วิโรจน์ ยกรธน.ตอกกลับเดือด นายกฯบอกเสียภาษีมากกว่า ระบุพวกหลบเลี่ยงน่ารังเกียจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5107124
.
.
วิโรจน์ ยกรธน.ตอกกลับเดือด นายกฯบอกเสียภาษีมากกว่า ระบุพวกหลบเลี่ยงน่ารังเกียจ
.
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ ที่มี นายภราดร ปริศนานันทกุล ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กับคณะ จำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอ
.
จากนั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลุกขึ้นตอบโต้การชี้แจงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังระบุ “ยืนยันสิ่งที่ดิฉันปฏิบัติ และเจตนาทำถูกต้องตามกฎหมาย ที่กล่าวหาว่านายกฯหนีภาษี ไม่เป็นความจริง ตรงกันข้ามแม้ดิฉันจะอายุน้อยกว่าผู้อภิปราย แต่มั่นใจว่าเสียภาษีให้รัฐมากกว่าผู้อภิปรายแน่นอน” ว่า ท่านนายกฯจะเสียภาษีมากกว่าใคร นั่นเป็นหน้าที่ของท่านนายกฯอยู่แล้ว ตนมั่นใจคนไทย 60 ล้านคนหรือมากกว่านั้น เสียภาษีน้อยกว่าท่านทั้งนั้นแหละ
.
“แต่ท่านต้องกลับไปดูมาตรา 50 (9) ของรัฐธรรมนูญ กำหนดว่า บุคคลมีหน้าที่เสียภาษี ตามที่กฎหมายบัญญัติ จะเสียมากหรือน้อยมีศักดิ์ศรีเท่ากัน เสียภาษีมากน้อยไม่สำคัญ ตราบใดที่เสียตามที่กฎหมายบัญญัติถือว่าถูกต้อง กลับกันเสียมาก แต่หาวิธีหลบเลี่ยงต่างหากที่เป็นเรื่องน่ารังเกียจ”
.
.
ภัทรพงษ์ ซัดอิ๊งค์ ล้มเหลวแก้ PM2.5 สั่งการไม่ได้ ปล่อยทหารซ้อมรบ ทำไฟป่า-ฝุ่นพิษพุ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5107048
.
‘ภัทรพงษ์’ ชี้ รบ.แก้ฝุ่น PM2.5 เหลว ซัด ‘อิ๊งค์’ เป็นภัยพิบัติต่อสุขภาพ ปชช. ปล่อยทหารซ้อมรบ ทำไฟป่า-ฝุ่นพิษพุ่ง โกหกจนเคยชิน ปั้นตัวเลขแถลงผลงาน สวนทางความจริง ลั่น เป็นเพื่อนยังไม่อยากคบ
.
เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 24 มีนาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กับคณะจำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอ
.
จากนั้นเวลา 14.25 น. นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปี 2567 เป็นปีที่ประเทศต้องเจอภัยพิบัติที่รุนแรง ทั้งนํ้าท่วมครั้งใหญ่ ภัยแล้ง ฝุ่นพิษที่รุนแรง แต่ภัยพิบัติที่หนักที่สุด คือการมีนายกรัฐมนตรีชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบต่อทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของประชาชน ทั้งที่ไม่มีความรู้ ความสามารถ ความเป็นผู้นำ และไม่มีความตั้งใจในการแก้ปัญหา เป็นมนุษย์ที่เข้ามาบริหารประเทศเพียงเพราะผลประโยชน์ของบิดาและคนในครอบครัว ขณะเดียวกัน เด็กทุกคนรับฝุ่น PM2.5 เข้าปอดเต็มๆ และไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดในครอบครัวที่มีเครื่องฟอกอากาศและห้องแอร์เหมือนบ้านจันทร์ส่องหล้า
.
นายภัทรพงษ์กล่าวว่า 2 ปีแล้วที่รัฐบาลจัดการ PM2.5 แบบไม่ได้เรื่อง ไหนนายกฯ บอกว่าทำการบ้านมาแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ถือว่าเป็นการบ้านที่ชุ่ยและสร้างความวิบัติ มีนายกฯ ที่โกหกจนเคยชิน และติดตัวเป็นนิสัย ตั้งแต่แถลงนโยบายที่บอกว่าจะแก้ต้นตอ ลดการเผาไหม้ แต่ความจริงกลับเพิ่มขึ้นจากปี 2566 จาก 4 ล้านไร่ เป็น 8 ล้านไร่ แต่กลับแถลงผลงาน 90 วันว่าลดพื้นที่การเผาได้ 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นการเคลมผลงานด้วยการโกหกประชาชน ขนาดมีฟ้าฝนมาช่วยแล้วก็ยังแย่ลง แต่รัฐบาลก็เอาแต่คิดวิธีนำเสนอข้อมูลให้ตัวเองดูดี
.
นายภัทรพงษ์กล่าวต่อว่า นายกฯ เคลมว่าค่าฝุ่นลดทั่วประเทศ 6 เปอร์เซ็นต์ แต่หากอ้างอิงตัวเลขจากกรมควบคุมมลพิษ ในปี 2568 ค่าฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ 6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ตนไม่แน่ใจว่านายกฯ อยู่โลกเดียวกับเราหรือไม่
.
นายภัทรพงษ์กล่าวอีกว่า ส่วนที่รัฐบาลเคลมว่าลดการเผาอ้อยปริมาณมาก หากอ้างอิงแผนที่การปลูกอ้อยและภาพการเผาจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) กลับพบว่าพื้นที่การเผามีทั้งหมด 2.8 ล้านไร่ คิดเป็นผลผลิต 28 ล้านตัน แต่รัฐบาลระบุว่าอยู่ที่ 11 ล้านตัน ก่อนที่จะเคลมเคยทำความเข้าใจปัญหาหรือไม่ว่า มีอ้อยที่เผาแล้วเข้าโรงงานโดยไม่ต้องรายงานจำนวนเท่าใด มีคนส่งอ้อยสดแล้วไปเผาใบอ้อยเท่าไหร่ แล้วรู้หรือไม่ว่ามีอ้อยเผาจ่อคิวเข้าโรงงานเท่าไหร่
.
“คนที่โกหกหลอกหลวงประชาชน จนไม่สนใจสุขภาพของประชาชน ขอโทษเถอะครับ เป็นเพื่อนยังไม่คบ จะให้เป็นนายกฯได้ยังไง” นายภัทรพงษ์กล่าว
.
นายภัทรพงษ์กล่าวว่า การแก้ปัญหา PM2.5 ต้องทำงานหนักสุดก่อนจะเกิดปัญหา ต้องมีมาตราการรับมือและออกกฎกระทรวง ไม่ต้องรอ พ.ร.บ.อากาศสะอาด รวมถึงเร่งออกงบกลาง แต่ น.ส.แพทองธารก็ยังไม่ทำในสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่าต้องทำ ในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2567 มีแค่ข้อสั่งการลวกๆ 3 ข้อ แต่ไม่มีการออกมาตรฐานบังคับเรื่องข้าวโพดที่เผา หรือการออกหลักเกณฑ์ตรวจสอบการนำเข้า รวมถึงการสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยไม่ให้เผา นี่คือผลของการที่เรามีนายกฯ ที่ไม่มีความพร้อม นํามาซึ่งหายนะ
.
“ช่วยเสแสร้งแกล้งทำเป็นจริงใจในการแก้ปัญหาหน่อย เพราะการสั่งการลอยๆ ไม่มีเนื้อหาแบบนี้ จะทำให้รัฐมนตรีไม่เห็นค่า หน่วยงานไม่เห็นหัว สุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบ ก็คือประชาชน” นายภัทรพงษ์กล่าว
.
นายภัทรพงษ์กล่าวอีกว่า หากเรายังมีนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีความรู้ความสามารถ เชื่องช้าแบบนี้ ต้องรอให้นายทุนจูงจมูกไปได้เรื่อยๆ ปัญหาต่างๆ จะไม่มีทางแก้ได้เลย ลมหายใจจากประชาชน ไม่ใช่สิ่งที่จะมาขอร้องจากนายทุน อำนาจอยู่ในมือทำไมถึงไม่กล้าใช้ ทำงานแบบนี้ถึงไม่มีใครให้ค่าเลย เพราะแทบจะทุกหน่วยงานที่ไม่ได้ทำตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ย้อนกลับมาดูตัวเองหรือไม่ ไม่มีภาวะความเป็นผู้นำเช่นนี้ ยังกล้าเรียกตัวเองว่านายกรัฐมนตรีอยู่หรือไม่
.
นายภัทรพงษ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.67 มีการซ้อมยิงเครื่องยิงระเบิด 120 มิลลิเมตร เป็นอีกครั้งที่เกิดไฟป่าขึ้นอีก หน่วยงานในพื้นที่รายงานว่าไฟป่าครั้งนี้มาจากการซ้อมยิงปืนใหญ่ของกองทัพ หนังสือจากนายอำเภอจอมทอง ส่งไปยังผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ขอให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ซ้อมยิง เพราะส่งผลกระทบทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย และทำให้เกิดไฟป่า
.
“ผมไม่มีปัญหากับการซ้อมรบของกองทัพ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแพทองธารถึงปล่อยให้ไฟป่า ฝุ่นพิษจากการซ้อมรบของกองทัพ ลืมไปแล้วหรือว่าตนเองเป็นคนสั่งการให้กองทัพไปป้องกันไฟป่า และ PM2.5 กองทัพเขาฟังคุณไหม นี่แค่ตัวอย่างจาก 2 จังหวัด ยังไม่รวมโคราชที่ซ้อมยิงในเขตอุทยาน และจังหวัดอื่นๆ ที่เจอปัญหาลักษณะเดียวกันนี้อีก
.
เรื่องง่ายๆ แค่นี้ยังทำอะไรไม่ได้ ยังกลัว ยังเกรงใจกองทัพ ฉะนั้นไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องปฏิรูปกองทัพ เรื่องเอาทหารมาอยู่ใต้ประชาชน แค่สั่งไม่ให้เกิดไฟป่ากองทัพยังไม่ฟังเลย ไม่เห็นหัว แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยซ้ำ” นายภัทรพงษ์กล่าว
.
นายภัทรพงษ์กล่าวทิ้งท้ายว่า จุดประสงค์การเป็นนายกรัฐมนตรีของคุณแพทองธารคืออะไร ถ้าคุณไม่โกรธตัวเอง และยังคิดว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเองเลย อย่าคิดว่าตัวเองทำเต็มกำลังสุดความสามารถเพื่อลมหายใจของประชาชนแล้ว คุณไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย ปัญหา PM2.5 ตนพูดไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว เสนอแนะทุกทางที่จะเป็นไปได้ด้วยความหวังดี เพื่อแก้ปัญหาของประชาชน ปัญหานี้เป็นปัญหาที่หนัก ไม่มีใครที่จะแก้ปัญหาได้ 100% ภายใน 1-2 ปี แต่ทำให้ดีกว่านี้ได้เยอะ วันนี้ตนไม่สามารถเรียกบุคคลคนนี้ว่านายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป ทางออกเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้ คือคุณต้องออกจากตำแหน่งตรงนี้ คืนปอด คืนลมหายใจ คืนสุขภาพที่ดีได้แล้ว ลาออกเถอะ คุณไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้
.
.
“สส.อิทธิพล” จัดหนัก รมต.น้ำ ไหนเป็นรัฐบาลจะจัดการ “บิ๊กตู่” เรื่องเหมืองทองอัครา
https://www.thairath.co.th/news/politic/2848954
.
“อิทธิพล ชลธราสิริ” จัดหนักรัฐบาลแพทองธาร ตอนเป็นฝ่ายค้าน บอกจะจัดการ “พล.อ.ประยุทธ์” เรื่องเหมืองทองอัครา พอเป็นรัฐบาล กลับเอาคนของ “บิ๊กตู่” มาดูคดี เหน็บ “รมต.น้ำ” ไหนว่าจะกระชากคอเผด็จการ ลูกพรรค รทสช. ประท้วงวุ่นอย่าเอ่ยถึง “ลุงตู่” ที่สร้างคุณงามความดีไว้เยอะ
.
เมื่อเวลา 13.43 น. วันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอิทธิพล ชลธราสิริ สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน กล่าวอภิปราย เรื่องเหมืองทองอัครา ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตาม ม.44 ปิดเหมืองทองอัครา แม้จะมีเสียงทัดทานจากข้าราชการแล้วก็ตาม โดยทางพรรคเพื่อไทย สมัยเป็นฝ่ายค้าน เคยอภิปรายไว้ว่า จะดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ ต้องไม่เลื่อนวันออกคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ หยุดประเคนผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง และหยุดการล้มคดีภายในประเทศ แต่ตอนนี้ผ่านมา 2 ปี ที่เป็นรัฐบาล ก็ไม่ได้ทำอย่างที่พูดไว้
.
“ตอนพูด พูดอย่างน้ำไหลไฟดับ พอได้เป็นรัฐบาล กลายเป็นเพียงน้ำท่วมทุ่งไปแล้ว แต่พอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล คุณแพทองธาร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วทุกคนที่ออกมาด่า พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องเหมืองทองอัครา ได้ดิบได้ดี เป็นรัฐมนตรีทุกคน แทนที่ท่านจะเด็ดหัว สอยนั่งร้านเผด็จการ ท่านกลับทำตัวเป็นนั่งร้านเสียเอง ขนาดท่านสุริยะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่พวกท่านก็ด่าว่าเป็นนั่งร้านให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอในรัฐบาลแพทองธารเลย ไม่เห็นว่าท่านจะทำอย่างที่พูดไว้สักอย่าง” นายอิทธิพล กล่าว
.
นายอิทธิพล ยังกล่าวอีกว่า น.ส.แพทองธาร ที่ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง บอกจะปิดสวิตช์ 3 ป. เอาป.แรก ป.ประยุทธ์ ไม่ทราบว่าจะปิดเมื่อไหร่ การเอา พล.อ.ประยุทธ์ มาลงโทษ เป็นสิ่งที่พวกท่านพูดไว้เอง โดยเฉพาะ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้ฉายานักฆ่าขนตางอน เจ้าของวลีที่จะกระชากคอเผด็จการ ที่เคยอภิปรายแบบน้ำไหลไฟดับกลางสภาฯ แห่งนี้
.
“พอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็เอาคนของพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลคดีเรื่องเหมืองทองอัครา เอาคนของ พล.อ.ประยุทธ์ มาคุมกระทรวงที่เคยทำผิด เมื่อไหร่จะได้เข้าคุก นี่จึงเป็นเหตุผลเดียวคือดีลจัดตั้งรัฐบาล เป็นการเอาผลประโยชน์” นายอิทธิพล กล่าว
.
ทำให้ นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ประท้วงว่า การเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก ไม่เหมาะสม เพราะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่อภิปรายคนในอดีต
JJNY : 5in1 วิโรจน์ยกรธน.ตอก│ภัทรพงษ์ซัดอิ๊งค์│“สส.อิทธิพล”จัดหนัก│วรภพ เปิดขบวนการค่าไฟแพง│ไอซ์รักชนก โต้ ร่ำไห้กลางสภา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5107124
.
วิโรจน์ ยกรธน.ตอกกลับเดือด นายกฯบอกเสียภาษีมากกว่า ระบุพวกหลบเลี่ยงน่ารังเกียจ
.
.
ภัทรพงษ์ ซัดอิ๊งค์ ล้มเหลวแก้ PM2.5 สั่งการไม่ได้ ปล่อยทหารซ้อมรบ ทำไฟป่า-ฝุ่นพิษพุ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5107048
.
.
“สส.อิทธิพล” จัดหนัก รมต.น้ำ ไหนเป็นรัฐบาลจะจัดการ “บิ๊กตู่” เรื่องเหมืองทองอัครา
https://www.thairath.co.th/news/politic/2848954
.