รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 14

กระทู้สนทนา
อ่านบทอื่นๆ ได้ที่นี่ค่ะ http://ppantip.com/topic/32729269



บทที่ 14 ของแทนใจ



วันรับปริญญา...
กรกฤต ธนทัตและภากร นั่งเรียงกันอยู่หน้ากระจกเพื่อให้ช่างตัดผมเซ็ดผมให้ ถึงตอนนี้จะแค่ตี 4 แต่บริเวณหลังหมอก็ดูวุ่นวายกว่าทุกๆ วัน เพราะบัณฑิตต่างก็ออกมาเตรียมตัว แต่งหน้า ทำผมกันจนร้านเสริมสวยแถวมหาวิทยาลัยเต็มหมดทุกร้าน ต้องต่อคิวกันเป็นสิบๆ คน โชคดีที่ภากรติดต่อร้านนี้เอาไว้ก่อนล่วงหน้าจึงทำให้พวกเขาทั้งสามไม่ต้องรอเหมือนคนอื่นๆ

“เฮ้ยๆ เห็นอินสตราแกรมยัยกิ๊ฟยังวะ” ภากรถามเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ

“ทำไม? ” กรกฤรตถาม

“แกยังไม่เลิกติดตามกิ๊ฟอีกเหรอบอม จะไปยุ่งอะไรกับชีวิตเขาทำไมนักหนา ฉันไม่เข้าใจแกจริงๆ”

“อ้าวไอ้แท่ง ฉันก็ต้องติดตามข่าวคราวเพื่อนบ้างสิวะ ฉันตามยัยกิ๊ฟคนเดียวที่ไหนกัน ฉันตามทุกคนนั่นแหละ ขนาดพี่เมยฉันยังติดตามตลอดเลย”

“จะหันทำไมคะน้องบอม” ช่างทำผมหมุนคอภากรกลับมามองที่กระจก

“โอ๊ย! พี่เบาๆ สิครับ ถ้าเกิดผมเป็นอะไรไปแย่เลยนะเนี่ย วันนี้ยิ่งเป็นวันสำคัญด้วย”

“กิ๊ฟทำอะไรเหรอบอม” กรกฤตถามอีก

“ก็โพสล่าสุดไง แกไม่ได้อ่านเหรอวะ”

“โพสล่าสุดก็โพสแสดงความยินดีกับเพื่อนๆ ไง ฉันอ่านไปแล้ว”

“ไม่ใช่ โพสก่อนหน้านั้นนิดหนึ่ง”

“ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้ดู ฉันอ่านแค่โพสปัจจุบัน”

“เฮ้ย มันก็ไม่ได้นานนะ เดี๋ยวๆ อ่านให้ฟัง” จับโทรศัพท์ขึ้นมากด “นี่ไง อัพรูปดอกกุหลาบลง แล้วก็เขียนว่า...อยากกลับไปหาแฟนแต่ติดตรงที่เราอยู่ไกลกันเกินไป เขาจะส่งใจไปแสดงความยินดีด้วยนะ ...นี่ๆ มีหัวใจด้วยเว้ย” หัวเราะเสียงดังจนคนในร้านหันมามอง “ตอนแรกฉันนึกว่าอกหักเลยเพี้ยน ทำเป็นแอ๊บมีความรัก แต่พอดูๆ ไป ฉันเริ่มสงสัยว่ะ”

“สงสัยอะไร” ธนทัตถามทันควัน

“ก็ตกลงผู้ชายที่ยัยกิ๊ฟโพสถึงมันเป็นใคร? มีตัวตนจริงๆ หรือว่ามโน เอ๊ะ! หรือจะหมายถึง...” ชี้นิ้วไปทางธนทัตกับกรกฤตเล่นเอาคนร้อนตัวอยู่แล้วร้อนวูบไปทั้งตัว “แกว่ะไอ้ยี ถ้าหมายถึงแกฉันว่ายัยนั่นคงชอบแกมากแน่ๆ เวลาผ่านมาเกือบ 2 ปีอยู่แล้วยังไม่หายเพ้ออีก”

ธนทัตระบายลมหายใจ

“ฉันว่าคงไม่หรอก เขาอาจจะมีแฟนจริงๆ ก็ได้” กรกฤตเสนอความคิดเห็น

“มันไม่น่าใช่ ...แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี”

“ฉันก็ไม่เข้าใจ” ธนทัตหันไปมองหน้าภากร “ไม่เข้าใจว่าแกจะอยากรู้เรื่องเขาไปทำไม”

“อ้าวไอ้นี่ ก็คนมันสงสัยนี่หว่า ถ้ายัยนั้นไม่ทำอะไรกำกวม ฉันก็คงไม่ สอ ออ ดอ ขนาดนี่หรอก”

“พี่บอกว่าอย่าหัน! ” ช่างจับคอภากรหมุนกลับอีกรอบ

“เอ็งไม่อยากรู้ก็อยู่เฉยๆ ไปเลย”

“ถ้าจะอยากรู้ขนาดนั้น ทำไมไม่ถามเขาไปเลยล่ะ” กรกฤตลุกขึ้นสำรวจทรงผมตัวเองเมื่อทำเสร็จก่อนเพื่อน

“บ้า ใครจะไปถาม ถ้าฉันถามยัยนั้นก็หาว่าฉันอยากรู้เรื่องส่วนตัวน่ะสิ”

“แล้วแกอยากรู้จริงไหมล่ะ” ธนทัตลุกเป็นคนที่สอง

ภากรลุกขึ้นที่หลังเพื่อน “อยากรู้แต่ไม่อยากถาม แกเคยฟังเพลงนี้มั้ย” แล้วก็ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี “โคตรหล่อเลยว่ะ ลูกใครวะเนี่ย” ผิวปาก

“หล่อมากๆ ระวังวันนี้รถไฟชนกันนะ”

“ไอ้แท่งแก่อย่าอวยพรฉันตั้งแต่ไก่โห่สิวะ ฉันจัดตารางไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นเดือนยังไงก็ไม่ชน ฝีมือระดับนี้ สบายมาก”

“ทำไมแกไม่หาแฟนเป็นตัวเป็นตนวะบอม ฉันว่าคนอย่างแกคงหาไม่อยากอยู่แล้ว”

“แหม...เพื่อนคริสครับ ผู้หญิงมันหาง่ายแต่ผู้หญิงดีๆ มันหายาก...” ลากเสียง “อีกอย่าง ถ้าผมมีแฟนแล้วใครจะโสดเป็นเพื่อนเพื่อนแท่งล่ะครับ” เดินไปตบไหล่ธนทัต “จริงไหมเพื่อนยาก”

“ผู้หญิงดีๆ ของแกเป็นยังไงวะ” ธนทัตถาม

“ไม่รู้” เสียงสูงหยักไหล่ “เอานาฉันไม่เจอง่ายๆ หรอก แกไม่ต้องห่วง ยังไงฉันก็จะโสดเป็นเพื่อนแกไปอีกนาน”

“อืม...” ตอบเอือมๆ

“ถามแต่ฉัน ว่าแต่แกเมื่อไหร่จะแต่งงาน” ถามกวนๆ “เห็นเข้านอกออกในบ้านพี่เมยเป็นว่าเล่น เตรียมตัวเป็นลูกเขยบ้านนั้นไปถึงไหนแล้ว”

“พูดบ้าๆ แกก็รู้ว่าฉันยังไม่คิดเรื่องนั้น”

“เฮ้ย คิดไว้บ้างก็ดีนะเว้ย ไม่ใช่อะไรหรอก ฉันกลัวว่าพี่เขาจะทิ้งแกก่อน ฮ่าๆ ”

“นั้นแกพูดหรือแกเห่าวะไอ้บอม! ” ไล่เตะภากรทันที

“อะ ไม่โดน” ใช้ธนทัตเป็นเกาะ

“นี้พวกแกจะเล่นกันอีกนานไหม โตจนเรียนจบ ยังไล่เตะกันเป็นเด็กๆ ไปได้ อายคนอื่นเขาหน่อย”

“ก็มันปากหมาก่อน”

“ฉันแค่เสนอความคิดเห็น”

“เหรอ! ” ยื่นขาไปเตะแต่ภากรก็หลบทัน แถมยังหัวเราะชอบใจ “ฉันขอให้วันนี้รถไฟแกชนกันสักสิบขบวน”

แล้วทั้งสองหนุ่มก็ต้องเงียบเมื่อเสียงโทรศัพท์ธนทัตดังขึ้น ใครโทรมา? ภากรพยายามมองหน้าจอโทรศัพท์แต่ธนทัตก็เดินเลี่ยงไปซะก่อน

“ฮัลโหล ครับ อยู่ร้านทำผม” เดินหนีไปคุยที่อื่น

“ใครว่ะ? ” หันไปถามกรกฤต

กรกฤตส่ายหน้า “ไม่รู้ อยู่ด้วยกัน แกไม่รู้แล้วฉันจะรู้ไหมล่ะ แม่มั้ง”

“ไม่ใช่ แม่ก็ต้องขึ้นว่าแม่สิวะ เมื่อกี้มันไม่ขึ้นชื่ออะไรเลย”

“แกสงสัยเหมือนฉันไม่บอม ตั้งแต่เราแยกกันไปฝึกงานกลับมาคราวนี้เหมือนแท่งมันกำลังมีความลับเลยว่ะ”

ภากรดีดนิ้วเห็นด้วย “ใช่! ฉันว่ามันทำตัวเหมือนมีแฟนเข้าไปทุกวัน”

“แต่แกถามไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ก็ใช่ไง มันบอกว่าไม่ แต่ฉันก็ยังสงสัย”



“พี่เมยไม่มาเหรอวะ”

“กำลังมา พอดีติดถ่ายละครต่างจังหวัด”

“อ๋อ เฮ้ย! น้องเปิ้ลมาแล้ว เดี๋ยวฉันไปหาเด็กก่อนนะเว้ย” ถือช่อดอกไม้เดินเลี่ยงไป “น้องเปิ้ลครับ! ทางนี้ๆ ”

“เฮ้อ...” คริสถอนหายใจกับนิสัยของเพื่อน อยากรู้จริงๆ ใครกันนะที่จะปราบพ่อปลาไหลตัวนี้อยู่มัด

“คริสมาถ่ายรูปด้วยกันสิลูก” แม่ของธนทัตกวักมือเรียก

“ครับ แม่ถ้าพี่เมยมาเรียกผมด้วยนะ” หันไปบอกกัลยา

“จ้ะ”



“รอนานไหมบัณฑิตใหม่” เมวดีเดินมาจากข้างหลังพร้อมช่อดอกกุหลาบสีแดงขนาดใหญ่ “ยินดีด้วยนะ” ยื่นช่อดอกไม้ให้

กรกฤตยิ้มจนแทบจะไม่เห็นลูกตาด้วยความดีใจ เล่นเอาคนที่ยืนอยู่แถวๆ นั้นยิ้มตามไปด้วย

“ขอบคุณครับ”

“เมยนึกว่าจะมาไม่ทันซะอีก พอดีมัวแต่งหน้าเพิ่มนิดหน่อยกลัวถ่ายรูปออกมาแล้วไม่สวย” กระซิบข้างหู

“ไม่แต่งก็สวย”

“จริงเหรอ” บิดตัวไปมา

“จริง” กรกฤตกระซิบบ้าง “ดูสิคนมองกันใหญ่แล้ว แฟนใครไม่รู้สวยที่สุด”

“บ้า” ตีแขน “ถ่ายรูปกันหน่อยไหม วันนี้คุณยายมาไม่ได้แต่อยากเห็นรูปคริสวันรับปริญญา”

“เดี๋ยวทำอะไรเสร็จ ผมไปหาคุณยายก็ได้”

“ไม่ต้องหรอก ยังไงคืนนี้ก็เจอกันอยู่ดี แต่ตอนนี้ต้องอัพรูปให้ดูพรางๆ ไปก่อน แฟนคลับคนนี้ใจร้อนบอกว่าอยากเห็นก็ต้องได้เห็น” หยิบโทรศัพท์ออกมา “หนึ่ง...สอง...สาม”

‘วันนี้รีบมาก นึกว่าจะไม่ทัน ยินดีด้วยนะคะบัณฑิตใหม่’

ลงภาพในอินสตราแกรมไม่ถึงห้านาทีก็มีคนถูกใจเกือบหมื่นแถมยังมาคอมเม้นแสดงความยินดีป่นแซวๆ เล่นเอาเจ้าของไอจียิ้มรับกับการที่แฟนคลับของเธอเข้ามาร่วมยินดีกับคนที่เธอเลือก ถึงจะมีบางคนที่เม้นไปในทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่คนพวกนั้นก็คงเป็นแฟนคลับณัฐเดช เพราะเธอมั่นใจว่าแฟนคลับเธอรักและยอมรับการตัดสินใจของเธอเสมอ โดยเฉพาะแฟนคลับคนแรกที่มาแสดงความคิดเห็นก่อนเพื่อนคือ คุณนายบุษบา นั้นเอง
‘ยิ่งดูยิ่งเหมาะสมกันยังกับกิ่งทองใบหยก’ นี่ก็ยอกันเกิ๊น! แต่ก็ขอบคุณนะคะคุณยาย...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่