ผู้เขียน กิตติศักดิ์ คงคา (นายพินต้า)
จำนวนหน้า : 216 หน้า
หนังสือความเรียงประสบการณ์โรคซึมเศร้าของผู้เขียนและเพื่อน สอดแทรกความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโรค ยา การดูแลตัวเองของผู้ป่วย การก้าวผ่านความเลวร้ายของโรค กำลังใจในวันที่ย่ำแย่
อ่านได้ตั้งแต่ ผู้ป่วย คนที่คิดว่าตัวเองน่าจะป่วย คนใกล้ตัวผู้ป่วย คนที่อยากเข้าใจผู้ป่วยมากขึ้น หรือคนที่สนใจ
…
เช้าวันนี้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นในความมืดห้องนอนสี่เหลี่ยมคับแคบ ผมแยกไม่ได้ว่านี่จริงหรือฝัน เหงื่อชุ่มโชกเปียกแฉะอยู่กลางแผ่นหลัง ผมรู้สึกเหมือนกำลังติดอยู่ในห้องขังที่ไม่มีทางออก ดินแดนคุมขังอันเปรียบเสมือนโลกทั้งใบกุญแจเพื่อหนีหายสิ้นสลายไปหมดแล้ว
ผมจ้องมองเข้าไปในความลึกซึ้งที่ดำมืดเปล่า มีแรงดึงดูดขนาดมหาศาลกำลังกวักมือเรียกผมจากปลายทางอาจจะยังพอเยียวยาให้หายได้ นั่นคือคำรำพึงรำพันสุดท้ายที่ผมพร่ำพรายบอกกับตัวเอง
โรคซึมเศร้านั้นเป็นความผิดของระบบสารสื่อประสาท ระยะสั้นมันทำให้อารมณ์เปลี่ยนแปลง ระยะยาวมันทำให้สุขภาพสมองเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะส่วนเกี่ยวกับความจำ ถ้ารู้สึกไม่สบาย จึงควรรีบไปหาหมอ ไม่ต้องไปสนว่าคนอื่นจะมองว่าบ้า หรืออ่อนแอ มันเป็นเรืองของเรา เป็นร่างกายของเรา อย่าให้ใครมาลดคุณค่า
ถ้าปล่อยไว้นานมันยิ่งทำให้เราแย่ สมองยิ่งเสื่อมลง ยาเป็นทางเลือกที่ดีในระยะแรก เพราะถึงคุยกับจิตแพทย์ดีแค่ไหน ออกมาเดี๋ยวอารมณ์ก็กลับไปเหมือนเดิม โลกยังคงหม่นเศร้า
ยากินผ่านไปสองอาทิตย์ จะรู้สึกว่าโลกมีสีสันมากขึ้น ระยะยาวนั้นการปรับพฤติกรรมสำคัญมาก พยายามเข้าใจและเรียนรู้โลกด้วยมุมมองแบบใหม่ ปัญหาของใครก็ใหญ่ทั้งนั้น ปัญหาของใครของมัน ไม่ต้องไปคิดแทน ไม่ควรไปคิดว่า เครียดทำไมมีคนลำบากกว่าตั้งเยอะ
สุดท้ายกระบวนการบำบัดจิตกับนักจิตก็ช่วยได้มากในตอนท้าย ไม่สำคัญว่าคุณจะประสบความสำเร็จ มีชีวิตที่พร้อมด้านวัตถุมากแค่ไหน ใครๆก็เป็นโรคซึมเศร้าได้ อย่าคิดแทนคนอื่น…
ขอส่งกำลังใจให้กับทุก ๆ คน
หนังสือน่าอ่าน มนุษย์ซึมเศร้ากับเรื่องเล่าสีขาวดำ
ผู้เขียน กิตติศักดิ์ คงคา (นายพินต้า)
จำนวนหน้า : 216 หน้า
หนังสือความเรียงประสบการณ์โรคซึมเศร้าของผู้เขียนและเพื่อน สอดแทรกความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโรค ยา การดูแลตัวเองของผู้ป่วย การก้าวผ่านความเลวร้ายของโรค กำลังใจในวันที่ย่ำแย่
อ่านได้ตั้งแต่ ผู้ป่วย คนที่คิดว่าตัวเองน่าจะป่วย คนใกล้ตัวผู้ป่วย คนที่อยากเข้าใจผู้ป่วยมากขึ้น หรือคนที่สนใจ
…เช้าวันนี้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นในความมืดห้องนอนสี่เหลี่ยมคับแคบ ผมแยกไม่ได้ว่านี่จริงหรือฝัน เหงื่อชุ่มโชกเปียกแฉะอยู่กลางแผ่นหลัง ผมรู้สึกเหมือนกำลังติดอยู่ในห้องขังที่ไม่มีทางออก ดินแดนคุมขังอันเปรียบเสมือนโลกทั้งใบกุญแจเพื่อหนีหายสิ้นสลายไปหมดแล้ว
ผมจ้องมองเข้าไปในความลึกซึ้งที่ดำมืดเปล่า มีแรงดึงดูดขนาดมหาศาลกำลังกวักมือเรียกผมจากปลายทางอาจจะยังพอเยียวยาให้หายได้ นั่นคือคำรำพึงรำพันสุดท้ายที่ผมพร่ำพรายบอกกับตัวเอง
โรคซึมเศร้านั้นเป็นความผิดของระบบสารสื่อประสาท ระยะสั้นมันทำให้อารมณ์เปลี่ยนแปลง ระยะยาวมันทำให้สุขภาพสมองเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะส่วนเกี่ยวกับความจำ ถ้ารู้สึกไม่สบาย จึงควรรีบไปหาหมอ ไม่ต้องไปสนว่าคนอื่นจะมองว่าบ้า หรืออ่อนแอ มันเป็นเรืองของเรา เป็นร่างกายของเรา อย่าให้ใครมาลดคุณค่า
ถ้าปล่อยไว้นานมันยิ่งทำให้เราแย่ สมองยิ่งเสื่อมลง ยาเป็นทางเลือกที่ดีในระยะแรก เพราะถึงคุยกับจิตแพทย์ดีแค่ไหน ออกมาเดี๋ยวอารมณ์ก็กลับไปเหมือนเดิม โลกยังคงหม่นเศร้า
ยากินผ่านไปสองอาทิตย์ จะรู้สึกว่าโลกมีสีสันมากขึ้น ระยะยาวนั้นการปรับพฤติกรรมสำคัญมาก พยายามเข้าใจและเรียนรู้โลกด้วยมุมมองแบบใหม่ ปัญหาของใครก็ใหญ่ทั้งนั้น ปัญหาของใครของมัน ไม่ต้องไปคิดแทน ไม่ควรไปคิดว่า เครียดทำไมมีคนลำบากกว่าตั้งเยอะ
สุดท้ายกระบวนการบำบัดจิตกับนักจิตก็ช่วยได้มากในตอนท้าย ไม่สำคัญว่าคุณจะประสบความสำเร็จ มีชีวิตที่พร้อมด้านวัตถุมากแค่ไหน ใครๆก็เป็นโรคซึมเศร้าได้ อย่าคิดแทนคนอื่น…
ขอส่งกำลังใจให้กับทุก ๆ คน