คือผมได้มีการไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตกับทางธนาคารเนื่องจากพนักงานไม่ส่งใบแจ้งหนี้ให้ตามตกลงและมีการยกเลิกบัตรผมไปเนื่องจากผมค้างชำระโดยไม่แจ้งรายละเอียดยอดชำระกับผม และในการเจรจาได้ข้อสรุปว่าผมจะชำระคืนเงินต้นและธนาคารจะปรับสถานะการค้างชำระลูกหนี้และเครดิตบูโรให้และจะให้ผมเซ็นในจดหมายข้อตกลงที่จะส่งมา โดยก่อนหน้าผมขอให้ธนาคารช่วยระบุในจดหมายว่าการชำระคืนเงินต้นเพื่อปรับสถานะการค้างชำระในครั้งนี้ไม่มีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อจากธนาคารในอนาคตเพราะผมกลัวถูกเลือกปฏิบัติและสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพนักงานธนาคารไม่ส่งใบแจ้งหนี้ให้ตามตกลงเมื่อโทรไปที่สำนักใหญ่ของธนาคาร แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารให้การปฏิเสธกับผมและแจ้งว่าทางธนาคารจะต้องใช้ถ้อยคำตามหลักเกณฑ์ทางกฏหมาย แต่ต่อมาธนาคารกลับมีการระบุในจดหมายที่ส่งมาเสียเองให้ผมเซ็นและมีถ้อยคำประโยคหนึ่งให้ยอมรับว่า
"การปรับปรุงประวัติการค้างชำระ ทางกระผมจะไม่ถือเป็นเหตุมาเรียกร้องผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อทุกประเภทของธนาคารฯในอนาคต รวมถึงไม่ติดใจเอาความฟ้องร้องหรือดำเนินการทางกฏหมายกับธนาคารและพนักงานที่รับดำเนินการในภายหลัง"
ขอถามว่าถ้อยคำลักษณะแบบนี้ถือว่าเป็นการเอาเปรียบลูกหนี้หรือลูกค้าหรือไม่ครับและเป็นการปฏิบัติในลักษณะจงใจทำเพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าธนาคารมีสิทธิปกป้องตัวเองในการพิจารณาสินเชื่อเมื่อธนาคารเห็นว่าลูกค้าเจรจายาก และต้องปกป้องพนักงานตัวเองที่ปฏิบัติไม่สมควรหรือไม่ครับ และเราสามารถโต้แย้งได้มากน้อยแค่ไหนหรือครับ ผมเกรงว่าโต้แย้งไปแล้วทางธนาคารบอกว่าคำพูดนี้ใช้กับลูกหนี้ทุกรายอยู่แล้ว จึงอยากถามจากท่านผู้รู้ทางกฏหมายและผู้มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะหน่อยนะครับ
หากจดหมายเพื่อปิดจบหนี้บัตรเครดิตที่ธนาคารส่งให้มีข้อความเอาเปรียบเรื่องการขอสินเชื่อในอนาคตให้เราเซ็นทำไงดีครับ
"การปรับปรุงประวัติการค้างชำระ ทางกระผมจะไม่ถือเป็นเหตุมาเรียกร้องผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อทุกประเภทของธนาคารฯในอนาคต รวมถึงไม่ติดใจเอาความฟ้องร้องหรือดำเนินการทางกฏหมายกับธนาคารและพนักงานที่รับดำเนินการในภายหลัง"
ขอถามว่าถ้อยคำลักษณะแบบนี้ถือว่าเป็นการเอาเปรียบลูกหนี้หรือลูกค้าหรือไม่ครับและเป็นการปฏิบัติในลักษณะจงใจทำเพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าธนาคารมีสิทธิปกป้องตัวเองในการพิจารณาสินเชื่อเมื่อธนาคารเห็นว่าลูกค้าเจรจายาก และต้องปกป้องพนักงานตัวเองที่ปฏิบัติไม่สมควรหรือไม่ครับ และเราสามารถโต้แย้งได้มากน้อยแค่ไหนหรือครับ ผมเกรงว่าโต้แย้งไปแล้วทางธนาคารบอกว่าคำพูดนี้ใช้กับลูกหนี้ทุกรายอยู่แล้ว จึงอยากถามจากท่านผู้รู้ทางกฏหมายและผู้มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะหน่อยนะครับ