.

เมื่อเวลา 08.58 น. วันที่ 25 มีนาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้า พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในวันที่2 กรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลประเมินว่ามีเนื้อหาในการอภิปรายจืด ซ้ำซาก วนไปวนมา จะมีการปรับอย่างไร ว่า เชื่อว่าเนื้อหาการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน เป็นเนื้อหาที่หนักแน่นและค่อนข้างดี ซึ่งมีหลายประเด็น ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ตอบหรือชี้แจงชัดเจน เช่น ประเด็นที่ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่นำเสนอเรื่องโรงแรมเทมส์ วัลเล่ย์ เขาใหญ่ ของนายกฯ และวันนี้ยังมีโอกาสที่นายกฯจะชี้แจงได้อยู่ นอกจากนั้นยังมีอีกหลายประเด็น ที่คิดว่านายกฯยังตอบไม่ได้ชัดเจนเพียงพอ เช่น ปัญหา PM 2.5 ที่ประชาชนยังรอการแก้ไข แต่ปรากฏมีการใช้ตัวเลขมาพูดคุยกันคนละชุด โดยรัฐบาลยกตัวเลขอ้อยเผาที่รับซื้อเข้าระบบน้อยลง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ในระบบ แต่ยังมีตัวเลขอ้อยเผาที่ถูกขายอยู่นอกระบบอีกจำนวนมาก โดยส.ส.ของประชาชนพยายามชี้แจงว่า ตัวเลขที่ใช้ในการชี้วัดควรจะดูจากพื้นที่การเผา ทั้งนี้ในมุมของตนคิดว่าการตอบของรัฐบาลอาจจะยังไม่ชัดเจน

.

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่านายกฯชี้แจงเรื่องของภาษีได้เคลียร์หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยู่ที่มุมมอง สิ่งที่นายก ฯ พยายามอธิบายและตั้งคำถามกลับมาที่ฝ่ายค้านว่าให้ลองถามคนที่ทำธุรกิจดูว่าใครๆก็ทำตรงนี้ คิดว่านายกฯไม่ได้ตอบคำถามตรง ๆ และไม่ควรพูด เพราะประชาชนก็เห็นอยู่ว่าการกระทำแบบนี้เป็นธุรกรรมอำพรางที่จะหลบเลี่ยงภาษี คำว่าการบริหารภาษีกับคำว่าหลบเลี่ยงภาษี มีเส้นแบ่งบางๆและการกระทำของนายกฯ เห็นได้ชัดว่าจงใจหลีกเลี่ยงภาษีมรดก

.

เมื่อถามย้ำว่าถือว่าเรื่องภาษีความผิดสำเร็จแล้วหรือไม่ โดยนายกฯระบุว่าจะเริ่มใช้หนี้ปี 2569 นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เราจะทำความคิดเห็นไปที่กรมอธิบดีสรรพากร เพื่อดูว่าการทำธุรกรรมแบบนี้ กรมสรรพากรจะชี้แจงว่าอย่างไร เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานด้วยที่จะวางมาตรฐานไว้อย่างไร

.

เมื่อถามว่าการจะยื่นตรวจสอบจริยธรรม จะดำเนินการหลังสอบกรมสรรพากรหรือจะยื่นเลย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จะรอดูให้โอกาสรัฐบาลรวมถึงตัวนายกฯตอบชี้แจงในวันนี้อีกสักรอบ เพราะยังมีหลายประเด็น เช่น เรื่องโรงแรมที่เขาใหญ่ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการที่เรามีนายกฯ ที่เคยประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ถ้านายกฯตอบได้ไม่ดีพอหรือไม่สามารถหักล้างหลักฐานข้อเท็จจริงได้ ก็จะเป็นคุณสมบัติที่ติดตัวว่าไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไป

.

ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านจะปรับแผนการอภิปราย ให้เวลาคนไหนที่มีประเด็นหนัก เพื่อไม่ให้เสียไปกับเรื่องที่เป็นประเด็นไม่มาก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นการบริหารเวลาที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเพราะเพราะเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา เลิกประชุมเร็วกว่ากำหนดเวลาที่วางไว้ และต้องชมทุกฝ่ายทั้งประธานที่กำกับดูแลประชุมได้ดี และข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำเสนอก็ครบถ้วนแล้ว โดยใช้เวลาน้อยและเป็นประโยชน์กับทุกคนมากที่สุด

.

ผู้สื่อข่าวถามมองอย่างไรกับคำว่า กีกี้ ที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อาจจะไม่พอใจตรงนี้ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ไม่อยากให้เกิดการเข้าใจผิดหรือเกิดการตีความ ไปในทางไม่ดี ถ้าดูกระแสของสื่อและสังคม ส่วนใหญ่เข้าใจคำของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ต้องการสื่อสารดีและต้องการสื่อสารว่า ไปเกี่ยวข้องกับการ์ตูนหรือภาพยนตร์ในสมัยก่อน แต่สิ่งที่นายภูมิธรรม ตีความอาจจะเข้าใจผิด และการสื่อสารไปในทางนั้นไม่ได้สร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อสังคม

.

เมื่อถามอีกว่าในวันนี้ฝ่ายค้านจะมีไฮไลท์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังมีอยู่ เราจะมีคิวผู้อภิปรายอีกหลายคน มีไฮไลต์ มีทีเด็ดและข้อมูลดีดี เหลืออยู่ และอยากให้ทุกคนติดตามการอภิปราย

.

เมื่อถามย้ำว่าการอภิปรายในวันนี้ จะมีการต่อรองเวลาใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าทุกฝ่ายดูแล ใช้เวลาของตัวเองให้อยู่ในกรอบ จะจบก่อนเที่ยงคืนแน่นอน แล้วจะลงมติในวันที่ 26 มี.ค. 2568

.

จากกรณีนายวิโรจน์  ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ซื้อหุ้นต่อจากมารดา และเครือญาติรวม 5 รายในรูปแบบตั๋วสัญญาใช้เงิน (ตั๋ว PN) 4.4 พันล้านบาท ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย เลี่ยงมิให้มารดา และเครือญาติต้องจ่ายภาษีกว่า 218 ล้านบาท

.

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม นายวิโรจน์  ได้โพสต์ภาพและข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โดยระบุว่า

.

.

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 25 มีนาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ เป็นวันที่ 2 มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กับคณะจำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอ

.

เริ่มที่ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า นายกฯ ไม่มีคุณสมบัติผู้นำประเทศ ขาดความรู้ความสามารถ วุฒิภาวะผู้นำ และไม่มีเจตจำนงรับใช้ประชาชน ซึ่งวันนี้ประเทศไทยเต็มไปด้วยความท้าทายมีโจทย์ มียากที่พวกเราต้องทำให้สำเร็จ ทั้งเศรษฐกิจ จีนเทา คอร์รัปชั่น และไม่แปลกว่าวันนี้พี่น้องเฝ้ารอการแก้ไขปัญหาจากนายกฯอย่างจริงจัง แต่เรากลับมีนายกฯ ที่ไม่มีคุณสมบัติของผู้นำประเทศไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่มีวุฒิภาวะ และไม่มีเจตจำนงที่รับใช้ประชาชน ที่จะนำพาประเทศไปสู่ข้างหน้าได้เลย น.ส.แพทองธาร คือนายกฯ ที่อยู่ในตำแหน่งแต่กลับลอยตัวเหนือปัญหา คนเป็นผู้นำต้องมีความรู้ เพื่อนำไปสู่ตัดสินใจที่แม่นยำเผชิญปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องมีวุฒิภาวะ และต้องมีเจตจำนงที่รับใช้ประชาชน ซึ่งคนที่เป็นผู้นำต้องมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ถ้าขาดตรงนี้การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของตัวเองและครอบครัว

.

น.ส.ภคมน กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นผู้นำประเทศ ซึ่งในขณะที่สังคมกำลังตื่นตระหนกกับข่าวสารที่ไม่ชัดเจน คนที่ควรจะมาให้ความชัดเจนกับสังคมคือนายกฯ แล้วตนคิดว่าสิ่งหนึ่งที่นายกฯ ไม่มีคือภาวะในการดำรงตำแหน่งนายกฯ ทุกคนรู้ว่าน.ส.แพทองธาร ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ แต่เรื่องพื้นฐานทั่วไปการสื่อสารเพื่อระงับความสับสนและความสบายใจ ให้ความกระจ่างกับประชาชนที่กำลังกังวลเรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่น และไม่ใช่หน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญที่ไหน แต่เป็นหน้าที่ของนายกฯ ถ้าคุณไม่รู้มีวิธีการเยอะแยะ แต่คุณไม่ทำคุณไม่พยายาม และหลายครั้งท่านไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าท่านเป็นนายกฯ เรื่องพื้นฐานที่สร้างความเชื่อมั่นให้สังคม แต่ยังไม่มีปัญญา ส่วนเวทีนานาชาติที่มีนักลงทุนจากต่างชาติเพื่อโน้มน้าวนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย นายกฯสามารถแสดงวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจได้ แต่เสียดาย เพราะเหมือนนายกฯตอบเหมือนไม่เข้าใจคำถาม

.