จากข่าวที่สภาองค์กรของผู้บริโภคเข้ายื่นคัดค้านหลักเกณฑ์ประมูลคลื่นความถี่ที่กสทช.ได้วางไว้แล้ว
ทางกสทช.ก็จะเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะดารประมูลคลื่นใหม่ ซึ่งในส่วนที่สภาองค์กรของผู้บริโภคยื่นคัดค้านก็คือ ราคาคลื่นที่นำมาประมูล ถูกเกินไปหรือเปล่า ราคาต่ำกว่าการประมูลครั้งแรกมากไปมั้ย ถ้าความเห็นเราก็เชื่อว่า กสทช.ตั้งราคานี้มาก็สมเหตุสมผลแล้ว คือจะเอามาเทียบกับราคาที่ประมูลครั้งแรก มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คลื่น 2100 ที่นำมาประมูล 3G ตอนปี 55 มันเป็นการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยของเทคโนโลยีจาก 2G ไป 3G เปลี่ยนโฉมหน้าเทคโนโลยีใหม่หมด ราคาที่ได้จากการประมูลก็ต้องเป็นราคานึงที่เหมาะสมกับเหตุการณ์
มาเวลานี้ยุค 5G แล้ว ได้ใช้เทคโนโลยี 3G มาเป็น 10 กว่าปี ซึ่งเราจะเล่นอะไรบนเน็ตมือถือด้วยเทคโนโลยี 3G หรือ 5G เราก็ได้เล่นแต่ของเดิม game online facebook line youtube การได้ใช้เทคโนโลยี 5G ในวันนี้ กับเทคโนโลยี 3G เมื่อ 10 กว่าปีก่อน เราก็ได้เล่นอะไรหลายอย่างที่เหมือนๆกัน จะต่างกันตรงที่ความเร็วเน็ต 5G ที่ไหลลื่นกว่า 3G มาก ผู้ใช้บริการจึงไม่มีความต้องการอะไรพิเศษจาก 5G
การประมูลคลื่นทำ 5G กลางปีนี้จึงมีความต้องการน้อย ต่างจากประมูล 4G ซึ่งตอนนั้นคลื่นทำ 3G มันเต็มแล้ว เน็ตเล่นบน 3G ช้าอืด จำเป็นต้องมี 4G มาช่วย การประมูลคลื่น 4G จึงได้ราคาสูงมาก
แต่ในวันนี้ ต่อให้มีคลื่นส่วนหนึ่งหมดอายุใบอนุญาต คลื่นตกเป็นของรัฐ ห้ามค่ายมือถือใช้คลื่น ค่ายมือถือก็ยังมีคลื่นอื่นในมือให้บริการลูกค้าได้อย่างไหลลื่น
การประมูลคลื่นในครั้งนี้จึงไม่สามารถเทียบการประมูลคลื่น 3G เมื่อปี 55 และ 4G เมื่อปี 58
ราคาประมูลคลื่นปีนัก็น่าจะอยู่ประมาณที่กสทช.ตั้งไว้แล้ว ถ้าจะให้สูง ก็คงสูงกว่านี้อีกแค่เล็กน้อย เป็นไปตามความต้องการทางการตลาด
ขอให้กสทช.ตั้งกฎป้องกันการกดประมูลแบบตั้งใจมาดันราคาให้อีกฝ่ายแบกต้นทุนสูงๆ เพราะจะมีผลต่อการใช้งานของลูกค้าทั้งราคาและคุณภาพด้วย
ที่กสทช.ต้องเน้นก็คือ ทำยังไงให้เกิดรายใหม่ที่มีคุณภาพ แข่งขันได้จริง ศึกษาดูให้ดึว่า ถ้ามีรายใหม่เข้าตลาด ราคาคลื่นสำหรับรายใหม่ควรอยู่ที่เท่าไร ระยะเวลาชำระใบอนุญาตกี่ปี รายใหม่ถึงจะตั้งตัวในระยะยาว 10-15 ปีได้
เห๊นข่าวการยื่นค้านประมูลคลื่นกับกสทช. ยังไงคลื่นที่จะประมูลก็น่าจะราคาเดิม แต่ควรมีรายใหม่เข้าร่วมชัดเจน
ทางกสทช.ก็จะเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะดารประมูลคลื่นใหม่ ซึ่งในส่วนที่สภาองค์กรของผู้บริโภคยื่นคัดค้านก็คือ ราคาคลื่นที่นำมาประมูล ถูกเกินไปหรือเปล่า ราคาต่ำกว่าการประมูลครั้งแรกมากไปมั้ย ถ้าความเห็นเราก็เชื่อว่า กสทช.ตั้งราคานี้มาก็สมเหตุสมผลแล้ว คือจะเอามาเทียบกับราคาที่ประมูลครั้งแรก มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คลื่น 2100 ที่นำมาประมูล 3G ตอนปี 55 มันเป็นการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยของเทคโนโลยีจาก 2G ไป 3G เปลี่ยนโฉมหน้าเทคโนโลยีใหม่หมด ราคาที่ได้จากการประมูลก็ต้องเป็นราคานึงที่เหมาะสมกับเหตุการณ์
มาเวลานี้ยุค 5G แล้ว ได้ใช้เทคโนโลยี 3G มาเป็น 10 กว่าปี ซึ่งเราจะเล่นอะไรบนเน็ตมือถือด้วยเทคโนโลยี 3G หรือ 5G เราก็ได้เล่นแต่ของเดิม game online facebook line youtube การได้ใช้เทคโนโลยี 5G ในวันนี้ กับเทคโนโลยี 3G เมื่อ 10 กว่าปีก่อน เราก็ได้เล่นอะไรหลายอย่างที่เหมือนๆกัน จะต่างกันตรงที่ความเร็วเน็ต 5G ที่ไหลลื่นกว่า 3G มาก ผู้ใช้บริการจึงไม่มีความต้องการอะไรพิเศษจาก 5G
การประมูลคลื่นทำ 5G กลางปีนี้จึงมีความต้องการน้อย ต่างจากประมูล 4G ซึ่งตอนนั้นคลื่นทำ 3G มันเต็มแล้ว เน็ตเล่นบน 3G ช้าอืด จำเป็นต้องมี 4G มาช่วย การประมูลคลื่น 4G จึงได้ราคาสูงมาก
แต่ในวันนี้ ต่อให้มีคลื่นส่วนหนึ่งหมดอายุใบอนุญาต คลื่นตกเป็นของรัฐ ห้ามค่ายมือถือใช้คลื่น ค่ายมือถือก็ยังมีคลื่นอื่นในมือให้บริการลูกค้าได้อย่างไหลลื่น
การประมูลคลื่นในครั้งนี้จึงไม่สามารถเทียบการประมูลคลื่น 3G เมื่อปี 55 และ 4G เมื่อปี 58
ราคาประมูลคลื่นปีนัก็น่าจะอยู่ประมาณที่กสทช.ตั้งไว้แล้ว ถ้าจะให้สูง ก็คงสูงกว่านี้อีกแค่เล็กน้อย เป็นไปตามความต้องการทางการตลาด
ขอให้กสทช.ตั้งกฎป้องกันการกดประมูลแบบตั้งใจมาดันราคาให้อีกฝ่ายแบกต้นทุนสูงๆ เพราะจะมีผลต่อการใช้งานของลูกค้าทั้งราคาและคุณภาพด้วย
ที่กสทช.ต้องเน้นก็คือ ทำยังไงให้เกิดรายใหม่ที่มีคุณภาพ แข่งขันได้จริง ศึกษาดูให้ดึว่า ถ้ามีรายใหม่เข้าตลาด ราคาคลื่นสำหรับรายใหม่ควรอยู่ที่เท่าไร ระยะเวลาชำระใบอนุญาตกี่ปี รายใหม่ถึงจะตั้งตัวในระยะยาว 10-15 ปีได้