เคยตั้งกระทู้มาครั้งนึงแต่รู้สึกว่าสั้นไปหน่อย วันนี้เลยมาขอขยายความครับ ผมยังยืนยันว่าการลดความอ้วนต้องอาศัยความเข้าใจและความรู้ที่ถูกต้องเป็นหลัก เพราะเราต้องเข้าใจถึงอาหาร กระบวนการเผาผลาญ (ซึ่งหาได้ไม่ยากในคลับลดความอ้วน) มันเลยไม่มีสูตรตายตัวมีแต่แนวทางในการลดความอ้วนที่ถูกวิธี เพราะคนแต่ละคนรูปร่างน้ำหนักต่างกัน มีมวลไขมันและกล้ามเนื้อต่างกัน มีระบบการเผาผลาญต่างกัน มีการใช้ชีวิตประจำวันต่างกัน มันเลยบอกไม่ได้ว่ากินแค่ไหนถึงจะเหมาะสม
คนสองคนกินอาหารเมนูเดียวกันตลอดวัน 1400cal แต่นาย ก เผาผลาญวันละ1600cal นาย ข เผาผลาญ1200cal เวลาผ่านไป นาย ก ผอมลง แต่นาย ข อ้วนขึ้น ทั้งๆที่สองคนกินเหมือนกันหมด ฉะนั้นสูตรที่ดูว่ากินอะไรบ้างต่อวันจำนวนเท่าไหร่ มันไม่ได้ผลทุกคน ยกเว้นกินแบบอดๆอยากๆผอมทุกคนแต่ผิดวิธีครับ ฉะนั้นเรื่องกินเราต้องใช้ตัวเองเป็นที่ตั้งลองดูว่าแค่ไหนถึงจะเหมาะสม และต้องเป็นแบบเราสามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้ทั้งชีวิตด้วยน่ะครับ เพราะการที่ร่างกายอิ่มชีวิตก็จะมีความสุข
การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในการลดความอ้วน หลายคนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้หุ่นดียกเว้นการออกกำลังกาย หาเวลาสักวันละหนึ่งชั่วโมงขึ้นไปในการออกกำลังกาย อาจจะยากในช่วงแรกๆแต่ขอบแกว่าถึงวันที่ทำสำเร็จมันคุ้มมาก เพราะเราจะได้หุ่นที่ดีแถมสุขภาพที่ดีด้วย การออกกำลังกายก็มีหลายแบบตรงนี้ก็ต้องศึกษาดู ทุกการออกกำลังกายมีจุดเด่นจุดด้อย แต่ที่สำคัญเราต้องชอบ เพราะเราจะได้มีตวามสุขกับมันในทุกๆวัน
การกินและการออกกำลังกายเมื่อไปควบคู่กัน เราทำแล้วก็มาดูผลลัพท์ อย่าดูตัวเลขบนตาชั่งอย่างเดียว ดูหุ่นในกระจกที่เปลี่ยนแปลงดีกว่าเพราะไขมันหนากว่ากล้ามเนื้อหลายเท่าตัว ฉะนั้นในน้ำหนักที่เท่ากัน บางคนอ้วนบางคนผอม ในความสูงเท่ากันเพราะไขมันต่างกัน
ยอมเสัยเวลาศึกษาข้อมูลทุกอย่างที่ผมว่ามา เรื่องอาหาร เรื่องการเผาผลาญ เรื่องการออกกำลังกาย ศึกษาให้เข้าใจแล้ววางโปรแกรมให้ตัวเอง ลองผิดลองถูกจนเจอสูตรสำเร็จของตนเอง แล้วทำมันจนถึงเป้าหมายที่วางไว้
1ปีเต็มๆที่ผมศึกษาลองผิดลองถูก ทุกวันนี้กินอิ่ม3มื้อ แต่เลือกประโยช์นของอาหารที่จะกินมากกว่าความอร่อย
ออกกำลังกายโดยเล่นเวทควบคู่คาร์ดิโอ 4-5วันต่อสัปดาห์ วางเป้าหมายหุ่นนายแบบไม่ใช่หุ่นนักเพาะกาย และแล้วก็ได้หุ่นที่พอใจในระดับหนึ่ง
สูตรสำเร็จในการลดความอ้วน คือความเข้าใจและการมีวินัยในการกินและการออกกำลังกาย
ใครๆก็ทำได้ มันขึ้นอยู่กับตัวคุณว่าจะทำมันหรือเปล่า? เหนื่อยแต่ก็คุ้มค่าครับ
จากคนอมโรค เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไหล่ห่อ อกแบน พุงหลาม มาเป็นหนุ่มที่ออกกำลังกายได้ชั่วโมงกว่าๆ อกผายไหลผึ่ง วัยไม่ใช่ปัญหาเพราะตอนนี้ผมใกล้จะ46แล้วครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนน่ะครับ
ลดความอ้วน...ใครๆก็ทำได้ มันขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะทำไหม?
คนสองคนกินอาหารเมนูเดียวกันตลอดวัน 1400cal แต่นาย ก เผาผลาญวันละ1600cal นาย ข เผาผลาญ1200cal เวลาผ่านไป นาย ก ผอมลง แต่นาย ข อ้วนขึ้น ทั้งๆที่สองคนกินเหมือนกันหมด ฉะนั้นสูตรที่ดูว่ากินอะไรบ้างต่อวันจำนวนเท่าไหร่ มันไม่ได้ผลทุกคน ยกเว้นกินแบบอดๆอยากๆผอมทุกคนแต่ผิดวิธีครับ ฉะนั้นเรื่องกินเราต้องใช้ตัวเองเป็นที่ตั้งลองดูว่าแค่ไหนถึงจะเหมาะสม และต้องเป็นแบบเราสามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้ทั้งชีวิตด้วยน่ะครับ เพราะการที่ร่างกายอิ่มชีวิตก็จะมีความสุข
การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในการลดความอ้วน หลายคนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้หุ่นดียกเว้นการออกกำลังกาย หาเวลาสักวันละหนึ่งชั่วโมงขึ้นไปในการออกกำลังกาย อาจจะยากในช่วงแรกๆแต่ขอบแกว่าถึงวันที่ทำสำเร็จมันคุ้มมาก เพราะเราจะได้หุ่นที่ดีแถมสุขภาพที่ดีด้วย การออกกำลังกายก็มีหลายแบบตรงนี้ก็ต้องศึกษาดู ทุกการออกกำลังกายมีจุดเด่นจุดด้อย แต่ที่สำคัญเราต้องชอบ เพราะเราจะได้มีตวามสุขกับมันในทุกๆวัน
การกินและการออกกำลังกายเมื่อไปควบคู่กัน เราทำแล้วก็มาดูผลลัพท์ อย่าดูตัวเลขบนตาชั่งอย่างเดียว ดูหุ่นในกระจกที่เปลี่ยนแปลงดีกว่าเพราะไขมันหนากว่ากล้ามเนื้อหลายเท่าตัว ฉะนั้นในน้ำหนักที่เท่ากัน บางคนอ้วนบางคนผอม ในความสูงเท่ากันเพราะไขมันต่างกัน
ยอมเสัยเวลาศึกษาข้อมูลทุกอย่างที่ผมว่ามา เรื่องอาหาร เรื่องการเผาผลาญ เรื่องการออกกำลังกาย ศึกษาให้เข้าใจแล้ววางโปรแกรมให้ตัวเอง ลองผิดลองถูกจนเจอสูตรสำเร็จของตนเอง แล้วทำมันจนถึงเป้าหมายที่วางไว้
1ปีเต็มๆที่ผมศึกษาลองผิดลองถูก ทุกวันนี้กินอิ่ม3มื้อ แต่เลือกประโยช์นของอาหารที่จะกินมากกว่าความอร่อย
ออกกำลังกายโดยเล่นเวทควบคู่คาร์ดิโอ 4-5วันต่อสัปดาห์ วางเป้าหมายหุ่นนายแบบไม่ใช่หุ่นนักเพาะกาย และแล้วก็ได้หุ่นที่พอใจในระดับหนึ่ง
สูตรสำเร็จในการลดความอ้วน คือความเข้าใจและการมีวินัยในการกินและการออกกำลังกาย
ใครๆก็ทำได้ มันขึ้นอยู่กับตัวคุณว่าจะทำมันหรือเปล่า? เหนื่อยแต่ก็คุ้มค่าครับ
จากคนอมโรค เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไหล่ห่อ อกแบน พุงหลาม มาเป็นหนุ่มที่ออกกำลังกายได้ชั่วโมงกว่าๆ อกผายไหลผึ่ง วัยไม่ใช่ปัญหาเพราะตอนนี้ผมใกล้จะ46แล้วครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนน่ะครับ