ทำไมคนถึงนิยมกินไฟเบอร์เสริม?
ควรกินให้ถูกวิธีเพื่อให้ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะเวลารู้สึกแน่นท้องหลังมื้อหนักๆ แต่ถ้ากินผิดเวลา เช่น กินก่อนนอน หรือไม่ดื่มน้ำให้เพียงพอ อาจทำให้ท้องผูกหนักกว่าเดิมได้ แถมบางยี่ห้อยังแอบใส่สารเติมแต่งที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพอีกด้วย
ไฟเบอร์หลักๆ แบ่งเป็น 2 ประเภท
-ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ (Soluble Fiber) เช่น ไซเลี่ยมฮัสก์ (Psyllium Husk) และอินูลิน (Inulin) ละลายน้ำแล้วจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน แถมเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดีๆ ในลำไส้ หรือที่เราเรียกว่าพรีไบโอติกส์นะ
-ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ (Insoluble Fiber) เช่น รำข้าวและธัญพืช มีหน้าที่ดูดน้ำเข้าไป ทำให้อุจจาระนุ่มและช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
ถ้ากินไฟเบอร์ผิดวิธี อาจเจอปัญหาอะไรบ้าง?
-กินแล้วไม่ดื่มน้ำเยอะพอ ไฟเบอร์จะดูดน้ำจากลำไส้ ถ้าน้ำน้อยเกินไป อุจจาระจะกลายเป็นก้อนแข็ง ทำให้ถ่ายลำบาก
-กินก่อนนอน ตอนกลางคืนร่างกายไม่ได้เติมน้ำเยอะ อยู่แล้ว อันนี้ทำให้เกิดปัญหาใหญ่คือ ทำให้ไฟเบอร์ติดแน่นกับผนังลำไส้ อาจเสี่ยงลำไส้อุดตัน
-รบกวนการดูดซึมสารอาหารอื่น เช่น วิตามินที่ละลายในไขมันอาจถูกขับออกไปก่อนที่ร่างกายจะดูดซึมได้เต็มที่
กินไฟเบอร์ยังไงให้ปลอดภัย?
-คิดซะว่าไฟเบอร์เสริมคือผักที่เราไม่ได้อยู่ในจาน ถ้ามื้อไหนไม่มีผักเลย ก็ใช้ไฟเบอร์เสริมเติมเข้าไป
-กินไฟเบอร์ตอนมื้ออาหารหรือหลังอาหาร จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
-ดื่มน้ำตามเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ไฟเบอร์ทำงานได้เต็มที่
-เลี่ยงการกินไฟเบอร์คู่กับอาหารเสริมที่ละลายในไขมัน เพราะอาจลดประสิทธิภาพในการดูดซึม
อยากขับถ่ายดี ไม่ต้องพึ่งไฟเบอร์เสริม ทำยังไง?
จริงๆผมว่าต้องปรับตั้งแต่สาเหตุนะครับ ก็คือเรื่องของพฤติกรรม แค่ปรับตามนี้ระบบขับถ่ายก็ดีขึ้นได้นะครับ
-ลือกกินอาหารที่มีไฟเบอร์จากธรรมชาติก่อน เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช
-เพิ่มโพรไบโอติกส์ เช่น โยเกิร์ต คีเฟอร์ กิมจิ หรือผักดอง หรือจากอาหารเสริมก็ได้ เพราะการที่เราระบบขับถ่ายไม่ดี อาจจะเกิดจากขาดจุลินทรีย์ในลำไส้
-ออกกำลังกายบ่อยๆ การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยให้ลำไส้บีบตัวดีขึ้น
-ดื่มน้ำให้พอ เพราะน้ำเป็นตัวช่วยสำคัญของระบบขับถ่าย
ต้องเข้าใจว่าไฟเบอร์ผงไม่ใช่ยาระบาย และควรกินให้ถูกวิธีเพื่อให้ได้ประโยชน์ และที่สำคัญเลี่ยงการกินก่อนนอน และอย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ถ้าอยากให้ขับถ่ายดีแบบธรรมชาติ ลองเพิ่มโพรไบโอติกส์ ออกกำลังกาย และดื่มน้ำให้พอ
ทำไมคนถึงนิยมกินไฟเบอร์เสริม?
ควรกินให้ถูกวิธีเพื่อให้ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะเวลารู้สึกแน่นท้องหลังมื้อหนักๆ แต่ถ้ากินผิดเวลา เช่น กินก่อนนอน หรือไม่ดื่มน้ำให้เพียงพอ อาจทำให้ท้องผูกหนักกว่าเดิมได้ แถมบางยี่ห้อยังแอบใส่สารเติมแต่งที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพอีกด้วย
ไฟเบอร์หลักๆ แบ่งเป็น 2 ประเภท
-ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ (Soluble Fiber) เช่น ไซเลี่ยมฮัสก์ (Psyllium Husk) และอินูลิน (Inulin) ละลายน้ำแล้วจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน แถมเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดีๆ ในลำไส้ หรือที่เราเรียกว่าพรีไบโอติกส์นะ
-ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ (Insoluble Fiber) เช่น รำข้าวและธัญพืช มีหน้าที่ดูดน้ำเข้าไป ทำให้อุจจาระนุ่มและช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
ถ้ากินไฟเบอร์ผิดวิธี อาจเจอปัญหาอะไรบ้าง?
-กินแล้วไม่ดื่มน้ำเยอะพอ ไฟเบอร์จะดูดน้ำจากลำไส้ ถ้าน้ำน้อยเกินไป อุจจาระจะกลายเป็นก้อนแข็ง ทำให้ถ่ายลำบาก
-กินก่อนนอน ตอนกลางคืนร่างกายไม่ได้เติมน้ำเยอะ อยู่แล้ว อันนี้ทำให้เกิดปัญหาใหญ่คือ ทำให้ไฟเบอร์ติดแน่นกับผนังลำไส้ อาจเสี่ยงลำไส้อุดตัน
-รบกวนการดูดซึมสารอาหารอื่น เช่น วิตามินที่ละลายในไขมันอาจถูกขับออกไปก่อนที่ร่างกายจะดูดซึมได้เต็มที่
กินไฟเบอร์ยังไงให้ปลอดภัย?
-คิดซะว่าไฟเบอร์เสริมคือผักที่เราไม่ได้อยู่ในจาน ถ้ามื้อไหนไม่มีผักเลย ก็ใช้ไฟเบอร์เสริมเติมเข้าไป
-กินไฟเบอร์ตอนมื้ออาหารหรือหลังอาหาร จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
-ดื่มน้ำตามเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ไฟเบอร์ทำงานได้เต็มที่
-เลี่ยงการกินไฟเบอร์คู่กับอาหารเสริมที่ละลายในไขมัน เพราะอาจลดประสิทธิภาพในการดูดซึม
อยากขับถ่ายดี ไม่ต้องพึ่งไฟเบอร์เสริม ทำยังไง?
จริงๆผมว่าต้องปรับตั้งแต่สาเหตุนะครับ ก็คือเรื่องของพฤติกรรม แค่ปรับตามนี้ระบบขับถ่ายก็ดีขึ้นได้นะครับ
-ลือกกินอาหารที่มีไฟเบอร์จากธรรมชาติก่อน เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช
-เพิ่มโพรไบโอติกส์ เช่น โยเกิร์ต คีเฟอร์ กิมจิ หรือผักดอง หรือจากอาหารเสริมก็ได้ เพราะการที่เราระบบขับถ่ายไม่ดี อาจจะเกิดจากขาดจุลินทรีย์ในลำไส้
-ออกกำลังกายบ่อยๆ การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยให้ลำไส้บีบตัวดีขึ้น
-ดื่มน้ำให้พอ เพราะน้ำเป็นตัวช่วยสำคัญของระบบขับถ่าย
ต้องเข้าใจว่าไฟเบอร์ผงไม่ใช่ยาระบาย และควรกินให้ถูกวิธีเพื่อให้ได้ประโยชน์ และที่สำคัญเลี่ยงการกินก่อนนอน และอย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ถ้าอยากให้ขับถ่ายดีแบบธรรมชาติ ลองเพิ่มโพรไบโอติกส์ ออกกำลังกาย และดื่มน้ำให้พอ