นายกฯ ขอถก'ยูเอ็น'ก่อนผลัก'โรฮิงญา'ออกจากไทย

"ยิ่งลักษณ์" ขอถก "ยูเอ็น" ก่อนผลัก "โรฮิงญา" ออกจากไทย รับหาก
จะผลักดันให้ออกจากประเทศ ต้องมี ขั้นตอน และกระบวนการ รวมถึง
ตรวจสอบประเทศที่ 3 ที่จะให้ไปอยู่ด้วย

วันที่ 19 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ ถึงการแก้ปัญหากรณี ชาวโรฮิงญาว่า เรื่องนี้เราต้องคุยกับ
ทางองค์การสหประชาชาติด้วย ทุกอย่างต้องมีทั้งประเทศ ที่เป็นต้น
สังกัด และประเทศที่สามที่จะไปอยู่ ซึ่งต้องมีกระบวนการตรวจสอบก่อน
ที่ต้องให้เป็นไปตามหลักสากล และหลักมนุษยธรรม ระหว่างที่ รอต้อง
ดำเนินการ ตามหลักมนุษยธรรมก่อน แต่อย่างไรก็ตาม เราจะพูดคุยกับ
สหประชาชาติ ซึ่งจะศึกษารายละเอียดก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเสนอให้มีการตั้งศูนย์พักพิงให้กับกลุ่มชาวโรฮิงญา
ในไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า เราอยากขออนุญาตว่า ให้มีการประสานงาน
อย่างเป็นขั้นเป็นตอนก่อน เพราะการตั้งศูนย์พักพิงไม่ได้ตอบโจทย์ เพราะ
ชาวโรฮิงญา มาต้องการอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย ซึ่งคงต้องดูว่า ต้นสังกัด
ประเทศต่างๆ ไปอะไรอย่างไร ต้องดูรายละเอียดก่อน ให้กระทรวง
การต่างประเทศ พิจารณาก่อน

เมื่อถามว่า นายกฯ มีแนวคิดที่จะผลักดัน ชาวโรฮิงญา กลับพม่าหรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า อย่าพูดอย่างนั้น จริงๆ แล้วเราต้องดูก่อนว่า ไปที่
ไหนปลอดภัยมากกว่า

http://www.thairath.co.th/content/pol/321107

ปชป.เสนอรัฐประสานองค์กรระหว่างประเทศแก้ปัญหา "โรฮิงญา"

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงการแก้ปัญหาชาวโรฮิงญา ที่ลักลอบเข้าประเทศมาจำนวนมาก
เพื่อหวังที่จะเป็นทางผ่านไปประเทศที่ 3 ว่า

พรรคประชาธิปัตย์ขอเสนอทางแก้ปํญหาให้รัฐบาลไทยเป็น 3 ระยะ
คือ ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยให้มีการจัดการอย่างเป็นระบบ
และต้องทำไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเชื่อว่าหากทำได้ครบ จะเป็นการช่วยเหลือ
เพื่อนมนุษยตามหลักมนุษยธรรม และเขาเหล่านั้นก็จะไม่เป็นภัยคุกคาม
ต่อความมั่นคงของประเทศเรา โดย

1 ต้นทาง เกิดจากชาวโรฮิงญาถูกปฏิเสธความเป็นพลเมืองจากประเทศพม่า
และประเทศบังคลาเทศ ทำให้ไม่ได้รับความมีสัญชาติ จึงอยากให้รัฐบาลไทย
เจรจากับทั้ง 2 ประเทศ ให้พวกเขายอมรับชาวโรฮิงญา เพื่อลดปัญหาให้กับ
ประเทศไทย และประสานความร่วมมือองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ สหประชาชาติ
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) โดยขอความ
ร่วมมือในการประสานประเทศพม่า และบังคลาเทศ รับชาวโรฮิงญาที่มีอยู่ใน
ประเทศเป็นพลเมืองของประเทศทั้ง 2 ประเทศนายชวนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วน

ข้อ 2 เป็นส่วนกลางทาง เมื่อชาวโรฮิงญาเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ประเทศไทย
ควรที่จะมีระบบจัดการ โดยแบ่งกลุ่มแรงงาน และหางานที่ประเทศเราไม่มีคน
ทำงาน เช่น แรงงานที่ไม่ต้องใช้ฝีมือ และจัดโซนนิ่งให้อยู่ในพื้นที่เฉพาะของ
ชาวโรฮิงญา นอกจากนี้ จุดเสี่ยงที่เข้ามานั้นควรต้องมีการตรวจอย่างเข้มงวด
รวมถึงประสานงาน

ส่วนของที 3 นั้น รัฐบาลควรประสานกับองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ สหประชาชาติ
ยูเอ็นเอชซีอาร์ ประสานหาประเทศที่ 3 ที่มีความพร้อมในการรับชาวโรฮิงญาไปอยู่
ซึ่งรัฐบาลควรที่จะเร่งดำเนินการและควรทำอย่างระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นชาวโรฮิงญา
จะเข้ามาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ขณะที่เราก็ไม่สามารถหาประเทศที่ 3
ให้เขาไปได้

http://www.naewna.com/politic/38203

ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่  กับทางออกของปัญหา ...ไม่ได้อวยใคร ...เอามาเทียบกัน
"แนวหน้า"  เสนอข่าวมาร์ค ...ไทยรัฐเสนอข่าวปู