วสันต์ สร้อยพิสุทธ์"แก้ตัวหรือแก้ไข"

จากกรณีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้กล่าวในโครงการสัมมนา "สื่อมวลชน ประจำปี พ.ศ. 2556
ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2556 ที่ นาน่า รีสอร์ท แอนด์สปา แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เกี่ยว
กับประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยคดี "ชิมไป บ่นไป" ของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี
ว่าเป็นคำวินิจฉัยที่ผิดพลาด ใช้ไม่ได้

  ทำให้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชน สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค และประชาชนทั่วไปอย่างกว้างขวาง
ต่อมานายวสันต์ กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า การกล่าวถึงกรณีดังกล่าวนั้น ไม่ได้หมายความว่าคำวินิจฉัยดังกล่าว
ใช้ไม่ได้ แต่สิ่งที่มองว่าใช้ไม่ได้ เป็นเรื่องของรูปแบบการเขียนคำวินิจฉัย ไม่ใช่เนื้อหา
ของคำวินิจฉัยดังที่ตกเป็นข่าวแต่อย่างใด

  ผมจึงได้ถอดคำพูดของนายวสันต์ออกมาว่าได้พูดอะไรไปบ้าง เผื่อนายวสันต์อาจจะจำไม่ได้ว่าได้พูดอะไร
ออกไปบ้างจะได้ฉุกคิดได้ว่า แม้จะอธิบาย(แก้ตัว)อย่างไรก็หลีกไม่พ้นังแต่จะเสื่อมกับเสีย

คลิปฯเริ่มที่ 0.35 น
ต้องมีการอ่าน ณ วันนั้นอย่างกรณีคุณสมัครนี่ เอ้า..ระบุไปเลย คดีอดีตนายกฯสมัคร เราประชุมกัน 9 โมงครึ่ง
ทุกคนก็ถือคำวินิจฉัยเข้าห้องส่วนตัวเข้าห้องประชุม เมื่อได้มติเจ้าหน้าที่ก็จะยกร่างเอาตามเหตุผลตรงนั้นสดๆ
ร้อนๆ เรานัดอ่านไว้รู้สึกจะบ่าย 2 แล้วก็ทำไม่ทัน ฉุกละหุก ฉุกเฉิน มันก็เหมือนกับการสุกเอาเผากิน
ใช่ไหมฮะ

  กว่าจะได้อ่านเอา 4 โมงครึ่ง เย็น แล้วก็มีข้อผิดพลาด เป็นคำวินิจฉัยที่ๆไม่เหมาะสมด้วยประการทัั้งปวง
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพจนานุกรมนะ แล้วอันนั้นก็ผิดด้วยเมื่อไปเปิดพจนานุกรมจริงก็ผิดด้วย
ผิดก็มันต้อง
โยงกันหลายอย่างไม่ใช่ดูตัวเดียวไม่ได้

คำวินิจฉัยหรือคำพิพากษาที่ถูกต้อง ต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้ยุติก่อน คดีทุกเรื่องมันจะมีข้อเท็จจริงกับข้อกฏ
หมาย ข้อเท็จจริงคือมีการทำอย่างนั้นจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงยุติแล้วถึงจะมาถึงข้อกฏหมายว่า แล้วมันผิดหรือ
ไม่ผิด ข้อเท็จจริงต้องยุติก่อน คดีเรื่องนี้ท่านนายกฯสมัคร ท่านก็ต่อสู้ว่าไม่ได้รับตังค์ ต้องวินิจฉัยให้มันเสร็จ
เรียบร้อยก่อนว่าตกลงรับหรือไม่ได้รับ รับหรือไม่ได้รับ ?


  นี่กลับเป็นว่าเอาข้อกฏหมายขึ้นก่อน แล้วมาเขียนข้อเท็จจริงทีหลัง เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านการวินิจฉัยเขารู้แล้ว
ว่าผลจะเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงต้องยุติก่อนจึงจะไปสู่ข้อกฏหมาย อันนั้นต้องยอมรับว่าเป็นคำวินิจฉัยที่ใช้ไม่
ได้โดยสิ้นเชิง เกิดจากการสุกเอาเผากิน ซึ่งในระยะหลังเราจึงไม่ทำแบบนั้น


ฟังแล้ว,อ่านแล้วละเหี่ยใจกับท่านประธานฯจริงๆครับ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำแบบสุกเอาเผากินได้ยังไง ชาวบ้าน
ธรรมดา ตาสีตาสาชาวนาต่างจัดยังพออภัย แต่คนใหญ่คนโตคนมีการศึกษา มีอำนาจในการพิพากษาคน ทำไม
ทำอะไรโดยไม่คิดตัดสินใจให้ละเอียดรอบคอบครับ คุณธรรม,จริยธรรมมันหายไปไหนหมด

สิ่งที่พวกท่านกระทำผิดพลาดลงไป ไม่ว่าจะมาแก้ตัวยังไงมันก็ฟังไม่ขึ้นแล้วล่ะ ทางที่ดีที่สุดคือแสดงความรับ
ผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอันนี้ก็สุดแท้แต่สามัญสำนึกหรือวุฒิภาวะที่พวกท่านมีก็แล้วกัน

คลิปฯ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่