Focaccia ตัวนี้จะว่าเป็นขนมปังก็ไม่ใช่ จะเป็น Pizza ก็ไม่เชิง เค้าเรียก Focaccia ถ้างั้นเออก็ได้ ขนมปัง ก็ขนมปัง คืออาหารตัวนี้เนี้ยเป็นอาหารพิเศษมาก เพราะว่าสามารถเรียกชื่อนี้ได้นั้นจะต้องผลิตที่เมือง Recco ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในแคว้น Liguria ถ้าผลิตนอกเมืองนี้เนี้ย ไม่สามารถเรียกว่า Focaccia di Recco ได้ ก็เหมือนกับ Champagne นะคะ ต้องผลิตที่เมือง Champagne ประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น แต่นี่เป็นอาหาร ตอนเบนไปกินครั้งแรก มีเจ้าของร้านขนมเก่าแก่ชื่อดังที่เมือง Genova (ร้านชื่อ Pasticceria Tagliafico)
https://www.facebook.com/pages/Pasticceria-Tagliafico/435602133171335?fref=ts ที่เบนไปฝึกงานด้วยเป็นคนพาไป แต่ไอ้ที่บอกฝึกงานในร้านขนมอย่าเข้าใจผิดนะคะว่าเบนทำขนมเป็นด้วย ฝึกงานของเบนแปลกกว่าคนอื่นหน่อย คือไปกินทุกอย่างในร้านเค้าที่มีนะคะ แล้วเค้าก็ให้หยิบๆจับๆอะไรนิดหน่อยแบบสนุกๆ เช่นเติมไส้ขนม ม้วน croissant แต่เจ้าของน่ารักมาก สอนหมดเลย ไม่มีหมก ไม่มีความลับ อยากรู้อะไรบอกหมด แล้วก็ยังได้ไปเรียนชงกาแฟจากคนชงกาแฟอันเก่าแก่มากของร้าน เป็นประสบการณ์ที่จำไม่มีวันลืมเลยจริงๆ แล้วที่สำคัญคือ ขนมเค้าอร่อยมาก เพราะว่าเจ้าของลงมาทำ ลงมาดูเองทุกวัน แล้วคิดสูตรขนมใหม่ๆ ลองนั้นลองนี่ตลอด บอกตามตรงว่าถึงจะไม่ค่อยชอบเมือง Genova เท่าไหร แต่อยากกลับไปอีก เพราะอยากไปกินขนมร้านนี้
เข้าเรื่องกันต่อ คือเจ้าของร้านเป็นคนพาไป พร้อมกับคู่หมั่นเค้า คือจะบอกว่าเบนเป็น Third wheels หรืออะไรก็ไม่สนแล้วละ เรื่องกินสำคัญสุด เมืองนี้อยู่ไม่ไกลจาก Genova มาก ขับรถประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นเมืองติดทะเล ไปเพื่อไปกิน Focaccia di Recco อย่างเดียวเลย โชคดีที่ไปกันสามคน เพราะว่ามันอันใหญ่มาก ไปกินคนเดียวนี่จบเห่ ไม่ต้องกินอย่างอื่นอีกเลย แถมตอนแรกแบบเฮ้ย-มีกระดาษติดอาหารคุณมาด้วย มองดีดีคือความจริงมันเป็น sticker IGP
http://en.wikipedia.org/wiki/Protected_Geographical_Status เป็นครั้งแรกที่รู้ว่านอกว่าผลิตภัณฑ์เช่นพวก Cheese หรือน้ำมันมะกอกแล้ว อาหารบนจานก็ดีตราได้เหมือนกัน
ด้วยความเป็นเจ้าหนูคำถามตั้งแต่เด็ก ถ้าใครเคยดูโฆษณาน้ำตาลวังขนายเนี้ยที่มีเอเลี่ยนยกมือในห้องเรียน นั้นละคะเบน เป็นมาตลอด ถามจนเพื่อนลำคาญ เพราะฉะนั้นมาทำอาชีพแบบนี้แล้วคนเสิร์ฟกับ chef ก็เหมือนเป็นครูคนใหม่ ถามได้ถามเอา ก็ถามเค้าว่าชีสที่ใช้เนี้ยใช้ชีสอะไร เท่าที่จับใจความได้กับความจำสั่นๆของเบน คือจำได้ว่าเป็น Stracchino cheese ชีสนิ่ม ที่ทำมาจากนมแพะซึ่งอยู่บนภูเขาในแคว้น Liguria ส่วนแป้งเนี้ยเป็นแป้งผสมน้ำมันมะกอก พูดถึงน้ำมันมะกอก เบนชอบน้ำมันมะกอกของที่แคว้นนี้มาก เพราะว่ารสชาติจะอ่อน แล้วออกกลิ่นหอมดอกไม้นิดๆ ใส่กับ Salad อร่อย แต่ใส่กับเนื้อหรือปลาไม่ได้นะ เพราะว่ามันจะทำให้กลิ่นและรสชาติเหม่งๆ
นอกเรื่องอีกแล้ว กลับมาต่อที่หัวข้อเดิม คือ Focaccia เนี้ยพอทำเสร็จปุ๊ปต้องกินทันทีเพราะว่าแป้งเค้าบางมาก และกรอบ รวมถึงชีสที่ไหลแทบจะเป็นน้ำอยู่แล้วภายในแป้งบางสองอันประกบกัน ถ้าทิ้งไว้แป้งสุดกรอบนี้ก็นิ่มพอดี คือพอรู้เนี้ย แทบจะกินจากมือคนเสิร์ฟ ซึ่งพิซซ่าก็เหมือนกัน ออกจากเตาปุ๊ปต้องรีบกินเลย แป้งที่เค้าใช้จะแตกต่างจากแป้งพิซซ่านิดหน่อยคือไม่ใส่ยีส เพราะแป้งไม่จำเป็นต้องฟู แค่บางและกรอบก็พอ
คือถ้าใครอยากจะกิน Focaccia di Recco เนี้ยต้องไปกินที่เมือง Recco เท่านั้น บางทีที่อื่นอาจจะมีเมนูนี้ให้เห็น แต่มันเป็นของปลอม คนอาจจะบอกว่าเหมือนกันนั้นแหละ ซึ่งเบนก็ไม่แน่ใจ แต่เบนคิดว่าไม่น่าจะเหมือน ด้วยสภาพภูมิอากาศและวัตถุดิบที่แตกต่างกัน ถึงจะใกล้เคียงแต่ไม่เหมือน 100% คออาหารตัวจริงคงต้องตามไปกินถึงที่ Recco
ไม่รู้ว่าเขียนเรื่องอาหาร in detail เยอะขนาดนี้แถมนอกเรื่องก็เยอะมันน่าเบื่อรึเปล่าคะ?
กินดี@Italy ตอน ยิ่งกว่า Pizza
Focaccia ตัวนี้จะว่าเป็นขนมปังก็ไม่ใช่ จะเป็น Pizza ก็ไม่เชิง เค้าเรียก Focaccia ถ้างั้นเออก็ได้ ขนมปัง ก็ขนมปัง คืออาหารตัวนี้เนี้ยเป็นอาหารพิเศษมาก เพราะว่าสามารถเรียกชื่อนี้ได้นั้นจะต้องผลิตที่เมือง Recco ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในแคว้น Liguria ถ้าผลิตนอกเมืองนี้เนี้ย ไม่สามารถเรียกว่า Focaccia di Recco ได้ ก็เหมือนกับ Champagne นะคะ ต้องผลิตที่เมือง Champagne ประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น แต่นี่เป็นอาหาร ตอนเบนไปกินครั้งแรก มีเจ้าของร้านขนมเก่าแก่ชื่อดังที่เมือง Genova (ร้านชื่อ Pasticceria Tagliafico) https://www.facebook.com/pages/Pasticceria-Tagliafico/435602133171335?fref=ts ที่เบนไปฝึกงานด้วยเป็นคนพาไป แต่ไอ้ที่บอกฝึกงานในร้านขนมอย่าเข้าใจผิดนะคะว่าเบนทำขนมเป็นด้วย ฝึกงานของเบนแปลกกว่าคนอื่นหน่อย คือไปกินทุกอย่างในร้านเค้าที่มีนะคะ แล้วเค้าก็ให้หยิบๆจับๆอะไรนิดหน่อยแบบสนุกๆ เช่นเติมไส้ขนม ม้วน croissant แต่เจ้าของน่ารักมาก สอนหมดเลย ไม่มีหมก ไม่มีความลับ อยากรู้อะไรบอกหมด แล้วก็ยังได้ไปเรียนชงกาแฟจากคนชงกาแฟอันเก่าแก่มากของร้าน เป็นประสบการณ์ที่จำไม่มีวันลืมเลยจริงๆ แล้วที่สำคัญคือ ขนมเค้าอร่อยมาก เพราะว่าเจ้าของลงมาทำ ลงมาดูเองทุกวัน แล้วคิดสูตรขนมใหม่ๆ ลองนั้นลองนี่ตลอด บอกตามตรงว่าถึงจะไม่ค่อยชอบเมือง Genova เท่าไหร แต่อยากกลับไปอีก เพราะอยากไปกินขนมร้านนี้
เข้าเรื่องกันต่อ คือเจ้าของร้านเป็นคนพาไป พร้อมกับคู่หมั่นเค้า คือจะบอกว่าเบนเป็น Third wheels หรืออะไรก็ไม่สนแล้วละ เรื่องกินสำคัญสุด เมืองนี้อยู่ไม่ไกลจาก Genova มาก ขับรถประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นเมืองติดทะเล ไปเพื่อไปกิน Focaccia di Recco อย่างเดียวเลย โชคดีที่ไปกันสามคน เพราะว่ามันอันใหญ่มาก ไปกินคนเดียวนี่จบเห่ ไม่ต้องกินอย่างอื่นอีกเลย แถมตอนแรกแบบเฮ้ย-มีกระดาษติดอาหารคุณมาด้วย มองดีดีคือความจริงมันเป็น sticker IGP http://en.wikipedia.org/wiki/Protected_Geographical_Status เป็นครั้งแรกที่รู้ว่านอกว่าผลิตภัณฑ์เช่นพวก Cheese หรือน้ำมันมะกอกแล้ว อาหารบนจานก็ดีตราได้เหมือนกัน
ด้วยความเป็นเจ้าหนูคำถามตั้งแต่เด็ก ถ้าใครเคยดูโฆษณาน้ำตาลวังขนายเนี้ยที่มีเอเลี่ยนยกมือในห้องเรียน นั้นละคะเบน เป็นมาตลอด ถามจนเพื่อนลำคาญ เพราะฉะนั้นมาทำอาชีพแบบนี้แล้วคนเสิร์ฟกับ chef ก็เหมือนเป็นครูคนใหม่ ถามได้ถามเอา ก็ถามเค้าว่าชีสที่ใช้เนี้ยใช้ชีสอะไร เท่าที่จับใจความได้กับความจำสั่นๆของเบน คือจำได้ว่าเป็น Stracchino cheese ชีสนิ่ม ที่ทำมาจากนมแพะซึ่งอยู่บนภูเขาในแคว้น Liguria ส่วนแป้งเนี้ยเป็นแป้งผสมน้ำมันมะกอก พูดถึงน้ำมันมะกอก เบนชอบน้ำมันมะกอกของที่แคว้นนี้มาก เพราะว่ารสชาติจะอ่อน แล้วออกกลิ่นหอมดอกไม้นิดๆ ใส่กับ Salad อร่อย แต่ใส่กับเนื้อหรือปลาไม่ได้นะ เพราะว่ามันจะทำให้กลิ่นและรสชาติเหม่งๆ
นอกเรื่องอีกแล้ว กลับมาต่อที่หัวข้อเดิม คือ Focaccia เนี้ยพอทำเสร็จปุ๊ปต้องกินทันทีเพราะว่าแป้งเค้าบางมาก และกรอบ รวมถึงชีสที่ไหลแทบจะเป็นน้ำอยู่แล้วภายในแป้งบางสองอันประกบกัน ถ้าทิ้งไว้แป้งสุดกรอบนี้ก็นิ่มพอดี คือพอรู้เนี้ย แทบจะกินจากมือคนเสิร์ฟ ซึ่งพิซซ่าก็เหมือนกัน ออกจากเตาปุ๊ปต้องรีบกินเลย แป้งที่เค้าใช้จะแตกต่างจากแป้งพิซซ่านิดหน่อยคือไม่ใส่ยีส เพราะแป้งไม่จำเป็นต้องฟู แค่บางและกรอบก็พอ
คือถ้าใครอยากจะกิน Focaccia di Recco เนี้ยต้องไปกินที่เมือง Recco เท่านั้น บางทีที่อื่นอาจจะมีเมนูนี้ให้เห็น แต่มันเป็นของปลอม คนอาจจะบอกว่าเหมือนกันนั้นแหละ ซึ่งเบนก็ไม่แน่ใจ แต่เบนคิดว่าไม่น่าจะเหมือน ด้วยสภาพภูมิอากาศและวัตถุดิบที่แตกต่างกัน ถึงจะใกล้เคียงแต่ไม่เหมือน 100% คออาหารตัวจริงคงต้องตามไปกินถึงที่ Recco
ไม่รู้ว่าเขียนเรื่องอาหาร in detail เยอะขนาดนี้แถมนอกเรื่องก็เยอะมันน่าเบื่อรึเปล่าคะ?