โชคดีได้สิทธิ์วิ่งที่ Chicago 2025 เลยจัดการทำเรื่องของวีซ่า B2 ท่องเที่ยวซะเลย
เนื่องจากเพิ่งทำการขอวีซ่า New Zealand เลยไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มมาก
รูปถ่ายพร้อม Passport พร้อม เอกสารหลักๆ พร้อม (ภาษาอังกฤษทั้งหมด)
ซึ่งนี่จะเป็นการเดินทางไป USA ครั้งแรก ที่ผ่านมามักจะไปแค่ เอเชีย ออส+NZ เชงเก้น
ทำการหาข้อมูลทั้งใน Pantip, YouTube, Facebook และคนรอบข้างมากมาย (ขอขอบคุณทุกแหล่งข้อมูล)
ตามอ่านอยู่วันนึงคิดว่าหาข้อมูลพอละ ต้องหาเอกสารเพิ่มเพื่อกรอก DS-160 เพิ่ม เช่น ที่พัก ก็เลือกที่จองแต่ยังไม่จ่ายตัง
ตั๋วเครื่องบินยังไม่ได้ซื้อ นอกนั้นก็พวกเอกสารการงาน การเงิน การศึกษา ซึ่งมีของเก่าอยู่แล้ว และก็จัดการสมัคร Account และเตรียมกรอก
กรอกเสร็จ ตรวจทาน จ่ายตัง นัดวันสัมภาษณ์ เลือกวันอังคารเพราะปีนี้เป็นวันธงชัย (เน้นเฮงๆ)
ระหว่างรอถึงวันสัมภาษณ์ก็แอบกังวล เพราะจากข้อมูลส่วนใหญ่ในกระทู้หรือคอมเมนต์ต่างๆ บอกผ่านยากและมีหลายทฤษฎี
วันสัมภาษณ์นัดไว้ 9.00 น. ไปจอดรถสวนลุม ถึงประมาณ 7.30 น. เดินเล่นสักพักทำใจนิดนึง (แต่ในใจคิดว่าผ่าน)
ไปถึงสถานทูต คนไม่เยอะมาก ตรวจหมายนัด เก็บมือถือ รอเรียก สแกนนิ้ว และรอไปสัมภาษณ์กับท่านกงสุล
ระหว่างรอต่อคิวสัมภาษณ์ด้วยการยืนต่อคิว ก็มีทั้งผ่านและไม่ผ่าน แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าผ่าน บรรยากาศมันทำให้มั่นใจและคิดว่าผ่านแน่ 5555
พอถึงคิวผม ก็เข้าไปพร้อมกับภรรยาเลยเพราะนามสกุลเดียวกัน แต่ตอนกรอกนัดสัมภาษณ์จองแยกกัน พอหน้างานเจ้าหน้าที่รวบให้ไปเป็นคู่เลย
เปิดเกมด้วยรอยยิ้มและกล่าวสวัสดีกันทั้ง 2 ฝ่ายด้วยภาษาไทย เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ดี
หลังจากนั้นก็ Flow เลย ถามอยู่ 3 คำถาม ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ไปทำอะไรที่อเมริกา / เคยไปประเทศอื่นๆ ไหม / อีกอันจำไม่ได้
ระหว่างถาม ท่านกงสุลก็พิมพ์ไปเรื่อย และก็ยินดีด้วยเอกสารคุณผ่าน และจะส่ง Passport รอ 3 วัน ได้คืน ได้ 10 ปี
ตั้งใจมาบอกว่าทั้งหมดทั้งมวล ถ้าเจตนาดี เอกสารพร้อม ที่เหลือก็ราบรื่นครับผม
end credit ขอวีซ่าว่ายากแล้ว เก็บตังไปเที่ยวยากกว่าเยอะะะะะะ
ยืนยันอีก 1 เสียง ขอ VISA USA B2 ผ่านได้ไม่ยากเลย
เนื่องจากเพิ่งทำการขอวีซ่า New Zealand เลยไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มมาก
รูปถ่ายพร้อม Passport พร้อม เอกสารหลักๆ พร้อม (ภาษาอังกฤษทั้งหมด)
ซึ่งนี่จะเป็นการเดินทางไป USA ครั้งแรก ที่ผ่านมามักจะไปแค่ เอเชีย ออส+NZ เชงเก้น
ทำการหาข้อมูลทั้งใน Pantip, YouTube, Facebook และคนรอบข้างมากมาย (ขอขอบคุณทุกแหล่งข้อมูล)
ตามอ่านอยู่วันนึงคิดว่าหาข้อมูลพอละ ต้องหาเอกสารเพิ่มเพื่อกรอก DS-160 เพิ่ม เช่น ที่พัก ก็เลือกที่จองแต่ยังไม่จ่ายตัง
ตั๋วเครื่องบินยังไม่ได้ซื้อ นอกนั้นก็พวกเอกสารการงาน การเงิน การศึกษา ซึ่งมีของเก่าอยู่แล้ว และก็จัดการสมัคร Account และเตรียมกรอก
กรอกเสร็จ ตรวจทาน จ่ายตัง นัดวันสัมภาษณ์ เลือกวันอังคารเพราะปีนี้เป็นวันธงชัย (เน้นเฮงๆ)
ระหว่างรอถึงวันสัมภาษณ์ก็แอบกังวล เพราะจากข้อมูลส่วนใหญ่ในกระทู้หรือคอมเมนต์ต่างๆ บอกผ่านยากและมีหลายทฤษฎี
วันสัมภาษณ์นัดไว้ 9.00 น. ไปจอดรถสวนลุม ถึงประมาณ 7.30 น. เดินเล่นสักพักทำใจนิดนึง (แต่ในใจคิดว่าผ่าน)
ไปถึงสถานทูต คนไม่เยอะมาก ตรวจหมายนัด เก็บมือถือ รอเรียก สแกนนิ้ว และรอไปสัมภาษณ์กับท่านกงสุล
ระหว่างรอต่อคิวสัมภาษณ์ด้วยการยืนต่อคิว ก็มีทั้งผ่านและไม่ผ่าน แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าผ่าน บรรยากาศมันทำให้มั่นใจและคิดว่าผ่านแน่ 5555
พอถึงคิวผม ก็เข้าไปพร้อมกับภรรยาเลยเพราะนามสกุลเดียวกัน แต่ตอนกรอกนัดสัมภาษณ์จองแยกกัน พอหน้างานเจ้าหน้าที่รวบให้ไปเป็นคู่เลย
เปิดเกมด้วยรอยยิ้มและกล่าวสวัสดีกันทั้ง 2 ฝ่ายด้วยภาษาไทย เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ดี
หลังจากนั้นก็ Flow เลย ถามอยู่ 3 คำถาม ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ไปทำอะไรที่อเมริกา / เคยไปประเทศอื่นๆ ไหม / อีกอันจำไม่ได้
ระหว่างถาม ท่านกงสุลก็พิมพ์ไปเรื่อย และก็ยินดีด้วยเอกสารคุณผ่าน และจะส่ง Passport รอ 3 วัน ได้คืน ได้ 10 ปี
ตั้งใจมาบอกว่าทั้งหมดทั้งมวล ถ้าเจตนาดี เอกสารพร้อม ที่เหลือก็ราบรื่นครับผม
end credit ขอวีซ่าว่ายากแล้ว เก็บตังไปเที่ยวยากกว่าเยอะะะะะะ