เรื่องผี ชื่อว่า ผีนรก


สวัสดีครับทุกๆคนที่กำลังฟังเรื่องที่ผมเล่าอยู่ตอนนี้
ผมชื่อ อ๋อง นะครับในเรื่องของผมที่จะมาเล่าต่อไปนี้
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเองย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ผมพึ่งเรียนจบใหม่ๆ
 
ผมกับเพื่อนได้รวมกลุ่มนัดกันเพื่อฉลองที่เรียนจบ 
ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันซึ่งสถานที่ที่เราเลือกไปนั้น 
ผมและเพื่อนๆตกลงกันว่าจะไปเที่ยวน้ำตกแห่งหนึ่งแถวๆชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน 
ขอไม่บอกนะครับว่าที่ไหนเดี๋ยวจะกระทบถึงรีสอร์ทแห่งนั้น 
 
ผมกับเพื่อนๆวางแผนกันเอาไว้ว่าจะท่องเที่ยวกันทั้งหมด 5 วัน 4 คือให้เต็มที่เลย 
 
แต่ว่าแผนเที่ยวมันก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้
เพราะมีเรื่องบางอย่างที่น่ากลัวมันดันเกิดขึ้นซะก่อนครับ 
คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้นะครับ คือวันที่ผมเดินทางกับกลุ่มเพื่อนๆอีก 4 คน
ซึ้งรวมกับผมจะเป็น5คนนะครับ เราไปกันเป็นคู่ๆ
คือ ผม  กับ ออย ซึ่งเป็นแฟนของผม  เอก กับ  แอน  
ซึ่งพวกเค้าเป็นแฟนกันแต่มีเพื่อน1คนที่ยังโสด
ไม่มีคู่นั่นก็คือ  ไอ้อู๋ พวกเราทั้งหมดนั้นสนิดกัน 
และนัดเจอกันที่หมอชิด เพื่อที่จะออกเดินทาง 
คาดว่า น่าจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 วันเต็มๆ
กว่าที่พวกเราจะไปถึงจุดหมายปลายทางได้
พวกเรายังต้องเดินเท้าต่อไปที่อีกที กว่าจะถึงที่พัก
 
ซึ่งก็เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างยาวนานลำบากพอสมควรเลยครับ
ผมกับเพื่อนๆเดินแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นเขากันแบบเหนื่อยสุดๆเลยครับ 
ระหว่างที่เดินทางก็ได้เจอสาวนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง 
ผิวขอเธอเป็นสีน้ำผึ้งถือว่าเธอเป็นคนที่สวยเลยครับ 
เธอได้เข้ามาถามถึงทางไปที่พักรีสอด ทันไดนั้น 
ไอ้อู๋ มันก็รีปออกตัวตอบเค้า ว่าพักที่เดียวกันเลยครับ 
ผมชื่อ อู๋นะครับแล้วคุณชื่อ อะไรครับ 
ผู้หญิง คนนั้น บอกว่าเธอชื่อ มัทนา 
เธอดู เป็นคนสวยแบบลึกลับ มัทนา ที่แปล ว่า ดอกกุหลาบ 
สำเนียงการพูดจะไม่ค่อยชัดนะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะอธิบาย ยังไง ดี  
 
 
ก็ดูเหมือนเป็นคนเอเชียเหมือนกับพวกเรานั้นแหละครับ 
เพียงแต่พูดไทยไม่ชัดฟังการพูดแล้วออกตลกน่ารักดีครับ 
และผมเองก็ไม่ได้ถามว่าเธอเป็นคนที่ไหน 
เพราะผมมากับแฟนจึงไม่กล้าออกตัว ถามเรื่องของเธอมากครับ 
กลัวแฟนหึงครับเพราะมีสายตา ที่จ้องมองหน้าผมอยู่ตลอดเวลา ครับ *-*  
ต่อมา พวกเรา เดินทางถึง ห้วยน้ำแห่งหนึ่งที่มีขอนไม้พาดเพื่อเป็นสะพานข้าม 
ไอ้อู๋ สุภาพบุรุษ ของเรา มันก็เลยอยากที่จะโชวสาว 
มันจึงขออาสา ยกกระเป๋าของ ผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อมัทนา 
มันได้แบกข้ามสะพาน ให้เธอ เพราะสะพานนี้ทางเดินมันจะ แคปมาก
เดินได้ทีล่ะคน  มัทนา เธอเป็นคนที่ข้ามสะพานเป็นคนสุดท้าย
แต่เมื่อเธอเดินไปถึงกลางสะพาน อยู่ๆเธอก็หยุดเดิน
แล้วมองเข้าไปในป่าข้างทาง เธอนิ่งอยู่นาน พอสมควร
พวกเราร้องเรียกเธออยู่หลายครั้ง ว่าเกิดอะไรขึ้นรึป่าว
แต่ก็เหมือนว่าเธอจะไม่ยิน หรือ สนใจที่สิ่งที่พวกเราถามเธอเลย
แล้วเธอก็เดิมข้ามมา ไอ้อู๋ ก็รีปเดินเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็ไม่ตอบ
ด้วยความที่ไอ้อู๋เป็นคนที่ปากไม่ค่อยดี  มันจึงถามออกไปว่าคุณ มัทนา
คุณเห็นผีเหรอ ครับ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ตอบ แต่เธอมองหน้าไอ้อู๋ ๆมันก็เลยพูดโชวสาว
ออกไปแบบเท่ๆว่าไม่ต้องกลัวนะครับ ผีมันไม่มีจริงในโลกนี้ หรอกครับ
แต่ถ้าหาก ถ้ามันมีจริง แล้วผีมันจะมาหักคอไครสักคนในที่นี้ ก็ให้มาหัก
คอผมเป็นคนแรกก่อนเลยครับ ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะปกป้องคุณ มัทนา เองครับ

แล้วพวกเราฟังแล้วก็พากัน หัวเราะเพราะมุกที่ไอ้อู๋ มันปล่อยออกมา มันน้ำเน่ามาก
แต่มัทนา เธอกับไม่หัวเราะ พวกเราจึงมองหน้ากันแล้ว เงียบ
ระหว่างทางที่เดินเป็น มัทนา ที่ชอบหยุดเดิน เอาแบบดึ้นๆ
แล้วมองไป2ข้างทางตลอดเวลา หลายครั้ง พวกเราก็มอง ตามที่ที่เธอมอง
แต่พวกเราก็ไม่เห็น อะไร พวกเราก็ถามเธอตลอดแต่เธอก็ไม่ยอมพูดอะไรกับพวกเราเลย
บอกตรงๆว่าตอนนั้น ผมก็เริ่มเกิด อาการ หลอนนิดๆ ครับ คิดว่าเธอคงน่าจะสมองไม่ปกติด
ก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะมาทำร้ายพวกเราหรือทำอะไรเราได้หรอกครับ
แต่เหตุการณ์ที่มัทนาแสดงมันดู
แปลกๆเหมือนคนไม่ค่อยเต็มยังไงก็ไม่รู้ครับ
 
ต่อมาพวกเราถึงจุดหมาย พี่พัก กันแบบเหนื่อย สุดๆครับ 
พวกเรา แยกย้ายกัน อาบน้ำพักผ่อนและ ตกลง นัดกัน 
ว่าจะเจอกันตอน 1 ทุ่มเพื่อ กินข้าว ตรงห้องอาหาร ของรีสอร์ท 
และ ไอ้อู๋ มันก็ ขยั้น ขยอ ให้พวกเรา ช่วยกันชวน มัทนา ให้มากินข้าว
รวมกลุ่มกับพวกเราด้วย ครับ เรื่องของเรื่องคือมันอยากจะ จีบ มัทนา ครับ 
พวกเราก็กินไปด้วยคุยกันไปด้วยมีการดื่ม สังสรรค์ กันเล็กน้อย ครับ 
พูดถึงแผนการไปเที่ยวน้ำตกกันพรุ่งนี้ และชวนมัทนาให้ไปด้วยกันด้วยครับ 
จะมีไกด์ นำเที่ยว พาไป ที่น้ำตกและพายเรือล่องแก่ง กัน 
ตอนนี้ดูเหมือน มัทนา เธอจะเริ่ม พูดและสนิดกับพวกเรามาก ขึ้น แล้ว 
พวกเราดื่มกัน สักพัก ออย ก็ เอ่ยถาม ว่าเมื่อเช้าตอนเดินทางข้ามสะพาน 
เธอ หยุด มองดู อะไร พวกเรา มองตรงที่เธอมองก็ไม่เห็นว่ามีอะไรนอกจากต้นไม้  

มัทนา เธอก็นิ่งไป แล้วก็เริ่ม เล่า ว่า ตัวเธอเป็น คนที่ มักจะเห็น อะไรแปลกๆ
ในสิ่งที่คน อื่น มองไม่เห็น ***และตลอดทาง ตั้งแต่ ตรงที่ข้ามสะพาน เธอเห็น 
เหมือนมีคน นั้ง เกาะอยู่ บนกิ่งไม้ เมื่อเธอนิ่งมองดูดีๆคนๆนั้น 
กลับมีหัวเป็นเหมือนวัวกระทิง ผิวของมันเป็นสีดำ มันไม่มีเสื้อเนื้อตัวดำทั้งตัว 

ใส่แต่ผ้านุ่ง สีแดง เมื่อเธอมองเห็นมันแวะแรก มันก็ หันมามองหน้าเธอ ทำให้เธอนิ่งไป 
เหมือนมันรู้ว่าเธอสามารถมองเห็นมันได้ แล้วมันก็ ค่อยๆ จางหายไป 
เธอตกใจมาก ที่ เห็นอะไรแบบ นั้น จาก นั้นเธอ ก็เห็น มัน ตัวเดิม 
ระหว่างข้างทางที่เดินทาง มา ที่ รีสอร์ท ตลอด 2 ข้างทางที่เดิน มันนั้ง 
บนกิ้งไม้ใหญ่บ้าง หรือ บางที ก็ ยืนอยู่ ข้างทางตามพุ้มไม้ แล้ว ก็ ยืนข้างๆต้นไม้ บ้าง 
แต่ล่ะครั้ง เหมือนมันเริ่มไกล้เข้ามาเรื่อยๆพอหันไปเจอมันทุครั้งมันก็ค่อยๆหายไปในอากาศ 

มันหน้ากลัวมาก เธอ จึงเดินๆหยุดๆ เหตุการณ์ก็ประมาณนี้ ส่วนเรื่องที่เธอไม่ยอมพูด 
เพราะ เธอบอกว่าเธอตกใจ ในตอนนั้น และ เมื่อก่อน เธอก็เคยเจอ เหตุการณ์ คลายๆ แบบนี้
และ ได้เล่าให้คนอื่นฟัง แต่คนอื่น ในหมู่บ้าน ก็ หาว่าเธอ เป็นคนบ้า

และมักจะมองเธอในแง่ลบ หาว่าเธอเป็นตัวนำโชคร้าย  
พวกเราฟัง แล้ว ก็ นิ่งไปครู่ หนึ่ง ก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง
จาก นั้น ก็แยกย้าย กันไป พัก เพราะ พรุ้งนี้ต้องตื่นเดินทางกันแต่เช้า
เมื่อออกจากห้องอาหาร พวกเราก็เดินตรงไป แล้วเลี้ยวขวา
ห้องพักของพวกเราจะอยู่ ติดกัน 4ห้อง เรียงกัน
ห้องพักของผมกับออยจะเป็นห้องแรกเอกกับแอนห้องที่2ส่วนคน ที่ โสดๆจะอยู่ท้าย
และนอนคนเดียว ก็ คือ ไอ้ อู๋ ที่ติดกับห้องของ มัทนา และ มัทนาจะเป็นห้องสุดท้าย
ติดกำแพง ของรีสอร์ท ทาง หลังรีสอร์ทจะเป็นป่าไม้สุดลูก หู ลูกตา

เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นมันเริ่มต่อจากนี้แหละ ..
คือหลังจากแยกย้ายกันผมก็ปิดไฟนอนคุยกับออย สักครู่ 
ก็เผลอหลับไป ผมสะดุ้งตื่น มาอีกที 
เมื่อ ออยมาเขย่าตัว ก็กำลังจะถามว่าอะไร ออยๆ 
ก็พูดว่าได้ยินเสียงอะไรมั้ย ผมก็ นิ่งฟังเสียง  ก็ได้ยินเสียง เหมือน 
มีตัวอะไรมายืน ถอนหายใจมีเสียงร้องเบาๆ ที่หน้าประตู ห้อง 
ทำให้ผมนึก ถึง เสียง วัว หรือ ควาย เวลามัน หายใจ ดัง ฟื่อๆ 
ใช้แล้วแหละครับเพื่อนฟังถูกแล้วครับ 
มันเหมือนเสียงร้องหายใจของวัว จริงๆครับ 
แล้วก็มีเสียงเหมือนแท้งเหล็กหรือไม้ อะไรแข็งๆ ถู ขูดลาก จากห้องของเราไปอีกห้อง 

ผมนึกในใจ ไอ้อู๋ มันท่า จะบ้า ไปแล้ว มาแกล้งกัน ตอน จะนอน 
นะเดี๋ยวเจอกูแน่ ผม ค่อยๆ ย่อง ไปยืนเอาหูแนบประตู 
ยังได้ยินเสียง ขูพื้น อยู่ เลยผมเปิด ประตู ออก ไปพลวด 
หน้าห้องอย่างมืดเลย ไม่รู้ว่ารีสอร์ทจะประหยัดไฟอะไรกันนักหนา 
เอาเป็น ว่า เห็น มันแล้ว เป็นเงาดำๆแดง ยืนหากออกไป สัก 8ถึง10ก้าวได้  
ต้องใช่มันแน่ๆ เสื้อผีสีดำ กาง เกง หงส์สีแดง ผมยังจำได้ ว่ามันเคยใส่ไปเตะบอลด้วยกัน 
ผมรีปเดินเข้าไป จากเดินเป็นวิ่ง กะว่าจะไปตบผีสักหน่อย 
แต่ไอ้อู๋ เหมือน มันจะรู้ ตัว 
มันก็เริ่มห่างออกไปอย่างไวเร็วอย่างกับติดจรวจเหมือนมันลอยได้เลย 
ทางที่มันตรงไปเป็นทาง ตันติดกับป่าสุดทางเดิน 
มีกำแพง กั้นสูง ท่วมหัว เสร็จ กู แน่ ไอ้อู๋ ผม วิ่งเข้าไป 
ห่างมันสัก3ถึง4 ก้าว ได้ผม ง้างมือ เตรียม ตบ มัน แต่ ว่ามัน
มัน กับกระ โดด พุ่งข้ามกำแพงขึ้นไป พุ่งออกไปในป่า หลังรีสอร์ท

ผมกระโดดเกาะปีนกำแพงตามขึ้นไป     
ปีนขึ้นไปดูได้สักคลึ่งตัวพอจะเห็น ข้างล่างกำแพงด้าน นอกของกำแพง
มันสูงจริงๆ และข้างล่างมันก็มืดด้วย แสงจันทร์สว่างพอเห็นลางๆ  
ใบหญ้าไหว ผึบๆ เห็นสีแดงๆลอยเข้าไปในป่า  กูล่ะ ยอมใจ จริงๆไอ้อู๋  
ลงทุน แกล้งกูได้ขนาดนี้   ผมลงมาจากกำแพง ก็นึกขึ้นได้ ว่าเอาแล้วไงกู  
หากมันไม่ใช่ ไอ้อู๋ล่ะ ใช่แล้วครับ หากมันเป็นอย่างทีทุกคนคิดกันล่ะ โจร
หรือ มันจะเป็นโจร ผมกะว่า จะไปเคาะห้อง ของเพื่อนทุกคน ก็กลัวว่าจะไป
รบกวน คน อื่นๆ ก็เลยเคาะแต่ห้อง ของไอ้อู๋ ห้องเดียว ผมเคาะไปเบาๆ
ก๊อกๆ .. เงียบ   ผมจึงเคาะไป อีกครั้งแรงขึ้น และ เรียกเบาๆ ว่า อู๋ๆหลับยังว่ะ  ….  
เงียบ ไม่มีเสียงอะไรที่ตอบกลับมาเลย ผมจึงเอาหู แนบ ที่ตรงประตูก็ได้ยินเสียง 
โฮๆ ที่ดังมาจากในห้อง  ผมจึง คิด ว่าไอ้คนเมื่อกี้ต้องเป็นไอ้อู๋แน่ นอน 
จึงเคาะประตูก๊อกๆ ใส่ไปเต็มแรง แล้วพูดเสียงดังขึ้น ไอ้อู๋อยู่ในห้อง รึป่าวว่ะ 
เปิดประตูให้กู หน่อยสิ  ผมนิ่งฟังอยู่หน้าประตูสักครู่ เสียงที่ดังในห้อง โฮๆ 
ก็เงียบไปผมยืนอยู่สักพักก็ไม่มีไครมาเปิดประตู ผมคิดไว้แล้วว่า 
เมื่อกี้ต้องเป็นมันแน่นอน ผมหันหลังเดินกลับไปห้องพักของตัวเอง 
ก็มีเสียงร้อง  โอ้ยยาวๆ ดังมา มันเป็น เสียงที่ มีความโกรธแค้นผสมอยู่ ในน้ำ เสียงนั้น
 ผมตกใจ แล้วก็รีปหันไปมองตามที่เสียงนั้น 

จูๆ ประตูก็เปิดขึ้น มีเงาหัวดำๆ ค่อยๆโผล่ 
ออกมาจากในห้อง ผม กำหมัดแน่น นิ่ง มองดู ว่า มันเป็นตัวอะไร  
ไอ้ อ๋อง ไอ้เวณ จะมา .เคาะห้องกู ทำ รวย อะไรว่ะ นี้มันกี่โมงแล้ว มีเรื่องอะไรว่ะ
ผมก็ถามออกไปว่า ใช้มั้ยที่มา แกล้งเป็นทำเสียงผีแล้วเดินเคาะที่ห้องกูเมื่อกี้ 
ไอ้อู๋ ก็ พูดว่า  ตั้งแต่แยกกันมาที่ห้องอาหาร 
กูก็นอน หลับ อยู่ในห้องนี้ แหละ ไม่ได้ไป เคาะห้องไครที่ไหน 
ผมคิดว่า ไอ้อู๋ มันก็โกหกแน่นอน 
ถ้าไม่ได้โกหก งั้นกูขอ เข้าไปดูที่ในห้องหน่อยสิ 
ผมก็ เดินเข้าไปดูในห้อง  ของมัน
ห้องนี้มันไม่มีประตูหลัง มีแต่หน้า ต่าง ที่มีเหล็ก กั้นเอาไว้ 
เป็นห้องที่ไม่สามารถ ผ่านทางหน้าต่าง เข้าออกได้ จะเข้าออกได้ 
ก็เฉพาะ ประตู ที่หน้าห้องเพียงทางเดียวเท่านั้น  
อ้าวไม่ใช่ไอ้อู๋นี้หว่า   ผมก็เล่าให้ไอ้อู๋มันฟัง  
ไอ้อู่ ล็อกห้องให้ดีๆนะ มันอาจจะเป็นโจรก็ได้ 
ไอ้คนที่กูวิ่งไล่มันเมื่อกี้  รีสอร์ท ที่นี้ มันก็ประหยัดไฟดีจริงๆ 
ให้มันได้อย่างนี้สิ ผมก็กลับไปพักที่ห้องตามเดิม 
เห็น ว่าออยหลับ อยู่ จึง เข้าไปนอน เงียบๆ หลับๆตื่นๆ ได้อีกสักพัก ..
ก็ได้ยินเสียง หายใจฟื่อๆ และเสียง ขูพื้น ลากยาว เหมือนเดิม  
ผม หยิบโทรศัพท์ ขึ้น มีแสงไฟ สว่างจากมือถือ ผม มอง หน้า ออย  
ตอนนั้น ออย นอนหลับไปแล้ว ผมจึงค่อยๆเดินไปหยิบ ขวดน้ำที่เป็นขวดแก้ว
 
ขึ้นเพื่อเป็น อาวุธ มันเป็นขวดที่ยาวประมาณ 1 ศกได้ 
เพราะ ผมไม่ได้พกอุปกร์ ป้องกันตัว มาด้วย 
ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ กำลัง จะ เดิน  
ไปที่หน้าห้อง จูๆ ก็ได้ยินเสียง ร้อง กรีด ของผู้หญิงดัง มาแต่ไกล  
ผมก็รีป ออกไปดู ยืนอยู่หน้าห้องสักพักเพื่อ ที่จะฟังว่าเสียงมาจากทางไหน  
จากนั้นก็เห็นไอ้อู๋ เปิดประตูออกมาจากห้อง 
วิ่ง ไปที่ห้องพักของ มัทนา เคาะประตู ว่าเกิอะไรขึ้น 
ทุกคนต่างตื่นขึ้นมารวมตัวกันอยู่ที่หน้าห้องของเธอ 
แต่ก็ไม่สามารถเปิดประตูห้องได้ จึงต้องให้ผู้จัดการ รีสอร์ท 
ใช้กุญแจ สำรองเพื่อเปิดห้องให้ เมื่อประตูเปิด ผมก็ วิ่งเข้าไปในห้อง 
เปิดไฟ มองดูว่าเกิดอะไร ขึ้น ก็เห็น มัทนา นั้งกอดเข่าอยู่ปลายเตียง 
พวกเราถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเอาแต่พูดว่า มันอยู่ในนี้ มันอยู่ในนี้ 
ไอ้ตัวเมื่อเช้า พวกเราก็ตรวจดูในห้อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่