ทุกความพยายาม คือ ทุกข์
ทุกเจตจำนง คือ ทุกข์
แต่ถ้าไม่มี ทั้งสองสิ่งนี้ ชีวิตก็ไร้ความหมาย
ดังนั้น ถ้าชีวิตคือทุกข์ ตามที่พร่ำสอนกัน
แต่จะเป็นการไถ่ทุกข์ได้ โดยการเลือกทุกข์เองแต่แรก ดีกว่าไหม?
วิทยาศาสตร์ ไม่พบจิตในสมอง
พบแต่ กระแสชีวเคมีไฟฟ้าของใยประสาท
และสรุปว่า สิ้นกาย ก็สิ้นสูญ สิ้นจิต
นั่นอาจยังเป็นเพราะ ยังไม่มีเครื่องวัดที่ละเอียดพอ จะจับหาจิตได้
ในความเป็นจริง ชีวิต คือ ร่างกายและจิต ทำงานบูรณาการร่วมกัน
เมื่อกายทุกข์ จิตก็ทำงานได้ไม่เต็มร้อย และเมื่อจิตทุกข์ หรือไม่สบายใจ ร่างกายก็พลอยปั่นป่วน เรื่อยล้า อ่อนแรงตาม
ในหนึ่งวัน ร่างกายต้องการ การตรวจสอบการทำงานในทุกระบบ
ด้วยการไหลเวียนของพลังชีวิต ไหลเคลื่อนไปตามจุดต่างๆอย่างทั่วถ้วน
มันทำงานตามนาฬิกาชีวิตระหว่างวัน ที่เวลาไหลเลื่อนไป
ระบบภายในร่างกายต้องการ การดูแล ด้วยจิตที่เพ่งเคลื่อนไปตามจุดต่างๆ
เราอาจไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายรุนแรง ด้วยการเคลื่อนไหวใช้แรงหนักหน่วง เพื่อสุขภาพแข็งแรง
แต่ท่าอาสนะโยคะแบบต่างๆ สามารถไปตรวจสอบและสร้างแรงเคลื่อนลื่นไหลของพลังชีวิต ไปในแต่ละท่าทางได้
ไม่จำเป็นต้องรีบ หรือออกแรงหักโหม เพียงแต่ทุกอิริยาบทของการเคลื่อน และการหยุด จิตเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย
บนลมหายใจที่เนิบช้าอย่างมีสติ ก็พอ ที่เหลือ คือ การใช้ความตั้งใจเพื่อรักษาสมดุล ต้านแรงโน้มถ่วงเท่านั้น
หลังการฝึกฝนนี้ เราจะได้รับรางวัลของความสงบและพลังของความนิ่งของ ร่างกายกับจิตที่เป็นหนึ่งเดียว
ทุกส่วน ทุกตารางนิ้วผิวกาย คือ การรับรู้ได้อย่างทั่วพร้อม
และนั่น ความเป็นมนุษย์ได้รับการประจักษ์แจ้งว่า ชีวิตมีค่าจากภายในอย่างไรและควรมีสัมพันธภาพกับโลกอย่างไร
เลือกทุกข์เพื่อไถ่ทุกข์
ทุกเจตจำนง คือ ทุกข์
แต่ถ้าไม่มี ทั้งสองสิ่งนี้ ชีวิตก็ไร้ความหมาย
ดังนั้น ถ้าชีวิตคือทุกข์ ตามที่พร่ำสอนกัน
แต่จะเป็นการไถ่ทุกข์ได้ โดยการเลือกทุกข์เองแต่แรก ดีกว่าไหม?
วิทยาศาสตร์ ไม่พบจิตในสมอง
พบแต่ กระแสชีวเคมีไฟฟ้าของใยประสาท
และสรุปว่า สิ้นกาย ก็สิ้นสูญ สิ้นจิต
นั่นอาจยังเป็นเพราะ ยังไม่มีเครื่องวัดที่ละเอียดพอ จะจับหาจิตได้
ในความเป็นจริง ชีวิต คือ ร่างกายและจิต ทำงานบูรณาการร่วมกัน
เมื่อกายทุกข์ จิตก็ทำงานได้ไม่เต็มร้อย และเมื่อจิตทุกข์ หรือไม่สบายใจ ร่างกายก็พลอยปั่นป่วน เรื่อยล้า อ่อนแรงตาม
ในหนึ่งวัน ร่างกายต้องการ การตรวจสอบการทำงานในทุกระบบ
ด้วยการไหลเวียนของพลังชีวิต ไหลเคลื่อนไปตามจุดต่างๆอย่างทั่วถ้วน
มันทำงานตามนาฬิกาชีวิตระหว่างวัน ที่เวลาไหลเลื่อนไป
ระบบภายในร่างกายต้องการ การดูแล ด้วยจิตที่เพ่งเคลื่อนไปตามจุดต่างๆ
เราอาจไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายรุนแรง ด้วยการเคลื่อนไหวใช้แรงหนักหน่วง เพื่อสุขภาพแข็งแรง
แต่ท่าอาสนะโยคะแบบต่างๆ สามารถไปตรวจสอบและสร้างแรงเคลื่อนลื่นไหลของพลังชีวิต ไปในแต่ละท่าทางได้
ไม่จำเป็นต้องรีบ หรือออกแรงหักโหม เพียงแต่ทุกอิริยาบทของการเคลื่อน และการหยุด จิตเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย
บนลมหายใจที่เนิบช้าอย่างมีสติ ก็พอ ที่เหลือ คือ การใช้ความตั้งใจเพื่อรักษาสมดุล ต้านแรงโน้มถ่วงเท่านั้น
หลังการฝึกฝนนี้ เราจะได้รับรางวัลของความสงบและพลังของความนิ่งของ ร่างกายกับจิตที่เป็นหนึ่งเดียว
ทุกส่วน ทุกตารางนิ้วผิวกาย คือ การรับรู้ได้อย่างทั่วพร้อม
และนั่น ความเป็นมนุษย์ได้รับการประจักษ์แจ้งว่า ชีวิตมีค่าจากภายในอย่างไรและควรมีสัมพันธภาพกับโลกอย่างไร