เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.thansettakij.com/world/620339
มีการคาดการณ์ว่าในปี 2025 ราคากาแฟจะยิ่งสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว สาเหตุสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้การผลิตกาแฟทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก
กระทบโดยตรงต่อผลผลิตของกาแฟในหลายพื้นที่สำคัญ เช่น บราซิลและเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดในโลก การเกิดภัยแล้งและน้ำท่วมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผลผลิตกาแฟลดลงอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลให้ราคากาแฟเพิ่มสูงขึ้น
บราซิลอยู่ในภาวะภัยแล้งยาวนานเกือบทั้งปี 2024 ในทางกลับกัน อุณหภูมิที่อบอุ่นกว่าปกติได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตกาแฟ และคาดการณ์ว่า ผลผลิตกาแฟของบราซิลในปี 2025/2026 จะแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปี
จากความกังวล ทำให้ราคาของกาแฟอาราบิกาเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าตั้งแต่ต้นปี 2024 อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ราคาน่าจะลดลงและคงที่ในช่วงปี 2025–2026 เมื่อการผลิตเริ่มเพิ่มขึ้น
กาแฟส่วนใหญ่ของโลกมาจาก “เขตกาแฟ” ซึ่งเป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์แนวนอนที่ทอดยาวไปตามเส้นศูนย์สูตรระหว่างเส้นทรอปิกออฟแคปริคอร์นและเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์
ผู้ผลิตกาแฟ 10 อันดับแรกควบคุมอุปทานกาแฟประจำปีทั่วโลก เกือบ 90% ในตารางข้อมูลด้านล่างนี้คือรายละเอียดการผลิตกาแฟแยกตามประเทศในปี 2024
บราซิลเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก
คิดเป็น 38% ของปริมาณการผลิตกาแฟทั่วโลก บราซิลและเวียดนามผลิตกาแฟรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณการผลิตกาแฟทั้งหมดของโลกในแต่ละปี นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังเป็นผู้ส่งออกกาแฟ รายใหญ่ที่สุดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศผลิตกาแฟสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน บราซิลผลิตกาแฟอาราบิกาเป็นหลัก ในขณะที่เวียดนามผลิตกาแฟโรบัสต้าที่ทนความร้อนได้ดีกว่า
โคลอมเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับ 3 เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่ปลูกเฉพาะกาแฟอาราบิกาเท่านั้น เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย
อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ลิ้งค์ข้างต้น
10 ประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่ส่งผลให้ราคากาแฟแพงขึ้น
https://www.thansettakij.com/world/620339
มีการคาดการณ์ว่าในปี 2025 ราคากาแฟจะยิ่งสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว สาเหตุสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้การผลิตกาแฟทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก
กระทบโดยตรงต่อผลผลิตของกาแฟในหลายพื้นที่สำคัญ เช่น บราซิลและเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดในโลก การเกิดภัยแล้งและน้ำท่วมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผลผลิตกาแฟลดลงอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลให้ราคากาแฟเพิ่มสูงขึ้น
บราซิลอยู่ในภาวะภัยแล้งยาวนานเกือบทั้งปี 2024 ในทางกลับกัน อุณหภูมิที่อบอุ่นกว่าปกติได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตกาแฟ และคาดการณ์ว่า ผลผลิตกาแฟของบราซิลในปี 2025/2026 จะแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปี
จากความกังวล ทำให้ราคาของกาแฟอาราบิกาเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าตั้งแต่ต้นปี 2024 อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ราคาน่าจะลดลงและคงที่ในช่วงปี 2025–2026 เมื่อการผลิตเริ่มเพิ่มขึ้น
กาแฟส่วนใหญ่ของโลกมาจาก “เขตกาแฟ” ซึ่งเป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์แนวนอนที่ทอดยาวไปตามเส้นศูนย์สูตรระหว่างเส้นทรอปิกออฟแคปริคอร์นและเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์
ผู้ผลิตกาแฟ 10 อันดับแรกควบคุมอุปทานกาแฟประจำปีทั่วโลก เกือบ 90% ในตารางข้อมูลด้านล่างนี้คือรายละเอียดการผลิตกาแฟแยกตามประเทศในปี 2024
บราซิลเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก
คิดเป็น 38% ของปริมาณการผลิตกาแฟทั่วโลก บราซิลและเวียดนามผลิตกาแฟรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณการผลิตกาแฟทั้งหมดของโลกในแต่ละปี นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังเป็นผู้ส่งออกกาแฟ รายใหญ่ที่สุดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศผลิตกาแฟสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน บราซิลผลิตกาแฟอาราบิกาเป็นหลัก ในขณะที่เวียดนามผลิตกาแฟโรบัสต้าที่ทนความร้อนได้ดีกว่า
โคลอมเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับ 3 เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่ปลูกเฉพาะกาแฟอาราบิกาเท่านั้น เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย
อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ลิ้งค์ข้างต้น