หลังจากไปนอนให้หมอสวนหัวใจเล่นที่รามา
ก็พอได้เรื่องได้ราวเก็บความมาเล่าสู่กันฟัง
ได้ฟังเค้าโม้อยู่หลายวัน ประจวบกับมีเรื่องอยากจะอวดด้วยพอดี
มามะ มารู้จักกับเรื่องราวของ สเต็มเซลล์กันดีมั้ย....
สเต็มเซลล์ คือ อะไร ?
คนไทยเรียกว่า....เซลล์ต้นกำเนิด
เซลล์ต้นกำเนิดนี้หมายถึงการกำเนิดชีวิตนั่นเอง
กระบวนการกำเนิดชีวิตของมนุษย์หรือสัตว์นั้น เกิดจากสองสิ่งมาผสมกันสเปิร์ม.....ของผู้ชาย ....ไข่......ของผู้หญิง (ผู้หญิงมีไข่จริงๆนะ)...
กลายเป็น 1 เซลล์ จากนั้นหนึ่งเซลล์จะทำการแบ่งตัวเป็นทวีคูณ
กลายเป็นอวัยวะต่างๆ จนกลายเป็นมนุษย์ขึ้นมา
เซลล์ต้นกำเนิดคือเซลล์ที่กลายเป็นอะไรก็ได้ เช่น....
ถ้าไปอยู่ที่สมองก็กลายเป็นเซลล์สมอง
ไปอยู่ที่เซลล์ตับก็กลายเป็นเซลล์ตับ ฯลฯ
สเต็มเซลล์ แบ่งตัวของตัวเองได้ตลอด สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ เช่น...
เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว
หรือเป็นเซลล์อื่นๆได้ และมีความเป็นตัวของตัวเอง
คงสภาพเป็น สเต็มเซลล์ อยู่ตลอดเวลา
สเต็มเซลล์ ของมนุษย์สามารถเก็บได้หลายระยะ เริ่มตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อน
หมายถึงไข่ผ่านการผสมกับสเปิร์มมาแล้วประมาณ 4-5วัน
แต่เนื่องจากยังมีมุมมองในแง่ศีลธรรมกันอยู่มาก เพราะว่าการนำมาใช้นั้น
เป็นการฆ่าตัวอ่อน ....ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้
แหล่งที่พบอื่นๆ และนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์
มีหลายทาง เช่น...
เลือด... ไขกระดูก.... สายรก (สายสะดือ)... ตัวสายสะดือ ...ไขมัน..ฯลฯ
เรียกได้ว่า สามารถพบได้เกือบทุกอวัยวะของร่างกาย แต่แหล่งที่พบแต่ละที่นั้นมีข้อดีข้อเสียและการนำมาใช้แตกต่างกันไป
หลัก การทำงานของ สเต็มเซลล์ ก็คือ ในร่างกายมนุษย์จะมีเซลล์ทั้งสิ้น 100 ล้านล้านเซลล์ แบ่งเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ 220 ชนิด โดยจะมีทั้งที่ตายไปและสร้างขึ้นใหม่ เป็นไปตามหลักอนิจจังไม่เที่ยงนั่นแหละ
ปกติร่างกายคนเราก็มี เซลล์ต้นกำเนิด กันอยู่แล้ว แต่เมื่อใดที่เกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้นมา ก็จะทำเซลล์ต้นกำเนิดไม่สามารถทำงานได้
ความมหัศจรรย์ของ สเต็มเซลล์ คือ..
เป็นเซลล์ที่มีความสามารถแบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ตลอดเวลา
การที่สเต็มเซลล์แบ่งตัวสร้างเซลล์ใหม่ที่เหมือนเดิมทุกประการ
ถือเป็นลักษณะพิเศษซึ่งแตกต่างจากเซลล์กล้ามเนื้อ
เซลล์เม็ดเลือด เซลล์ประสาท....
เซลล์ที่ทำหน้าที่จำเพาะเหล่านี้ ไม่สามารถแบ่งตัวขึ้นมาใหม่ได้
และเซลล์ที่แบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ก็ยังคงเป็นเซลล์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เฉพาะ เจาะจงเหมือนกับเซลล์แม่ และสามารถเปลี่ยนเซลล์ต้นกำเนิดชนิดหนึ่งไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นได้
หลายโรค หลายเรื่องราว การบำบัดรักษาด้วยสเต็มเซลล์จึงเป็นเรื่องสำคัญ
สเต็มเซลล์จึงเป็นที่ต้องการในวงการแพทย์เป็นอย่างมาก
เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ต่อมวลมนุษย์ชาิติ
เรามาบริจาคสเต็มเซลล์กันเถอะ
ผู้ป่วยทั่วโลก ที่เป็นโรครักษายาก กำลังร้องขอ และรอคอย...
อ่ะ....ขออวดหน่อยละกัน..
เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้น ๑
ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีฯ
จากการบริจาคสเต็มเซลล์ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ผู้ที่ได้รับสเต็มเซลล์จากการบริจาคครั้งนี้ มีเซลล์ที่เข้ากันได้
เป็นชาวเยอรมัน ที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือด ...!!
=======================ก็แค่มีเรื่องอยากจะอวด==========================
ก็พอได้เรื่องได้ราวเก็บความมาเล่าสู่กันฟัง
ได้ฟังเค้าโม้อยู่หลายวัน ประจวบกับมีเรื่องอยากจะอวดด้วยพอดี
มามะ มารู้จักกับเรื่องราวของ สเต็มเซลล์กันดีมั้ย....
สเต็มเซลล์ คือ อะไร ?
คนไทยเรียกว่า....เซลล์ต้นกำเนิด
เซลล์ต้นกำเนิดนี้หมายถึงการกำเนิดชีวิตนั่นเอง
กระบวนการกำเนิดชีวิตของมนุษย์หรือสัตว์นั้น เกิดจากสองสิ่งมาผสมกันสเปิร์ม.....ของผู้ชาย ....ไข่......ของผู้หญิง (ผู้หญิงมีไข่จริงๆนะ)...
กลายเป็น 1 เซลล์ จากนั้นหนึ่งเซลล์จะทำการแบ่งตัวเป็นทวีคูณ
กลายเป็นอวัยวะต่างๆ จนกลายเป็นมนุษย์ขึ้นมา
เซลล์ต้นกำเนิดคือเซลล์ที่กลายเป็นอะไรก็ได้ เช่น....
ถ้าไปอยู่ที่สมองก็กลายเป็นเซลล์สมอง
ไปอยู่ที่เซลล์ตับก็กลายเป็นเซลล์ตับ ฯลฯ
สเต็มเซลล์ แบ่งตัวของตัวเองได้ตลอด สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ เช่น...
เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว
หรือเป็นเซลล์อื่นๆได้ และมีความเป็นตัวของตัวเอง
คงสภาพเป็น สเต็มเซลล์ อยู่ตลอดเวลา
สเต็มเซลล์ ของมนุษย์สามารถเก็บได้หลายระยะ เริ่มตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อน
หมายถึงไข่ผ่านการผสมกับสเปิร์มมาแล้วประมาณ 4-5วัน
แต่เนื่องจากยังมีมุมมองในแง่ศีลธรรมกันอยู่มาก เพราะว่าการนำมาใช้นั้น
เป็นการฆ่าตัวอ่อน ....ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้
แหล่งที่พบอื่นๆ และนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์
มีหลายทาง เช่น...
เลือด... ไขกระดูก.... สายรก (สายสะดือ)... ตัวสายสะดือ ...ไขมัน..ฯลฯ
เรียกได้ว่า สามารถพบได้เกือบทุกอวัยวะของร่างกาย แต่แหล่งที่พบแต่ละที่นั้นมีข้อดีข้อเสียและการนำมาใช้แตกต่างกันไป
หลัก การทำงานของ สเต็มเซลล์ ก็คือ ในร่างกายมนุษย์จะมีเซลล์ทั้งสิ้น 100 ล้านล้านเซลล์ แบ่งเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ 220 ชนิด โดยจะมีทั้งที่ตายไปและสร้างขึ้นใหม่ เป็นไปตามหลักอนิจจังไม่เที่ยงนั่นแหละ
ปกติร่างกายคนเราก็มี เซลล์ต้นกำเนิด กันอยู่แล้ว แต่เมื่อใดที่เกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้นมา ก็จะทำเซลล์ต้นกำเนิดไม่สามารถทำงานได้
ความมหัศจรรย์ของ สเต็มเซลล์ คือ..
เป็นเซลล์ที่มีความสามารถแบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ตลอดเวลา
การที่สเต็มเซลล์แบ่งตัวสร้างเซลล์ใหม่ที่เหมือนเดิมทุกประการ
ถือเป็นลักษณะพิเศษซึ่งแตกต่างจากเซลล์กล้ามเนื้อ
เซลล์เม็ดเลือด เซลล์ประสาท....
เซลล์ที่ทำหน้าที่จำเพาะเหล่านี้ ไม่สามารถแบ่งตัวขึ้นมาใหม่ได้
และเซลล์ที่แบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ก็ยังคงเป็นเซลล์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เฉพาะ เจาะจงเหมือนกับเซลล์แม่ และสามารถเปลี่ยนเซลล์ต้นกำเนิดชนิดหนึ่งไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นได้
หลายโรค หลายเรื่องราว การบำบัดรักษาด้วยสเต็มเซลล์จึงเป็นเรื่องสำคัญ
สเต็มเซลล์จึงเป็นที่ต้องการในวงการแพทย์เป็นอย่างมาก
เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ต่อมวลมนุษย์ชาิติ
เรามาบริจาคสเต็มเซลล์กันเถอะ
ผู้ป่วยทั่วโลก ที่เป็นโรครักษายาก กำลังร้องขอ และรอคอย...
อ่ะ....ขออวดหน่อยละกัน..
เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้น ๑
ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีฯ
จากการบริจาคสเต็มเซลล์ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ผู้ที่ได้รับสเต็มเซลล์จากการบริจาคครั้งนี้ มีเซลล์ที่เข้ากันได้
เป็นชาวเยอรมัน ที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือด ...!!