ผมไม่เห็นด้วย ที่อ้างว่า จะขึ้นราคาlpg เพื่อให้ประชาชนประหยัด การใช้พลังงาน
ทุกวันนี้คนที่ใช้รถส่วนใหญ่ ไม่ประหยัด??
ทุกวันนี้คนที่ใช้รถส่วนใหญ่
ใช้พลังงานกันแบบฟุ่มเฟือย???
มองไปบนถนน ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำกันทั้งนั้น
การใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวัน แทบทุกวัน ก็คือเช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้าน (จำเป็นกับจำทน ต้องใช้รถทั้งนั้น)
วันหยุด อาจหนีไปพักผ่อนบ้าง หรือ ขอไปห้างช็อบปิ้งนิส1
(week dayเหนื่อยมา5-6วัน weekend ก็นิส1)
ผมว่าวงจรชีวิตของมนุษย์บนถนนส่วนใหญ่ ทั่วไปก็มีแค่นี้แหละ..
แต่ทำไม? พอจะกระชาก รายจ่ายด้านพลังงานเพิ่ม ต้องกล่าวหา คนพวกนี้ว่าใช้ฟุ่มเฟือย???
(Tเรื่องแบบนี้ ทำเป็นห่วงว่า คนใช้พลังงานไม่เป็น ใช้ฟุ่มเฟือย แต่..ตอนทำโปรขายรถป้ายแดง กลับบอกไม่ต้องห่วงแทนประชาชนหรอก
เรื่องผ่อนไม่ไหวเรื่องโดนยึดรถ คนเขาดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องไปห่วงแทนหรอก
เรียกว่าตรรกกะป่วย จริงๆ แถ เข้าข้างตัวเองได้ตล็อด)
เรื่องของเรื่องคือ รัฐจะหารายได้เพิ่ม หลังจากที่เงินประเทศกำลังจะหมด เพราะ ประชานิยม ฟุ่มเฟือย ไง!!!
และ เป็นเพราะว่า..ความผิดพลาดในการบริหารจัดการมากกว่า ที่ทำให้รัฐไม่สามารถดูแลต้นทุนด้านพลังงงานได้
สุดท้ายจึงผลักภาระมาที่ ประชาชนที่เป็นผู้บริโภค พร้อมข้อกล่าวหาใส่ร้ายพ่วงอีกว่า..
พวกuกำลังใช้พลังงานกันอย่าง ฟุ่มเฟือย iเลยต้องขอขึ้นราคาจะได้ใช้กันน้อยๆ
ถามจริงๆนะ ถ้าปรับราคาขึ้น คนใช้รถในชีวิตประจำวันจะ ใช้พลังงาน ลดลง จริงหรือ??
หรือ ต้อง จำใจ จำทน ใช้พลังงาน แพงๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ พร้อมกับรับข้อกล่าวหาว่า เป็นฟุ่มเฟือย แถมอีก
และ ถ้าอยากให้ประชาชนประหยัดการใช้พลังงาน ภาครัฐมีทางเลือกอื่นให้อีกไหม??
หรือว่า การทำโปรขายรถป้ายแดงคันแรก เป็นการส่งเสริมให้เกิดการประหยัดการใช้พลังงาน???
ในเมื่อ ปากบอกให้คนประหยัด แต่กลับออกนโยบายส่งเสริมให้คนใช้พลังงาน เพิ่ม.., บ้ารึเปล่า????
(นโยบายสิ้นคิด แตะตรงไหนก็ร้อน ไม่มีดีสักอย่าง)
การที่นโยบายสิ้นคิดนี้ออกมา ทำให้รถติดเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน รู้บ้างไหม?
และ ทุกวันนี้..เกิดการสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ เพราะรถติด ไปแล้วเท่าไร??
พวกรถใหม่ก็เพิ่มการใช้พลังงาน พวกรถที่มีอยู่แล้วก็ต้องมาทนทุกข์ สิ้นเปลืองพลังงาน ร่วมบนถนนด้วยกันอีก
นี่ยังไม่คิดถึง การสูญเสียเวลากับรถติดบนถนน นะ (จะเรียกว่า ความสุขมวลรวมบนถนน ลดลงก็ได้ คิคิ)
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคนใช้รถใช้ถนนทุกวันนี้ คือการขาดวิสัยทัศน์ ในการบริหารประเทศของ นางปู 100%
จะไปโทษปัจจัยแวดล้อมไม่ได้เลย..
ถ้าจะมองไปที่ราคาพลังงานในตลาดโลก..
ดูกราฟย้อนไป 2ปีก่อน ก็น่าจะจำได้ว่า ก่อนที่ นังยกตนนี้ จะมาบริหาร
ราคาน้ำมัน วิ่งไป100++ แพงกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ แต่ราคาขายปลีกกลับ ถูกกว่า ปัจจุบัน
ราคาแก็สธรรมชาติ ก็แพงกว่าด้วย ในตอนนั้น แต่ยุคนั้นยังควบคุมราคาได้ดีกว่า..!!!
ค่าเงินบาทก็อ่อนกว่าปัจจุบัน
พูดง่ายๆคือ 2ปีก่อน ทุกปัจจัย เอื้อให้ราคาสูงกว่า แต่ผู้บริโภคได้ใช้ของถูกกว่า
แต่ปัจจุบัน ทุกปัจจัย ปรับตัวลง เอื้อให้ต้นทุนการนำเข้า ต่ำลง แต่กลับ พยายามปรับราคากันขึ้นเรื่อยๆ
ผู้บริโภค ต้องทนใช้ของแพง พร้อมกับ ตกเป็นแพะรับบาปอีกว่า เป็นต้นเหตุเพราะใช้ฟุ่มเฟือย..,
ผมว่า บริหารห่วยแตก แล้วโยนบาป ให้ประชาชน มากกว่า มั้ง?
ยังไงก็ตาม การปรับราคาพลังงานขึ้นแบบนี้ ไม่ได้ช่วยให้เกิดการลดการใช้พลังงานอย่างแน่นอน
แต่เป็นอีก1นโยบาย ที่ใช้กระชากค่าครองชีพ ให้แพงขึ้นเท่านั้น(กระชากชีพ ปลิดวิญญาน มากกว่า หึหึ)
(ถ้าไม่เชื่อ ลองเอาสถิติการใช้พลังงานมาเปรียบเทียบดูก็ได้ว่า ปริมาณการใช้ในปีที่ผ่านๆมา ซึ่งราคาถูกกว่า กับปริมาณการปัจจุบัน เป็นอย่างไร แต่ดูแค่ปริมาณรถติดก็รู้แล้วนะ ทั้งเพิ่มขึ้นและเกิดloss แค่ไหน?..,)
ปล.ผลจากเสียงส่วนใหญ่ ที่เลือกเอานางโง่ มานั่งบริหารประเทศ จึงต้องทน รับกรรม ร่วมกัน ต่อไป
ปล2. เงินแสนกว่าล้าน กับ3.5แสนล้าน ขอสักนิส1
ถ้ามันไม่โง่ บอกว่าเอาอยู่ แล้วไปกั้นน้ำให้สูง3เมตร แบบนั้น
ยอม ปล่อยให้ท่วมนาข้าวแถวสุพรรณบ้าง ปล่อยลงมาให้ท่วมบางพื้นที่บ้าง
ความเสียหายคงไม่เยอะเท่านี้ เงิน4-5แสนล้าน ก็คงไม่ต้องใช้อย่างทุกวันนี้
และ..คงไม่กลัวจนปอดแหก ปล่อยน้ำหมดเขื่อน จนต้องแล้งแบบนี้
ปล3. ถึงวันนี้น่าจะเรียนรู้ได้แล้วว่า ผู้นำโง่ พาประเทศ shipหาย ได้จริงๆ ไม่ได้โม้
ผมไม่เห็นด้วย ที่อ้างว่า จะขึ้นราคาlpg เพื่อให้ประชาชนประหยัด การใช้พลังงาน
ทุกวันนี้คนที่ใช้รถส่วนใหญ่ ไม่ประหยัด??
ทุกวันนี้คนที่ใช้รถส่วนใหญ่ ใช้พลังงานกันแบบฟุ่มเฟือย???
มองไปบนถนน ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำกันทั้งนั้น
การใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวัน แทบทุกวัน ก็คือเช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้าน (จำเป็นกับจำทน ต้องใช้รถทั้งนั้น)
วันหยุด อาจหนีไปพักผ่อนบ้าง หรือ ขอไปห้างช็อบปิ้งนิส1 (week dayเหนื่อยมา5-6วัน weekend ก็นิส1)
ผมว่าวงจรชีวิตของมนุษย์บนถนนส่วนใหญ่ ทั่วไปก็มีแค่นี้แหละ..
แต่ทำไม? พอจะกระชาก รายจ่ายด้านพลังงานเพิ่ม ต้องกล่าวหา คนพวกนี้ว่าใช้ฟุ่มเฟือย???
(Tเรื่องแบบนี้ ทำเป็นห่วงว่า คนใช้พลังงานไม่เป็น ใช้ฟุ่มเฟือย แต่..ตอนทำโปรขายรถป้ายแดง กลับบอกไม่ต้องห่วงแทนประชาชนหรอก
เรื่องผ่อนไม่ไหวเรื่องโดนยึดรถ คนเขาดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องไปห่วงแทนหรอก เรียกว่าตรรกกะป่วย จริงๆ แถ เข้าข้างตัวเองได้ตล็อด)
เรื่องของเรื่องคือ รัฐจะหารายได้เพิ่ม หลังจากที่เงินประเทศกำลังจะหมด เพราะ ประชานิยม ฟุ่มเฟือย ไง!!!
และ เป็นเพราะว่า..ความผิดพลาดในการบริหารจัดการมากกว่า ที่ทำให้รัฐไม่สามารถดูแลต้นทุนด้านพลังงงานได้
สุดท้ายจึงผลักภาระมาที่ ประชาชนที่เป็นผู้บริโภค พร้อมข้อกล่าวหาใส่ร้ายพ่วงอีกว่า..
พวกuกำลังใช้พลังงานกันอย่าง ฟุ่มเฟือย iเลยต้องขอขึ้นราคาจะได้ใช้กันน้อยๆ
ถามจริงๆนะ ถ้าปรับราคาขึ้น คนใช้รถในชีวิตประจำวันจะ ใช้พลังงาน ลดลง จริงหรือ??
หรือ ต้อง จำใจ จำทน ใช้พลังงาน แพงๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ พร้อมกับรับข้อกล่าวหาว่า เป็นฟุ่มเฟือย แถมอีก
และ ถ้าอยากให้ประชาชนประหยัดการใช้พลังงาน ภาครัฐมีทางเลือกอื่นให้อีกไหม??
หรือว่า การทำโปรขายรถป้ายแดงคันแรก เป็นการส่งเสริมให้เกิดการประหยัดการใช้พลังงาน???
ในเมื่อ ปากบอกให้คนประหยัด แต่กลับออกนโยบายส่งเสริมให้คนใช้พลังงาน เพิ่ม.., บ้ารึเปล่า????
(นโยบายสิ้นคิด แตะตรงไหนก็ร้อน ไม่มีดีสักอย่าง)
การที่นโยบายสิ้นคิดนี้ออกมา ทำให้รถติดเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน รู้บ้างไหม?
และ ทุกวันนี้..เกิดการสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ เพราะรถติด ไปแล้วเท่าไร??
พวกรถใหม่ก็เพิ่มการใช้พลังงาน พวกรถที่มีอยู่แล้วก็ต้องมาทนทุกข์ สิ้นเปลืองพลังงาน ร่วมบนถนนด้วยกันอีก
นี่ยังไม่คิดถึง การสูญเสียเวลากับรถติดบนถนน นะ (จะเรียกว่า ความสุขมวลรวมบนถนน ลดลงก็ได้ คิคิ)
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคนใช้รถใช้ถนนทุกวันนี้ คือการขาดวิสัยทัศน์ ในการบริหารประเทศของ นางปู 100%
จะไปโทษปัจจัยแวดล้อมไม่ได้เลย..
ถ้าจะมองไปที่ราคาพลังงานในตลาดโลก..
ดูกราฟย้อนไป 2ปีก่อน ก็น่าจะจำได้ว่า ก่อนที่ นังยกตนนี้ จะมาบริหาร
ราคาน้ำมัน วิ่งไป100++ แพงกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ แต่ราคาขายปลีกกลับ ถูกกว่า ปัจจุบัน
ราคาแก็สธรรมชาติ ก็แพงกว่าด้วย ในตอนนั้น แต่ยุคนั้นยังควบคุมราคาได้ดีกว่า..!!!
ค่าเงินบาทก็อ่อนกว่าปัจจุบัน
พูดง่ายๆคือ 2ปีก่อน ทุกปัจจัย เอื้อให้ราคาสูงกว่า แต่ผู้บริโภคได้ใช้ของถูกกว่า
แต่ปัจจุบัน ทุกปัจจัย ปรับตัวลง เอื้อให้ต้นทุนการนำเข้า ต่ำลง แต่กลับ พยายามปรับราคากันขึ้นเรื่อยๆ
ผู้บริโภค ต้องทนใช้ของแพง พร้อมกับ ตกเป็นแพะรับบาปอีกว่า เป็นต้นเหตุเพราะใช้ฟุ่มเฟือย..,
ผมว่า บริหารห่วยแตก แล้วโยนบาป ให้ประชาชน มากกว่า มั้ง?
ยังไงก็ตาม การปรับราคาพลังงานขึ้นแบบนี้ ไม่ได้ช่วยให้เกิดการลดการใช้พลังงานอย่างแน่นอน
แต่เป็นอีก1นโยบาย ที่ใช้กระชากค่าครองชีพ ให้แพงขึ้นเท่านั้น(กระชากชีพ ปลิดวิญญาน มากกว่า หึหึ)
(ถ้าไม่เชื่อ ลองเอาสถิติการใช้พลังงานมาเปรียบเทียบดูก็ได้ว่า ปริมาณการใช้ในปีที่ผ่านๆมา ซึ่งราคาถูกกว่า กับปริมาณการปัจจุบัน เป็นอย่างไร แต่ดูแค่ปริมาณรถติดก็รู้แล้วนะ ทั้งเพิ่มขึ้นและเกิดloss แค่ไหน?..,)
ปล.ผลจากเสียงส่วนใหญ่ ที่เลือกเอานางโง่ มานั่งบริหารประเทศ จึงต้องทน รับกรรม ร่วมกัน ต่อไป
ปล2. เงินแสนกว่าล้าน กับ3.5แสนล้าน ขอสักนิส1
ถ้ามันไม่โง่ บอกว่าเอาอยู่ แล้วไปกั้นน้ำให้สูง3เมตร แบบนั้น
ยอม ปล่อยให้ท่วมนาข้าวแถวสุพรรณบ้าง ปล่อยลงมาให้ท่วมบางพื้นที่บ้าง
ความเสียหายคงไม่เยอะเท่านี้ เงิน4-5แสนล้าน ก็คงไม่ต้องใช้อย่างทุกวันนี้
และ..คงไม่กลัวจนปอดแหก ปล่อยน้ำหมดเขื่อน จนต้องแล้งแบบนี้
ปล3. ถึงวันนี้น่าจะเรียนรู้ได้แล้วว่า ผู้นำโง่ พาประเทศ shipหาย ได้จริงๆ ไม่ได้โม้