สุริยะ' สั่งย้ายสถานีขนส่ง บขส. 3 แห่ง ทั้ง 'หมอชิต 2-เอกมัย-สายใต้' ควบรวมไปที่ 'กรุงเทพอภิวัฒน์' ที่เดียว

“สุริยะ” ผุดไอเดียย้ายสถานีขนส่ง บขส. 3 แห่ง ควบรวม “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” หนุนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สั่ง สนข. ดึงโมเดลญี่ปุ่นศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 3-4 เดือน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินงานโครงการสำคัญตามนโยบาย ครั้งที่ 1/2568 ตนได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปดำเนินการพิจารณาและศึกษาแนวทางการย้ายสถานีขนส่งหมอชิต 2, สถานีขนส่งเอกมัย และสถานีขนส่งสายใต้ภายใต้การรับผิดชอบของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

พร้อมทั้งศึกษาผลกระทบการดำเนินการ งบประมาณในการก่อสร้าง รวมไปถึงการบริหารการจราจรภายใน และพื้นที่โดยรอบสถานีให้มีความคล่องตัว เพื่อให้การย้ายสถานีขนส่งนี้อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ และนักท่องเที่ยว สามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถไฟไทย รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีน้ำเงิน ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีอื่นๆ

นอกจากนี้ จะสนับสนุนประชาชนให้สามารถเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะระบบรางในอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จากปัจจุบันให้บริการในรถไฟฟ้าสายสีแดง และสีม่วง และจะครอบคลุมทุกสี ทุกสายภายในเดือนกันยายน 2568 ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคมในการเชื่อมโยงการเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ

สำหรับรูปแบบแนวคิดที่จะดำเนินการนั้น จะศึกษาโดยใช้โมเดลจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาพัฒนาและประยุกต์ใช้ในประเทศไทย อาทิ สถานีฮากาตะ ซึ่งเป็นสถานีโดยสารอาคารสูง ภายในอาคารจะมีศูนย์อาหาร และแหล่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้บริการอย่างครบถ้วน ซึ่งในแต่ละชั้น โดยจะแบ่งรถโดยสารแต่ละสายเส้นทาง แบ่งตามภูมิภาค และแบ่งจังหวัดอย่างชัดเจน

“กระทรวงฯ ขอยืนยันว่าเป้าหมายในการย้ายสถานีขนส่ง บขส. ในครั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ยกระดับการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะระบบรางที่เชื่อมต่อในราคาค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายอย่างสะดวก”

ด้านนายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ขณะนี้ สนข. ได้กำหนดแนวคิดรูปแบบการพัฒนาเบื้องต้น คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 – 4 เดือน และในระหว่างนี้ สนข. จะเสนอขอตั้งงบประมาณ เพื่อจ้างที่ปรึกษามาทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ พร้อมออกแบบเบื้องต้น ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาศึกษาอย่างน้อย 12 เดือน  เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการพัฒนาสถานีขนส่งแห่งใหม่ในรูปแบบอาคารสูง จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการเดินทาง และไม่ทำให้เกิดปัญหาจราจรในพื้นที่

โดยการพัฒนาอาคารสูงนั้น จะแบ่งชั้นการให้บริการอย่างชัดเจน เช่น ชั้นสำหรับผู้โดยสารเดินไปทางภาคใต้ และภาคตะวันตก, ชั้นสำหรับผู้โดยสารเดินทางไปภาคเหนือ, ชั้นสำหรับผู้โดยสารเดินทางไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และชั้นสำหรับผู้โดยสารเดินทางไปภาคตะวันออก และพื้นที่โดยรอบกรุงเทพมหานคร (กทม.)

นอกจากนี้ ตัวอาคารผู้โดยสารจะมีการพิจารณาออกเป็นชั้นใต้ดินสำหรับให้รถเมล์ ขสมก. รวมถึงสำหรับรถแท็กซี่ เพื่อให้เข้ามารับส่งผู้โดยสาร ขณะที่ในส่วนของชั้นที่สูงขึ้นไป จะมีการออกแบบ เพื่อทำเป็นพื้นที่เขิงพาณิชย์ อาทิ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถมีที่พักคอยก่อนจะถึงเวลารถออก และรายได้จากการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์นั้น สามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการ และซ่อมบำรุงรักษาตัวอาคารผู้โดยสารได้อีกด้วย

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่