จำได้ว่าตอนเป็นเด็กไปเที่ยวทะเลทีไร หรือถ้ามีคนรู้จักไปเที่ยวทะเล จะได้รับของฝาก ขนมชนิดหนึ่งสีสันสวยงาม รสชาติหวาน ๆ เนื้อด้านนอกมีความกรุบ ๆ ส่วนด้านในนิ่ม ๆ มีกลิ่นหอมของน้ำลอยดอกมะลิ เป็นขนมอร่อยราคาไม่แพง นั่นคือ วุ้นกรอบ
ฉันไม่แน่ใจว่าเริ่มแรกทีเดียว วุ้นกรอบเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งหรือเปล่า หรืออาจเป็นขนมที่ตั้งใจทำขึ้นมาแบบนั้นเพื่อความสะดวกในการกิน
ที่บ้านฉันแม่เคยทำให้กินบ่อย ๆ เพราะถึงแม้จะเป็นขนมราคาไม่แพง แต่เด็กหลายคนกินขนมเท่าไหร่ก็ไม่พอ ซื้อบ่อย ๆ คงไม่ไหว
วิธีทำง่ายมาก แต่ต้องใช้ความอดทนพอสมควร เริ่มด้วยการต้มวุ้นผงในน้ำลอยดอกมะลิ เติมน้ำตาลทราย คนจนละลาย นำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง
จากนั้นนำน้ำวุ้นที่กรองแล้วไปเคี่ยวต่อจนมีความหนืด ขั้นตอนนี้ต้องคนอย่าหยุดมือ มิเช่นนั้นวุ้นจะติดก้นหม้อไหม้เสียหมด
เมื่อมีความหนืดพอสมควร แบ่งส่วน เติมสีผสมอาหารหรือสีจากธรรมชาติตามใจชอบ ขั้นตอนนี้ฉันชอบมาก หยดสีลงไปแล้วค่อย ๆ กวน จะเห็นสีที่หยดนั้นค่อย ๆ แตกเป็นเส้นวนอยู่ที่ผิววุ้นแลดูสวยดี ฉันอยากเก็บลายแบบนั่นไว้ แต่เสียงแม่ส่งมาบอกให้รีบคนให้เข้ากัน เดี๋ยววุ้นจะเย็นเสียก่อน หมดกันอารมณ์ศิลปิน
ขั้นต่อไปก็นำเจ้าวุ้นสีสวยหนืด ๆ ไปเทใส่พิมพ์ ทิ้งไว้อย่างนั้นจนวุ้นเย็น จับตัวเป็นก้อน จึงนำมาตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขั้นตอนนี้ต้องใช้ฝีมือและประสบการณ์กันหน่อย ไม่อย่างนั้นวุ้นแตกเละหมด ได้ก้อนวุ้นเล็ก ๆ แล้ว จับมาเรียงใส่กระด้งที่รองด้วยผ้าขาวบาง นำไปตากแดด ตากนานแค่ไหนแล้วแต่ความพอใจว่าอยากได้ความแห้งระดับไหน
ฉันเคยคิดอยากทดลองว่าถ้าตากแดดไปเรื่อย ๆ จนน้ำในวุ้นแห้งไปหมด จะเป็นอย่างไรหนอ? แต่ฉันก็ทำได้แต่เพียงคิด เพราะวุ้นกรอบที่แม่ทำ จะถูกกินหมดไปในเวลาไม่นาน ไม่เคยเหลือให้ฉันทดลองสักชิ้น…
เล่าเรื่องอาหาร วุ้นกรอบ
จำได้ว่าตอนเป็นเด็กไปเที่ยวทะเลทีไร หรือถ้ามีคนรู้จักไปเที่ยวทะเล จะได้รับของฝาก ขนมชนิดหนึ่งสีสันสวยงาม รสชาติหวาน ๆ เนื้อด้านนอกมีความกรุบ ๆ ส่วนด้านในนิ่ม ๆ มีกลิ่นหอมของน้ำลอยดอกมะลิ เป็นขนมอร่อยราคาไม่แพง นั่นคือ วุ้นกรอบ
ฉันไม่แน่ใจว่าเริ่มแรกทีเดียว วุ้นกรอบเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งหรือเปล่า หรืออาจเป็นขนมที่ตั้งใจทำขึ้นมาแบบนั้นเพื่อความสะดวกในการกิน
ที่บ้านฉันแม่เคยทำให้กินบ่อย ๆ เพราะถึงแม้จะเป็นขนมราคาไม่แพง แต่เด็กหลายคนกินขนมเท่าไหร่ก็ไม่พอ ซื้อบ่อย ๆ คงไม่ไหว
วิธีทำง่ายมาก แต่ต้องใช้ความอดทนพอสมควร เริ่มด้วยการต้มวุ้นผงในน้ำลอยดอกมะลิ เติมน้ำตาลทราย คนจนละลาย นำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง
จากนั้นนำน้ำวุ้นที่กรองแล้วไปเคี่ยวต่อจนมีความหนืด ขั้นตอนนี้ต้องคนอย่าหยุดมือ มิเช่นนั้นวุ้นจะติดก้นหม้อไหม้เสียหมด
เมื่อมีความหนืดพอสมควร แบ่งส่วน เติมสีผสมอาหารหรือสีจากธรรมชาติตามใจชอบ ขั้นตอนนี้ฉันชอบมาก หยดสีลงไปแล้วค่อย ๆ กวน จะเห็นสีที่หยดนั้นค่อย ๆ แตกเป็นเส้นวนอยู่ที่ผิววุ้นแลดูสวยดี ฉันอยากเก็บลายแบบนั่นไว้ แต่เสียงแม่ส่งมาบอกให้รีบคนให้เข้ากัน เดี๋ยววุ้นจะเย็นเสียก่อน หมดกันอารมณ์ศิลปิน
ขั้นต่อไปก็นำเจ้าวุ้นสีสวยหนืด ๆ ไปเทใส่พิมพ์ ทิ้งไว้อย่างนั้นจนวุ้นเย็น จับตัวเป็นก้อน จึงนำมาตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขั้นตอนนี้ต้องใช้ฝีมือและประสบการณ์กันหน่อย ไม่อย่างนั้นวุ้นแตกเละหมด ได้ก้อนวุ้นเล็ก ๆ แล้ว จับมาเรียงใส่กระด้งที่รองด้วยผ้าขาวบาง นำไปตากแดด ตากนานแค่ไหนแล้วแต่ความพอใจว่าอยากได้ความแห้งระดับไหน
ฉันเคยคิดอยากทดลองว่าถ้าตากแดดไปเรื่อย ๆ จนน้ำในวุ้นแห้งไปหมด จะเป็นอย่างไรหนอ? แต่ฉันก็ทำได้แต่เพียงคิด เพราะวุ้นกรอบที่แม่ทำ จะถูกกินหมดไปในเวลาไม่นาน ไม่เคยเหลือให้ฉันทดลองสักชิ้น…