ซักฟอกวันแรกไม่ต้องรอตักบาตร ฝ่ายค้านใช้ไป 13.34 ชม. วันนี้คิวโรม-ลิซ่า-ไอซ์-ไหม เท้งปิดท้าย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5107797
.
.
ซักฟอกวันแรกไม่ต้องรอตักบาตรเช้า ฝ่ายค้านใช้เวลาไป 13.34 ชม. ฟาก รบ. 2.55 ชม. จับตาวันนี้ก่อนเที่ยงคืนต้องเสร็จ ตัวตึงตบเท้าอภิปราย ‘โรม-ลิซ่า-ไอซ์-ไหม’ ส่วน ‘เท้ง’ ปิดท้าย
.
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลสรุปเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นรายบุคคล ในวันแรก วันที่ 24 มี.ค. บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น โดยยุติไปในเวลา 02.22 น.ของวันที่ 25 มี.ค.
.
โดยฝ่ายค้านใช้เวลาไป 13.34 ชั่วโมง จากเวลาที่ได้รับจัดสรร 16.30 ชั่วโมง จากเดิม 17 ชั่วโมง แบ่งไปให้ประธาน 30 นาที, ฝ่ายรัฐบาลใช้เวลา 2.55 ชั่วโมง จากที่ได้รับจัดสรร 3.5 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น ครม.ใช้เวลา 2.21 ชั่วโมง, พรรคร่วมรัฐบาล 33.43 นาที และประธานที่ประชุมใช้เวลาไป 1.15 ชั่วโมง จากเวลาที่ได้รับจัดสรร 1.5 ชั่วโมง จากเดิม 1 ชั่วโมง แต่ได้จากฝ่ายค้านเพิ่ม 30 นาที รวมเวลาที่ใช้ไปทั้งหมดของทุกฝ่าย 17.45 ชั่วโมง
.
สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนี้ (25 มี.ค.) พรรคประชาชนจะเปิดด้วย น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรค จากนั้นจะเป็นตัวตึง ได้แก่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค, น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม., น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา และจะปิดท้ายอภิปรายสรุปด้วย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งตามกรอบเวลาจะเสร็จสิ้นก่อนเที่ยงคืน
.
.
ทนายแจม โยนทิ้งผ้าคาดผมสีแดง เรารักทักษิณ ซัดดีลกลับบ้าน ไม่เห็นหัวคนเคยร่วมสู้.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5107765
.
‘ศศินันท์’ ทิ้งผ้าคาดผมสีแดงระบุข้อความ “เรารักทักษิณ” บอกเสียใจเคยต่อสู้เพื่อตระกูล“ชินวัตร“ ซัด ไม่เห็นหัวคนเคยร่วมต่อสู้ ชี้ ยังมีคดีทางการเมืองต่อเนื่อง-ละเมิดหลักสากล ยอมแลกดีล ให้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง
.
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 25 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายว่า คนไทยต้องสูญเสียกันไปเท่าไหร่ เพื่อให้คนบางคนกลับบ้าน ประเทศไทยต้องเสียหายไปแค่ไหน เพื่อให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และการดีลแลกประเทศของรัฐบาลเพื่อไทย และนางสาวแพทองธารนี้ต้องแลกกับความยุติธรรม และสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างไรบ้าง
.
ประเด็นแรก เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลเป็นรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง คนไทยต่างมีความหวังว่าสถานการณ์การเมืองทั้งหมดจะดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของนักโทษการเมือง ที่หลายคดีเกิดจากการใช้สิทธิเสรีภาพ จากการถูกจับจากการแสดงออกทางการเมือง การชูสามนิ้ว และมีบางคนที่ไม่รู้ว่าถูกทำร้าย หรือถูกอุ้มหายไปที่ไหน สิ่งที่ประชาชนได้รับคือถูกทิ้งเอาไว้นอกกระดาน เพราะเกิดดีลล้มกระดาน จับมือรัฐบาลข้ามขั้ว ดังสุภาษิตว่า “ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ” เมื่อผู้มีอำนาจจับมือกัน ประชาชนก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสมการต่อไป
.
น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เคยบอกไว้ว่าจะขอร้องต่อศาลเพื่อขอให้ปล่อยตัว และพรรคเคยเห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หมายความว่านายกฯ รู้อยู่แล้วว่ามีการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม และประชาชนถูกนำกฎหมายเหล่านี้ มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่ปัจจุบันรัฐบาลนี้ยังมีการฟ้องร้องคดีทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีผู้ต้องหาทางการเมืองจำนวนไม่น้อยที่ถูกทอดทิ้งในเรือนจำอย่างน้อย 39 คนแล้วมี 23 คนที่ไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานคือสิทธิในการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี เรายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ออกมาต่อสู้ในช่วง 20 ปีนี้มีคดีติดตัวจำนวนมาก
.
น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า พวกเขาเหล่านั้นรอนิรโทษกรรมประชาชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออยากให้ ครม. พิจารณารายงานเพื่อไปเป็นแนวทางในการนิรโทษกรรม แต่ก็ไม่ได้รับข้อสังเกตนี้ เพราะไม่ต้องการร่างฉบับนี้หรือไม่ และอีกเรื่องคือให้ในนายกฯ กำหนดนโยบายทำตามกลไกกฎหมายที่มีอยู่ หรือเสนอแนะอัยการให้มีคำสั่งไม่ฟ้อง ศาลกำหนดนโยบายได้ว่าปล่อยตัวชั่วคราว และใน กมธ. เรามีทุกองค์กรที่พูดคุยกันจบแล้ว ว่าสามารถทำได้ไม่ใช่เรื่องใหม่
.
“หากท่านนายกฯ คิดถึงหน้าประชาชนสักนิด กล้าหาญสักหน่อย ในหมวกของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในวันนั้น ถ้าพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชนรวมเสียงกัน ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกตข้อนี้ ผ่านแน่นอน แต่ท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยก็มีมติบทคว่ำข้อสังเกตที่จะช่วยลดอุณหภูมิทางการเมือง นี่คือสิ่งที่ประชาชนสูญเสียโอกาส จึงเป็นการติดกระดุมผิดตั้งแต่วันแรก”นางสาวศศินันท์กล่าว
.
น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ประชาชนก็คาดหวังว่าสถานการณ์สิทธิเสรีภาพของประชาชนจะดีขึ้น แต่หลังการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของนางสาวแพทองธาร 7 เดือนที่ผ่านมา มีการติดตามคุกคามของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างน้อย 56 คดี เรื่องนี้จะบอกว่านายกฯ ไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้เพราะ กอ.รมน. ก็เป็นหน่วยงานในสังกัดนายกฯ เช่นเดียวกับสำนักงานแห่งชาติ ก็อยู่ในกำกับดูแลของนายกฯ และทั้งสองหน่วยงานนี้ก็มีการคุกคามประชาชนต่อเนื่องท่านก็สามารถมีคำสั่งการและมอบนโยบายได้
.
“การเข้าสู่ตำแหน่งของท่านไม่ได้สนใจเลยว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชนอยู่ตรงไหน ท่านจงใจลอยตัวเหนือปัญหาทุกอย่าง ไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ ไม่ได้สนใจพี่น้องประชาชน หรือเพราะดีลที่ท่านดีลเอาไว้ จึงทำให้ไม่สามารถทำตามอุดมการณ์ และความเชื่อแบบที่พรรคเพื่อไทยเคยมี” น.ส.ศศินันท์กล่าว
.
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีทำลายหลักสิทธิมนุษยชนสากล คือการส่งกลับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ เราต่างรู้ดีว่านายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญในการบริหารประเทศ และเจรจาทางการค้า หรือรักษาผลประโยชน์ของชาติ และรักษาสิทธิเสรีภาพของประเทศ แต่ไม่นานมานี้ก็ การตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์กลับทำให้ไทยตกอยู่ในสภาวะเคี้ยวง่าย กลืนง่าย ไร้อำนาจต่อรอง การปฏิบัติการย่องเงียบในคืนนั้น ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไมเพื่ออะไร
.
น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า การตัดสินใจที่ไร้วุฒิภาวะของนายกฯ แพทองธาร เพียงเว็บเดียวทำให้ประเทศเข้าสู่ตรงกลางมรสุมอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งประเทศไทยจะเสียจุดยืนด้านสิทธิมนุษยชนในเวทีโลก การกระทำครั้งนี้ ได้ฉีกภาพลักษณ์นั้นจนหมดสิ้น นายกฯกำลังเอาประเทศไทยไปแลกกับสิ่งที่เราไม่อาจประเมินความเสียหายได้ และยังส่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไปเป็นตราประทับให้กับประเทศจีน
.
น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า ประเทศไทยตอนนี้รัฐบาลบริหารประเทศแบบเผด็จการคือการที่เราถูกปรับลดสถานะของประเทศ กลายมาอยู่กลุ่มประเทศที่ไม่เสรี หลังจากได้ปรับสถานะประเทศเป็นเสรีภาพบางส่วนได้แค่ปีเดียวเท่านั้น นายกฯ จะรับผิดชอบกับสิ่งที่เสียหายเหล่านี้ได้อย่างไร
ประการที่สาม การที่ประชาชนผ่านการแก้กฎหมาย 2 ฉบับคือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(พ.ร.ป.ป.ป.ช.)และร่างพระราชบัญญัติประกอบธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เป็นการสร้างมาตรฐานความยุติธรรม แต่สุดท้ายการแก้ไขกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ก็กลายเป็นมวยล้มต้มคนดูอีกครั้ง
.
“ท่านยังคงกลัวอำนาจมือที่อยู่เบื้องหลัง จนทำให้ประชาชนเชื่อไปแล้วว่าต้องมีดีลอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ต้องสยบยอมแบบนี้ กลืนน้ำลายตัวเอง เพื่อให้อดีตผู้นำประเทศจากตระกูลชินวัตร กลับมามีอำนาจอีกครั้ง” น.ส.ศศินันท์ กล่าว
.
น.ส.ศศินันท์ ระบุว่า ทั้งหมดที่ท่านทำมาตั้งแต่ต้น คว่ำไปทุกอย่างกฎหมายที่มันสำคัญ ๆ เพื่อแลกกับการอยู่ในอำนาจของท่านให้นานที่สุด เพื่อพ่อเพื่อครอบครัวของท่าน คนอื่นไม่ได้มีพ่อเหมือนท่านเหรอ
.
นอกจากนี้ ยังตีหมุดตอกฝาโลง ย้ำความสองมาตรฐานที่เกิดในยุคสมัยของคนเสื้อแดงด้วย ถึงกรณีที่ชายคนนั้นไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว รวมถึงการได้รับการรักษาพยาบาลเป็นอย่างดี ซึ่งนักโทษทางการเมืองทั่วไป ที่ไม่ใช่พ่อของนายกฯ กว่าจะได้ยอมส่งตัวไปรักษาก็ช้ามาก ๆ
.
น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า อย่าลืมว่านักโทษทางการเมืองเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากรเป็นลูกที่มีพ่อ มีแม่ กระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐานยังคงเกิดขึ้นในรัฐบาลแพทองธาร และเจ้าของวลีกลับเป็นคนที่ได้อภิสิทธิ์ในคำนั้นเอง ชายคนนั้นที่เคยบอกเอาไว้ว่าตัวเองถูกกระบวนการที่ทำสองมาตรฐานเล่นงานในวันนี้ ท่านกลับได้รับอภิสิทธิ์นั้นเอง ยังต้องถามอีกหรือเปล่าว่าดีลครั้งนี้ชินวัตรได้อะไร
.
ในช่วงหนึ่งของการอภิปราย น.ส.ศศินันท์ ได้นำผ้าแดงขึ้นมาโพกหัวที่มีข้อความว่า “เรารักทักษิณ” พร้อมกล่าวว่า ผ้าผืนแดงอันนี้ ตนเองเก็บไว้ตลอด ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมาเป็นส.ส. ในวันนี้ ตนเองเก็บเอาไว้ด้วยความที่ความภาคภูมิใจในครั้งนึง เคยร่วมต่อสู้กับคุณพ่อของท่าน เจ็บแค้นเจ็บใจ กับสิ่งที่ท่าน และครอบครัวของท่านถูกกระทำเจ็บปวดกับความสูญเสียของวีรชนประชาธิปไตย ศพแล้ว ศพเล่า แต่สุดท้ายพวกท่านก็ดีลกันบนความสูญเสียของประชาชน ดีลกันบนความเจ็บปวดของประชาชน เพื่อแลกทุกอย่างกับความยุติธรรม และสิทธิเสรีภาพของประชาชนจำนวนมาก เพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเองทุกอย่างที่เราต่อสู้มาด้วยกันจนเกือบ 20 ปีท่านนายกฯ คุณพ่อของท่าน และพรรคเพื่อไทย ทำให้ตนเองรู้สึกว่าการต่อสู้ที่ผ่านมา เป็นความสูญเปล่าทางการเมืองมากๆ
.
น.ส.ศศินันท์ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้ตนเองไม่อาจไว้วางใจน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อยู่ในตำแหน่งนายกฯ ที่ไม่ได้สนใจความยุติธรรม และเพิกเฉยต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนแบบนี้ต่อไปได้
.
.
รอมฎอน เสียงสั่น อัด นายกฯ ดีลปีศาจแลกประชาธิปไตย ไม่จริงจังแก้ปัญหาชายแดนใต้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5107774
.
รอมฎอน เสียงสั่น อัด นายกฯ ดีลปีศาจแลกประชาธิปไตย ไม่จริงจังแก้ปัญหาชายแดนใต้ ซัดเจตจำนงรุ่นลูกลดลงจากรุ่นพ่อจนน่าตกใจ
.
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กับคณะ จำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอ
.
ต่อมาเวลา 01.30 น. นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน (ปชน.) ลุกขึ้นอภิปรายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือภายหลังอภิปรายต่อจาก น.ส.ศศินันท์ ว่า ดีลปีศาจแลกประชาธิปไตยทำให้ตนไม่สามารถไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป เพราะนอกจากประชาธิปไตยสิทธิเสรีภาพที่เธอ คนของเธอ บิดาของเธอ หรือใครก็แล้วแต่ตัดสินใจแลกมันไป เหมือนกับที่ปัตตานีเราก็เห็นภาพของการแลกมันไป แทนที่จะบรรลุถึงสันติภาพ ยุติความรุนแรงให้ความปลอดภัยกับประชาชน มีพื้นที่ทางการเมืองเพิ่มขึ้น
JJNY : ซักฟอกวันแรกไม่ต้องรอตักบาตร│ทนายแจมซัดดีลกลับบ้าน│รอมฎอนอัดดีลปีศาจแลกปชต.│ไอติมลุกฉายละคร│ไทยตอนบนอากาศร้อน
.
ทนายแจม โยนทิ้งผ้าคาดผมสีแดง เรารักทักษิณ ซัดดีลกลับบ้าน ไม่เห็นหัวคนเคยร่วมสู้.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5107765
.
.
รอมฎอน เสียงสั่น อัด นายกฯ ดีลปีศาจแลกประชาธิปไตย ไม่จริงจังแก้ปัญหาชายแดนใต้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5107774
.