คิดยังไงกับการที่สามีไม่เลี้ยงลูกช่วย

ตอนนี้ลูกเราเกิดได้3เดือนแล้ว ดีที่ยังมีแม่สามีดูแลช่วยบ้าง แต่สามีไม่เคยดูแลลูกช่วยเราเลย เวลาเพื่อนเราถามบอกทำไมไม่เลี้ยงลูกช่วยเราบ้าง เขาบอกว่าเขาเลี้ยงช่วยเรา แต่ในความเป็นจริงแม้แต่เชัดอึลูกสักครั้งยังไม่เคย สามีเราทำงานกับมาบ้านมีคนทำรอไว้ทุกอย่าง ชักผ้าก็แม่ชักให้ทำกับข้าวก็แม่ ทุกอย่างในบ้านคือแม่เขาทำให้ทุกอย่างแม้แต่กางเกงในก็ยังเป็นแม่  เมื่อวานเราเปลี่ยนผ้าอ้อมลูกและปั้มนมไปด้วย พอเสร็จก็เอาลูกนอนแล้วไปล้างขวดนม บอกสามีให้เก็บแพมเพิสที่วางอยู่กับชามนํ้าไปเก็บตั้งแต่ตอน9โมง จนตอนเที่ยงคืนเรากับเข้ามาในห้องสามีนอนแต่ชามนี้และแพมเพิสยังวางอยู่ที่เดิม วันนี้เราปั้มนมเสร็จแล้วแม่สามีบอกกินข้าว แล้วบอกสามีล้างขวดนมแทนเรา สามีเดินหนีเรากินเข้าเสร็จก็ต้องได้มาล้าง พอกลางดึกลูกร้องให้ แล้วเราไปเอาชามนํ้าเพื่อมาเช็คก้นลูก สามีร้องบอกให้ลูกเงียบแต่ไม่คิดจะลุกออกจากที่นอนเพื่อมาก่อมลูกดูลูกช่วยเราเลย มองน้าสามีแล้วเหนื่อย ท้อมาก ช่วงนี้ก็แอบอารมณ์แอ่นไหวนิดหน่อย ชื่อเครื่องปั้มนมมาใหม่แต่พี่สาวของสามีพูดให้ว่าเราใช้เครื่องปั้มนมมา4เครื่องแล้วว่าเราใช้เงินเยอะที่ชื่อใหม่เพราะใช้ตัวมีสายเดินไปไหนรำบาก นั่งท่าเดิมนานๆปวดหลังเจ็บขา เอนหลังก็ไม่ได้จุดหลุดออกจากเต้าเวลาลูกร้องให้ตอนปั้มนมก็ต้องเอามือข้างหนึ่งจังเครื่องปุ้มไว้อีกข้างหนึ่งดูลูก เลยชื้อแบบไร้สายมาจะได้เลี้ยงลูกง่ายๆ แต่เขาไม่ให้เราใช้  ไม่มีใครให้ระบายเก็บกดมานานพอสมควร🥹😅
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อ่านแล้วเหนื่อยแทนเลยครับ เข้าใจความรู้สึกมาก เหมือนคุณกำลังแบกทั้งบ้าน แบกทั้งลูก แถมต้องมาแบกอารมณ์ตัวเองอีก

สามีบางคนติดระบบ "แม่บ้าน full service" มาแต่เด็ก เลยไม่เคยเข้าใจว่าหน้าที่ของ "พ่อ" มันมีมากกว่าแค่ทำงานหาเงิน แล้วบ้านที่มีแม่คอยดูแลทุกอย่างแบบนี้ ยิ่งทำให้เขาไม่เคยต้องลุกขึ้นมาทำอะไรเองเลยแม้แต่นิดเดียว

คือถ้าทำงานกลับมาบ้านเหนื่อย ไม่ลุกมาช่วยเลี้ยงลูกยังพอเข้าใจได้ แต่แค่เก็บแพมเพิส ล้างขวดนม อันนี้มันไม่ใช่เรื่องของความเหนื่อยแล้ว มันคือ "ไม่คิดจะช่วย" มากกว่า

ส่วนเรื่องเครื่องปั๊มนม อันนี้ก็ยิ่งน่าโมโห คุณเป็นแม่ เป็นคนต้องปั๊มนม เลี้ยงลูกเอง แล้วแค่จะซื้อเครื่องที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ยังมีคนมาคอยบ่นว่าใช้เงินเยอะอีก ถ้าคนพูดเป็นสามี นี่ต้องถามกลับว่า "แล้วลูกใคร?" เงินที่ใช้ดูแลลูกก็คือเงินที่ลงทุนกับลูก ไม่ใช่เงินละลายน้ำ

แต่เอาจริงๆ นะ เรื่องแบบนี้มันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยต้องรับผิดชอบอะไรแบบนี้มาก่อน ลองพูดตรงๆ กับสามีไหมครับ ว่ามันไม่แฟร์ที่คุณต้องทำทุกอย่างคนเดียว หรือถ้ายังไม่ฟัง อาจต้องให้เขาได้สัมผัสกับความเหนื่อยของคุณบ้าง เช่น ให้เขาลองเลี้ยงลูกคนเดียวสักวัน รับรองว่าแค่ครึ่งวันก็น่าจะร้องขอชีวิตแล้ว

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะครับ คุณเป็นแม่ที่เก่งและอดทนมาก แต่ความอดทนก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน อย่าปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยจนเกินไป หาทางให้เขาแบ่งเบาภาระบ้าง ไม่งั้นอีกไม่นานจาก "เหนื่อย" อาจกลายเป็น "หมดใจ" ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่