนมารักษาอ่ะครับ น้องช่วยมารักษาพี่ให้หน่อยสิครับ” ต้นพูดแล้วทำตาหวานใส่ โอมทำหน้าเจื่อนๆ
“แล้วชื่ออะไร ชั้นอะไรฮะ เราอ่ะ” คนที่ถือตะกร้อถาม
“ชื่อโอมครับ อยู่ ม.3 ครับ” โอมแนะนำตัวอย่างนอบน้อม และตัวยังเกร็งๆ
“โอ้ น้องโอมครับ ตอนนี้เหนื่อยมั้ยครับ” คนที่ทักตอนแรกถามโอม
“ทำไมเหรอครับ” โอมถามอย่างสงสัย
“ก็ตอนนี้น้องโอมเข้าไปวิ่งเล่นในหัวใจพี่อยู่น่ะสิครับ” คนเดิมตอบ
“อ้วก” เพื่อนๆในกลุ่มทำท่าทางเหมือนกัน โอมทำหน้าเจื่อนๆอีกครั้ง
“คือว่าผมจะได้ลูกตะกร้อคืนได้ยังครับ” โอมถามอย่างสุภาพ
“เอ้าได้ไงอ่ะ ก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนกันหน่อยสิครับ ทำไรดีวะไอ้บอม” คนที่ถือตะกร้อบอก และถามคนที่หยอดโอม
“ให้น้องโอม หอมแก้มพี่หนึ่งที” บอมเสนอความคิด ท่ามกลางเสียงโห่ขึ้นมาอีกครั้ง อย่างไม่เห็นด้วย โอมทำท่าเหมือนหวาดเสียวขึ้นมา
“โห แกนี่บ้าผู้ชายจังเลยนะไอ้บอม” คนที่ถือตะกร้อพูด
“จร้า ไม่ใช่ดีเลิศเหมือนแกนี่ไอ้ก้องรักเดียวใจเดียวระวังจะตายเพราะความรักเอานะ” บูพูดย้อนก้อง
“เอางี้ดีมั้ยวะ ฉันขอเสนอความคิด” เสียงหนึ่งพูดเข้ามาหลังจากที่เงียบอยู่นานด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม ไม่ใช่ใครที่ไหนบาสนั่นเอง
“โทรศัพท์มีเงินมั้ย” บาสถามโอมอย่างห้วนๆ
“มีครับ พี่จะเอาไปทำไมเหรอครับ” โอมถามอย่างสงสัย
“เอามาเถอะน่า ฉันไม่เอาของนายไปขายหรอกน่า” บาสพูด โอมค่อยๆยื่นโทรศัพท์ให้บาส เมื่อบาสได้มือถือโอมก็กดเลขอะไรสักอย่าง แล้วมือถือของบอมก็ดังขึ้น
“ใครโทรหาวะ” บอมกำลังเอามือถือออกจากกางเกง บาสโชว์มือถือของโอมให้บอมรู้ แล้วคืนโทรศัพท์ให้โอม
“ถือว่าเป็นของแลกเปลี่ยนแล้วกันนะ พอใจมั้ยวะไอ้บอม” บาสพูดแล้วถามบอม บอมมองดูเบอร์นั้นอย่างตื่นเต้นแล้วพยักหน้าให้บาสอย่างพออกพอใจ
“คืนตะกร้อให้มันได้แล้ว ไอ้ก้อง เดี๋ยวน้องเค้าไม่มีอะไรให้เล่น” บาสบอกก้อง ก้องโยนตะกร้อให้โอมโอมยกมือไหว้อีกครั้งแล้วกล่าวขอบคุณ
“เดี๋ยว ถ้าพี่เค้าโทรไปหาอย่าลืมรับด้วยล่ะ แล้วอย่าคิดที่จะเปลี่ยนเบอร์ใหม่ล่ะ ไม่งั้นเราได้เจอดีแน่” บาสขู่โอม
“ครับ” โอมตอบรับ แล้วรีบเดินหนีไป
“เฮ้ยๆ ขอฉันด้วย ฉันด้วย” พวกในกลุ่มบาสแย่งกันขอเบอร์โอม
“แกคิดได้ไงวะไอ้บาส” ต้นถามบาส
“เราทำอะไรมันไม่ได้ ก็ต้องทำแบบนี้หล่ะ ได้ยินเสียงก็ยังดี เด็กอะไรวะ แมร่งน่ารักชิหาย” บาสมองโอมที่เดินจากไปด้วยสายตาที่ไม่กระพริบ
“เฮ้ยๆ แบ่งฉันบ้างดิวะ แกทั้งหล่อ ล่ำ รวย ฟันมาแล้วตั้งหลายคนยังไม่พออีกเหรอวะ” ก้องพูด
“ช่วยไม่ได้ ใครดีใครได้ดิวะ” บาสพูดอย่างไม่สนใจ โดยบาสมีจุดมุ่งหลายแค่โอมคนเดียว
“อ้าวไอ้นี่นิ” บอมพูด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงประตูห้องของบาสดังขึ้น
ดูต่อด้านล่างเลยนะครับ ตอนนี้ยาวหน่อยอย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ