"เที่ยวไปกินไป by laser @ สิงคโปร์ 2024 : เช็งเม้ง 4 : Fort Canning, 168 Kampong Chicken Rice, Jewel Changi Airport"
เป็นตอนที่ 4 ของการไปเช็งเม้ง สิงคโปร์ เพื่อเยี้ยมที่เก็บอัฐิของ Christine เพื่อนชาวสิงคโปร์ ต่อจาก
"เที่ยวไปกินไป by laser @ สิงคโปร์ 2024 : เช็งเม้ง 1 : ของฝากและการเดินทาง"
https://ppantip.com/topic/43137640
"เที่ยวไปกินไป by laser @ สิงคโปร์ 2024 : 2 : Mandai Columbarium" https://ppantip.com/topic/43204570
และ "เที่ยวไปกินไป by laser @ สิงคโปร์ 2024 : 3 : Bugis, M&S, Junggut Laksa, Gardenia Fruit & Nut Loaf"
https://ppantip.com/topic/43208519
วันอาทิตย์ที่ 24-1-24 มาสิงคโปร์ครั้งนี้ สถานที่หนึ่งที่ตั้งใจว่าจะไป คือ อุโมงค์ต้นไม้ Fort Canning
ชวนแฟนไปตั้งแต่เมื่อวาน แต่แฟนผลัดเป็นวันนี้ ถึงเวลาจริงขอพักจึงต้องไปคนเดียว
6.27 น.ออกจากที่พัก The Inn at Temple Street



เดินเข้าซอยข้างที่พักไปออก Pagoda Street 
ลงสถานี MRT Chinatown สีม่วง North East Line (NE4/DT19) 





เป็นสถานีเชื่อมต่อกับอีกสามสาย 
คือ สีเขียว (East West Line/EW) สายสีแดง (North South Line/NS) และสายสีเหลือง (Circle Line/CL)



รอรถฝั่งชานชาลา B





เช้าวันอาทิตย์คนน้อย





ออกจากรถไฟฟ้าที่สถานี Dhoby Ghaut (多美歌/ตัวเหม่ยเกอ/พ่อหล่อลากดิน) (NS24/NE6/CC1)
Dhoby Ghaut เป็นสถานีเชื่อมต่อสามสายแห่งแรกในสิงคโปร์ เป็นสถานี MRT 
ที่ลึกเป็นอันดับสี่ (รองจาก Bras Basah, Promenade และ Bencoolen) ในสิงคโปร์ 
จุดที่ลึกที่สุดอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน 28 เมตร สถานีนี้ได้รับการตั้งชื่อตามคนซักผ้าชาวอินเดีย
ที่ทำงานในบริเวณนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ส่วนของรางระหว่างสถานีนี้กับ Somerset 
เป็นส่วนที่สั้นที่สุดระหว่างสองสถานีในสาย North South Line โดยรถไฟใช้เวลาเดินทาง
ระหว่างสองสถานีนี้เพียง 1 นาที และเป็นหนึ่งในสถานีที่มีผู้โดยสารหนาแน่นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน (วิกิ)



เป็นสถานีขนาดใหญ่หลายชั้นเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสามสายสามสี
เป็นหนึ่งในสามสถานีใจกลาง Orchard Road คือ Dhoby Ghaut，Somerset และ Orchard 



มองหาทางออก B ไป Penang Road







ขึ้นบันไดไป Penang Road



เดินไปที่ป้ายรถประจำทาง Penang Road มองเห็นอาคาร UBS ติดกับ Fort Canning
ซึ่งเป็นที่ตั้งของธนาคารเพื่อการลงทุนและให้บริการทางการเงินข้าม สาขาสิงคโปร์ จากสวิสเซอร์แลนด์



ข้าม Penang Road



ไม่เคยมาจึงเดินตามป้ายไปขึ้นบันไดเลื่อน
ทั้งที่เลี้ยวซ้ายหน้าตึกก็ถึงแล้ว



เดินไปตามป้ายที่บอกทางว่าเชื่อมต่อกับ Fort Canning Park







ข้ามถนนบนเนินเขา มีคนมาวิ่งกำลังกายแต่เช้า



Fort Canning หรือป้อมแคนนิ่งฮิลล์
เดิมรู้จักกันในชื่อ Bukit Larangan หรือ "เนินต้องห้าม" ในภาษามาเลย์ 
ก่อนที่สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ จะมาถึงในปี 1819 ไชาวท้องถิ่นระมัดระวังที่จะขึ้นไปบนเนินเขาแห่งนี้ 
ที่มีความสูงเพียง 60 เมตร เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าเนินเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพระราชวัง
ที่สร้างโดยกษัตริย์บรรพบุรุษของพวกเขา เชื่อกันว่า Keramat Iskandar Shah 
ที่เชิงเนินเขาเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์มาเลย์พระองค์สุดท้ายของเกาะ และเป็นที่เคารพบูชาของชาวมุสลิม 
เป็นสถานที่สำคัญของเมืองมาตั้งแต่มีการบันทึกประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ครั้งแรก 
ป้อมแคนนิ่งฮิลล์เป็นที่อยู่เฉพาะของผู้ปกครองและผู้นำอาณานิคมหลายคนของสิงคโปร์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 
เมื่อป้อมแคนนิ่งฮิลล์เคยเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหรูหราของอดีตกษัตริย์มัชปาหิต จากนั้นในสมัยอาณานิคม 
ป้อมแคนนิ่งฮิลล์จึงกลายมาเป็นที่พักอาศัยของผู้ว่าราชการอาณานิคมตั้งแต่สมัยเซอร์สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์



ภายใต้การปกครองของกองทัพอังกฤษ ป้อมแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ของฐานทัพสิงคโปร์
จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองแผ่ขยายเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 1941 ในเดือนกุมภาพันธ์ 1942 
พลโทอาร์เธอร์ เออร์เนสต์ เพอร์ซิวาล ได้จัดตั้งฐานทัพของกองบัญชาการมลายาที่ป้อมแห่งนี้
เพื่อพยายามป้องกันเกาะจากกองกำลังญี่ปุ่นที่รุกราน แต่ล้มเหลว ญี่ปุ่นยังใช้ป้อมแห่งนี้เพื่อกองทัพ
จนกระทั่งสิ้นสุดการยึดครองในปี 1945 ซึ่งกองทัพอังกฤษได้กลับมาควบคุมอีกครั้ง
ในขณะที่เกาะแห่งนี้เคลื่อนตัวไปสู่การกำหนดชะตากรรมด้วยตนเอง อังกฤษได้ส่งมอบการควบคุมป้อม
ให้แก่กองทัพสิงคโปร์ในปี 1963 และเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของกองพลทหารราบมลายาที่ 4 
จนถึงเดือนธันวาคม 1966 ซึ่งต่อมาป้อมแห่งนี้ก็ถูกส่งมอบให้แก่กองทัพสิงคโปร์ 
กองทัพอากาศสิงคโปร์ดำเนินการสร้างวิทยาลัยการบังคับบัญชาและเสนาธิการของสิงคโปร์บนป้อม 
ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1970



สวนสาธารณะแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นปอดสีเขียวที่สำคัญสำหรับย่านใจกลางเมืองสิงคโปร์อีกด้วย 
การผสมผสานที่ไม่เหมือนใครระหว่างโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ ต้นไม้เขียวชอุ่ม 
และสนามหญ้ากว้างขวางทำให้ Fort Canning เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรมและศิลปะ 
เป็นสถานที่ที่เลือกสำหรับการจัดงานกลางแจ้งและกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น งานรื่นเริง ละคร 
เทศกาลศิลปะ โรงภาพยนตร์แสงดาว และการแสดง Ballet Under the Stars Shakespeare in the Park 
หรือ WOMAD เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ เป็นกิจกรรมประจำของสวนสาธารณะมาตั้งแต่ปี 1998 
อุโมงค์ Fort Canning ทอดผ่านใต้เนินเขาโดยตรง
https://www.singaporeatriumsale.com.sg/post/fort-canning-park-a-history-and-heritage-gem



6.59 น.การที่ไม่เคยมาและขึ้นผิดทางกลับเป็นผลดี เพราะเป็นทางขี้นเขา
ผ่าน Fort Canning Hilltop Garden, Fort Canning Spice Garden และ Fort Canning Tree Tunnel 
ถ้าเดินขึ้นไปถึงยอดเนิน สวนแห่งนี้ยังมองเห็นทัศนียภาพเส้นขอบฟ้าของเมืองอันสวยงามอีกด้วย
การเดินมาทางนี้จะพบด้านบนและทางลงอุโมงค์ต้นไม้ 





เดินลงไปจุดถ่ายรูปย้อนขึ้นไปบนอุโมงค์ต้นไม้



ลงไปถึงบันไดด้านหลังมีคนรอถ่ายรูปแค่สิบกว่าคน ส่วนใหญ่ยินรอให้แสงสว่างกว่านี้
ต้นไม้ที่นักท่องเที่ยวจะมองเห็นเมื่อมองมองผ่านอุโมงบันไดขึ้นไปคือ ต้นจามจุรีสีเหลือง 
หรือที่รู้จักกันในชื่อ Samanea Saman พันธุ์สีเหลือง ต้นจามจุรีเป็นพันธุ์พื้นเมืองของอเมริกากลาง
และปลูกในสิงคโปร์เพื่อเรือนยอดขนาดใหญ่ที่ให้ร่มเงา ต้นไม้สามารถสูงได้ถึง 30 เมตร 
เปลือกไม้เป็นสีน้ำตาลเข้ม หยาบ และเป็นขุยในต้นที่โตเต็มที่
ถ้าต้นจามจุรีโตเต็มที่ แผ่กิ่งก้านขยายออกไปจนทึบ ความสวยงามและเสน่ห์ของอุโมงค์ต้นไม้น่าจะลดลง





โดยปกติผู้คนจะเริ่มรวมตัวกันประมาณ 9.00 น. หรือ 10.00 น. 
เนื่องจากถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่แสงสวย และมีเงาเข้มแบบย้อนแสง (Silhouette) ของต้นไม้เป็นฉากหลัง



เสียดายที่ไไม่เอาเลนส์ตาปลามา ไม่สามารถเก็บภาพเต็มอุโมงค์ต้นไม้





รอจนไม่มีใครขึ้นไปถ่าย 



จึงวานนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียช่วยถ่ายให้ 





7.08 น.ออกจากอุโมงค์ต้นไม้





เดินไปทางอาคาร UBS





ข้าม Penang Road ผ่านป้ายรถประจำทางไปสถานี Dhoby Ghaut (NS24/NE6/CC1)







เดินออกไปดูว่าอยู่ฝั่ง Orchard Road ช่วงไหน
ดูจากแผนที่เป็นช่วงต้นต่อจาก Bras Basah Road
สามารถเดินไปศูนย์การค้า Plaza Sinapura ศูนย์การค้าเก่าแก่บน Orchard Road ได้





กลับเข้าสถานี Dhoby Ghaut (NS24/NE6/CC1) แตะบัตรเครดิตเข้าสถานี