“เผื่อใจไว้เจ็บ” อย่างไรไม่ให้กัดกร่อนและบั่นทอนความสัมพันธ์ครับ?

หัวกระทู้อาจจะงงๆนิดนึงนะครับ

คือ ผมถูกสอนมาตลอดว่า คนเราไม่ว่าจะทำอะไร ให้ทำเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็ให้ “เผื่อใจ” ไว้บ้าง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน ก็อย่าคาดหวังว่าจะต้องสำเร็จตรงตามที่ใจคิด , เรื่องการคบเพื่อน ก็อย่าวางใจและเปิดใจให้เต็ม100 , ในการทำงานก็ให้เผื่อใจให้พื้นที่สำหรับความล้มเหลวบ้าง

ทีนี้เมื่อมาถึงเรื่องความสัมพันธ์  ผมเป็นคนไม่ค่อยมีความรักสักเท่าไหร่  เอาตรงๆว่าไม่เจนสนามนัก  รักไม่ค่อยเป็น ทำตัวไม่ค่อยถูก

ผมมีความสัมพันธ์กับคนคนนึงมา4ปีได้แล้วครับ  ผมเข้าใจนะว่า ถ้าเรารักใคร เราต้องมีความเชื่อใจ ไว้ใจ และวางใจ  แต่ผมก็เผื่อใจไว้สำหรับความเจ็บปวด , ความล้มเหลว , ความผิดหวัง ไว้ประมาณหนึ่ง ตีซะว่า 20% แล้วกันครับ 

แต่ปัญหาคือ แทนที่ผมจะดำเนินสัมพันธ์ด้วยความสุข และความรัก ตักตวง-ต่อยอดช่วงเวลาและความรู้สึกที่ดีใน 80% ผมกลับชอบวนเวียนคิดลบ ระแวง สงสัย วิ่งวนอยู่ในพื้นที่ที่ผมเผื่อใจเอาไว้ 20%

เรื่องบางเรื่อง บางเหตุการณ์ บางทีมันก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่ผมก็กลับทำให้เป็นเรื่องใหญ่  กลายเป็นการทะเลาะใหญ่โต  คิดวนอยู่ในพื้นที่ที่ผมเผื่อใจเอาไว้  ผมกลัวว่าถ้าปล่อยผ่านไป ไม่คิดอะไร หรือยึดมั่นในตัวเขามากไป  เราจะกลายเป็นคนโง่ กลัวจะโดนหลอก กลัว กลัว กลัว ไม่รู้จะกลัวส้นทีนอะไรนักหนา ผมก็ยังงงตัวเอง  

ผมเข้าใจว่าความรักของ LGBTQ มันต้องใช้ความเชื่อใจและไว้วางใจมากกว่าคนปกติ แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็จมอยู่กับไอ้พื้นที่ที่ผม เผื่อใจเอาไว้ จนพื้นที่นี้มันเริ่มขยาย ไปบดบัง กัดกินพื้นที่ความสุขในความสัมพันธ์จนมันลดลง 

ผมกลัวว่าสุดท้ายแล้ว ความรักมันจะล่ม เพราะไอ้การเผื่อใจมันพัฒนากลายเป็นความระแวงแคลงใจ จนสุดท้ายแล้วความสัมพันธ์มันจะจบลงเพราะการคิดไปเอง มโนไปเอง จนมันพัง

ขอคำแนะนำด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่