จุดพลุ “ปรองดอง” รับศักราชใหม่!
^^(???????????? จริงหรือ?????????????)
ตำรับของ “มังกรการเมือง” ที่อ่านทิศทางสถานการณ์บ้านเมืองฉมังนัก ช่วงปีใหม่ 2556 กับการออกมาประกาศอาสาเป็นกาวใจ เดินสายสร้างความปรองดองของบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ
โดยหยิบยกคำพูดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ให้โอวาทเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ที่ว่า “คนในสังคมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้”
^^...(ถ้า play in game ไม่ใช่ play by โกง สังคมอยู่ร่วมกันได้ครับ ตอนปีใหม่ไปวัดสระเกศไม่เห็นมีใครแบ่งสีเลย ส่วนใหญ่สีขาว แปลว่าสังคมยังไปได้อีกไกล นะ)
นับวันเหลืออีก 11 เดือนคือ วันที่ 2 ธ.ค. 56 ที่จะพ้นโทษทางการเมือง 5 ปี ถ้าพ้นไปแล้วจะพยายามเดินเรื่องความปรองดองให้จงได้ แม้จะเป็นเรื่องที่ยาก
ขณะนี้ได้เตรียมแนวทางในการเจรจากับทุกกลุ่มไว้แล้ว รวมถึงอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
“บรรหาร” เปิดประเด็นเข้าจุด ตรงกระแสความต้องการของสังคมไทย????????
สอดคล้องกับผลสำรวจความเห็นของประชาชน ไม่ว่าสำนักโพลไหนที่ออกมา ประชาชนต่างคาดหวังจะเห็นเรื่องความสามัคคี เลิกทะเลาะเบาะแว้ง ไม่แตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ต้องถือว่า “บรรหาร” อ่านทะลุที่เสนอตัวเองบนเวทีอีกครั้ง ก่อนกลับเข้าสู่การเมืองเต็มตัวปลายปีนี้
นั่นก็เพราะประเมินแล้ววันนี้สังคมไทย ถวิลหา “คนกลาง”
เพราะบนเวทีการเมืองวันนี้ มีนับนิ้วได้ สำหรับบุคคลที่ชื่อชั้นบารมีพอที่จะประสานได้หลากขั้วหลายฝ่าย
ชื่อของ “บรรหาร” ก็คือหนึ่งในนั้น
และก็เป็นเรื่องที่ไม่เกินคาดหมายสำหรับเครือข่ายนายใหญ่ ที่ออกมาแสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดของนายบรรหาร
โดยโฟกัสที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ...............
^^..(ฮา ผมก็ว่าแล้ว เหมือนกัน ลิ้วล้อนายใหญ่ต้องเห็นด้วย555. เติ้งเอ้ยยยย ฟอร์ม...แก่ เก่าไป ถ้า10ปีก่อน มุขนี้คงได้ผล แต่ยุคนี้ยุค3Gแล้ว ).........
เห็นด้วยกับแนวคิดของอดีตนายกฯที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย คิดว่าทำได้ และเชื่อว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคงพูดถึงแนวคิดต่างๆ แนวทางสร้างความปรองดองอยู่ในใจพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่แล้ว แต่ต้องคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ให้รู้เรื่องก่อน เพราะบ้านเมืองยังมีคนได้ประโยชน์จากความขัดแย้ง
รับลูก “ปรองดอง” แต่ดักคอประชาธิปัตย์ในที
และก็เป็นไปตามคาดเช่นกันสำหรับท่าทีตอบสนองของพรรคประชาธิปัตย์ ไล่ตั้งแต่รุ่นลายคราม บัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคที่ปรามาสล่วงหน้า เรื่องนี้มีคนพยายามทำแล้ว แต่ไม่เห็นรายใดทำสำเร็จ
สอดรับกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ขัดหากจะมีใครมาทำเรื่องนี้ แต่ต้องเข้าใจเรื่องความขัดแย้งในเชิงหลักการ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการทุจริต
ถ้าทุกคนยอมรับกฎหมาย ยอมรับสิ่งที่เป็นความผิดต่างๆ ที่มีการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมแล้วสังคมก็ให้อภัย แต่ถ้าบอกว่าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมก็เป็นเรื่องยากที่จะหาข้อยุติ...
^^..(ถูกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆต้องนะคร้าบบบบ)....
เห็นด้วยกับสูตร “ปรองดอง” ในมุมประชาธิปัตย์
แต่นั่นยังไม่เท่ากับการออกมาสวนหมัดทันควันของนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใส่ไม่ยั้งว่า การเดินสายสร้างความปรองดองต้องให้เกิดการปรองดองที่แท้จริง ไม่ใช่ปรองดองจอมปลอม
ถ้าหากปรองดองเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ขอให้การปรองดองจอมปลอมจงพินาศ
^^..(มันพินาศเองไม่ว่า แต่แผ่นดินจะลุกเป็นไฟไปด้วย นี่น่ากลัวกว่า)
เป็นอันว่ามีแนวโน้มจบเห่ เพราะเมื่อคู่ขัดแย้งหลักอย่างคนพรรคเพื่อไทย เครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังแขวะใส่ ขณะที่คนประชาธิปัตย์ยังตั้งเงื่อนไขสูง ตอบรับแบบเสียมิได้
ยังไม่รวมคู่ขัดแย้ง แนวร่วมขั้วฝ่ายต่างๆอีกมาก ที่ยากจะพูดคุยเจรจาให้จบในเร็ววัน
ฉะนั้น ความหวังของคนในสังคมที่ต้องการเห็นความแตกแยกขัดแย้งยุติลง ความหวังนั้นก็คงทอดยาวออกไป
และสุดท้าย ปรองดองก็จะ “ล่ม” ซ้ำรอยก่อนหน้า
เพราะถ้าจำกันได้มือประสานอย่าง “บรรหาร” ไม่ใช่รายแรก “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ก็เคยเล่นบทนี้ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ก็เคยขายไอเดีย
หรือกระทั่ง “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯลาก “โซ่ข้อกลาง” ขอเป็นตัวเชื่อมมาหลายครั้ง
สำหรับ “บรรหาร” ที่เล่นตามโมเดลเดิม บทเก่าที่ใครๆก็อยากเล่น อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใด
เพราะอย่างที่รู้กันดี อดีตนายกฯรุ่นพี่-นายกฯรุ่นน้อง ประสานกันตลอด
^^..(ที่เอ่ยชื่อมาข้างบน ก็เหมือนหนังโฆษณา ดูดีเพื่อชาติเพื่อสามัคคี แต่มีแอบแฝง คงหาคนเชื่อยากส์แล้ว แบบนี้ต้องฟ้อง สคบ อิอิ)
..(
นัดพบปะพูดคุยในต่างแดนก็หลายครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่มีการขยับปรับเปลี่ยนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพื่อลดแรงสะเทือนโควตา รักษาสถานะพรรคชาติไทยพัฒนา
ล่าสุด ช่วงปลายปี 2555 “บรรหาร-ทักษิณ” ก็เจอกันที่ฮ่องกง ก่อนที่จะออกมาขันอาสาดีลเกมปรองดอง
^^..(พรรคปลาไหล จริงๆ)
เป็นบทเด่นก่อนคัมแบ็กการเมืองเต็มตัวของ “บรรหาร” กับจ็อบพิเศษภารกิจใหญ่เรื่องสร้างความปรองดองเพื่อยุติความแตกแยกขัดแย้งที่ลงลึก
แต่ยังเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นในเร็ววัน.
ทีมข่าวการเมือง(ของไทยรัฐครับ ขอยืมข่าวมาใช้แสดงความคิดเห็น หน่อย อิอิ)
^^..(ใช่ครับ..ใครก็รู้ว่าเป็นเรื่องยากส์ ยกเว้น วราเทพ ที่แก้ปัญหาได้ง่ายๆ โดยอาศัยพวกเยอะ กระทืบ พวกน้อยให้ชนะ แล้วประกาศว่าเรื่องนี้คนแพ้ต้องยอม จบ)
เติ้ง ปรองดอง หรือ ร่างทรงแม้ว???
^^(???????????? จริงหรือ?????????????)
ตำรับของ “มังกรการเมือง” ที่อ่านทิศทางสถานการณ์บ้านเมืองฉมังนัก ช่วงปีใหม่ 2556 กับการออกมาประกาศอาสาเป็นกาวใจ เดินสายสร้างความปรองดองของบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ
โดยหยิบยกคำพูดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ให้โอวาทเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ที่ว่า “คนในสังคมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้”
^^...(ถ้า play in game ไม่ใช่ play by โกง สังคมอยู่ร่วมกันได้ครับ ตอนปีใหม่ไปวัดสระเกศไม่เห็นมีใครแบ่งสีเลย ส่วนใหญ่สีขาว แปลว่าสังคมยังไปได้อีกไกล นะ)
นับวันเหลืออีก 11 เดือนคือ วันที่ 2 ธ.ค. 56 ที่จะพ้นโทษทางการเมือง 5 ปี ถ้าพ้นไปแล้วจะพยายามเดินเรื่องความปรองดองให้จงได้ แม้จะเป็นเรื่องที่ยาก
ขณะนี้ได้เตรียมแนวทางในการเจรจากับทุกกลุ่มไว้แล้ว รวมถึงอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
“บรรหาร” เปิดประเด็นเข้าจุด ตรงกระแสความต้องการของสังคมไทย????????
สอดคล้องกับผลสำรวจความเห็นของประชาชน ไม่ว่าสำนักโพลไหนที่ออกมา ประชาชนต่างคาดหวังจะเห็นเรื่องความสามัคคี เลิกทะเลาะเบาะแว้ง ไม่แตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ต้องถือว่า “บรรหาร” อ่านทะลุที่เสนอตัวเองบนเวทีอีกครั้ง ก่อนกลับเข้าสู่การเมืองเต็มตัวปลายปีนี้
นั่นก็เพราะประเมินแล้ววันนี้สังคมไทย ถวิลหา “คนกลาง”
เพราะบนเวทีการเมืองวันนี้ มีนับนิ้วได้ สำหรับบุคคลที่ชื่อชั้นบารมีพอที่จะประสานได้หลากขั้วหลายฝ่าย
ชื่อของ “บรรหาร” ก็คือหนึ่งในนั้น
และก็เป็นเรื่องที่ไม่เกินคาดหมายสำหรับเครือข่ายนายใหญ่ ที่ออกมาแสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดของนายบรรหาร
โดยโฟกัสที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ...............
^^..(ฮา ผมก็ว่าแล้ว เหมือนกัน ลิ้วล้อนายใหญ่ต้องเห็นด้วย555. เติ้งเอ้ยยยย ฟอร์ม...แก่ เก่าไป ถ้า10ปีก่อน มุขนี้คงได้ผล แต่ยุคนี้ยุค3Gแล้ว ).........
เห็นด้วยกับแนวคิดของอดีตนายกฯที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย คิดว่าทำได้ และเชื่อว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคงพูดถึงแนวคิดต่างๆ แนวทางสร้างความปรองดองอยู่ในใจพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่แล้ว แต่ต้องคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ให้รู้เรื่องก่อน เพราะบ้านเมืองยังมีคนได้ประโยชน์จากความขัดแย้ง
รับลูก “ปรองดอง” แต่ดักคอประชาธิปัตย์ในที
และก็เป็นไปตามคาดเช่นกันสำหรับท่าทีตอบสนองของพรรคประชาธิปัตย์ ไล่ตั้งแต่รุ่นลายคราม บัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคที่ปรามาสล่วงหน้า เรื่องนี้มีคนพยายามทำแล้ว แต่ไม่เห็นรายใดทำสำเร็จ
สอดรับกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ขัดหากจะมีใครมาทำเรื่องนี้ แต่ต้องเข้าใจเรื่องความขัดแย้งในเชิงหลักการ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการทุจริต
ถ้าทุกคนยอมรับกฎหมาย ยอมรับสิ่งที่เป็นความผิดต่างๆ ที่มีการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมแล้วสังคมก็ให้อภัย แต่ถ้าบอกว่าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมก็เป็นเรื่องยากที่จะหาข้อยุติ...
^^..(ถูกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆต้องนะคร้าบบบบ)....
เห็นด้วยกับสูตร “ปรองดอง” ในมุมประชาธิปัตย์
แต่นั่นยังไม่เท่ากับการออกมาสวนหมัดทันควันของนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใส่ไม่ยั้งว่า การเดินสายสร้างความปรองดองต้องให้เกิดการปรองดองที่แท้จริง ไม่ใช่ปรองดองจอมปลอม
ถ้าหากปรองดองเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ขอให้การปรองดองจอมปลอมจงพินาศ
^^..(มันพินาศเองไม่ว่า แต่แผ่นดินจะลุกเป็นไฟไปด้วย นี่น่ากลัวกว่า)
เป็นอันว่ามีแนวโน้มจบเห่ เพราะเมื่อคู่ขัดแย้งหลักอย่างคนพรรคเพื่อไทย เครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังแขวะใส่ ขณะที่คนประชาธิปัตย์ยังตั้งเงื่อนไขสูง ตอบรับแบบเสียมิได้
ยังไม่รวมคู่ขัดแย้ง แนวร่วมขั้วฝ่ายต่างๆอีกมาก ที่ยากจะพูดคุยเจรจาให้จบในเร็ววัน
ฉะนั้น ความหวังของคนในสังคมที่ต้องการเห็นความแตกแยกขัดแย้งยุติลง ความหวังนั้นก็คงทอดยาวออกไป
และสุดท้าย ปรองดองก็จะ “ล่ม” ซ้ำรอยก่อนหน้า
เพราะถ้าจำกันได้มือประสานอย่าง “บรรหาร” ไม่ใช่รายแรก “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ก็เคยเล่นบทนี้ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ก็เคยขายไอเดีย
หรือกระทั่ง “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯลาก “โซ่ข้อกลาง” ขอเป็นตัวเชื่อมมาหลายครั้ง
สำหรับ “บรรหาร” ที่เล่นตามโมเดลเดิม บทเก่าที่ใครๆก็อยากเล่น อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใด
เพราะอย่างที่รู้กันดี อดีตนายกฯรุ่นพี่-นายกฯรุ่นน้อง ประสานกันตลอด
^^..(ที่เอ่ยชื่อมาข้างบน ก็เหมือนหนังโฆษณา ดูดีเพื่อชาติเพื่อสามัคคี แต่มีแอบแฝง คงหาคนเชื่อยากส์แล้ว แบบนี้ต้องฟ้อง สคบ อิอิ)
..(
นัดพบปะพูดคุยในต่างแดนก็หลายครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่มีการขยับปรับเปลี่ยนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพื่อลดแรงสะเทือนโควตา รักษาสถานะพรรคชาติไทยพัฒนา
ล่าสุด ช่วงปลายปี 2555 “บรรหาร-ทักษิณ” ก็เจอกันที่ฮ่องกง ก่อนที่จะออกมาขันอาสาดีลเกมปรองดอง
^^..(พรรคปลาไหล จริงๆ)
เป็นบทเด่นก่อนคัมแบ็กการเมืองเต็มตัวของ “บรรหาร” กับจ็อบพิเศษภารกิจใหญ่เรื่องสร้างความปรองดองเพื่อยุติความแตกแยกขัดแย้งที่ลงลึก
แต่ยังเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นในเร็ววัน.
ทีมข่าวการเมือง(ของไทยรัฐครับ ขอยืมข่าวมาใช้แสดงความคิดเห็น หน่อย อิอิ)
^^..(ใช่ครับ..ใครก็รู้ว่าเป็นเรื่องยากส์ ยกเว้น วราเทพ ที่แก้ปัญหาได้ง่ายๆ โดยอาศัยพวกเยอะ กระทืบ พวกน้อยให้ชนะ แล้วประกาศว่าเรื่องนี้คนแพ้ต้องยอม จบ)