เริ่มเรื่องคือเรากับแฟนเราคบกันมา 10 ปี ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย คุยวาดฝันเรื่องงานแต่งงานกันตลอด ( คุยแบบฝันหวานจินตนาการถึงความสุขนั้นเรื่อยๆ ) จนวันนึงเรียนจบทำงานได้สองสามปี เริ่มมีเงินเก็บเล็กๆก้อนนึง ก็คุยกันจริงจังมากขึ้น ตกลงกันว่าจะแต่งตอน 27 ( แต่ตอนนี้ล่วงเลยวัยนั้นมาแล้วค่ะ ) ไปสอบถามทางบ้านเรื่องสินสอด ก็ได้เรื่องมาว่า ไม่คิดค่าสินสอด ไม่ของานแต่ง เรียกว่าไม่อยากให้จัดงานแต่งเลยค่ะ บ้านเราบอกเหมือนเอาเงินละลายแม่น้ำ ถ้ามีเงินจะจัดงานแต่งเขายกไว้ให้เป็นค่าเทอมหลานที่จะเกิดดีกว่าค่ะ ก็ถือว่าแฮปปี้ไม่มีเรื่องเงินๆทองๆตกลงกันไม่ลงตัวมาให้ปวดหัว เงื่อนไขเดียวคือห้ามทุบตีเราหรือพูดจาดตะคอกใส่เราโดดเด็ดขาด ตายายกับทางบ้านขอแค่นี้ เราสองคนก็ตั้งใจเก็บเงินให้มากๆเพื่อซื้อบ้านซื้อรถ หาค่าเทอมสำรองไว้ ( ตั้งเป้าค่าเทอมโรงเรียนเอกชนแห่งนึงเทอมละแสน ซึ่งเราพอหากันได้ค่ะ ) ตั้งใจว่าเก็บเงินก้อนใหญ่ได้มากพอจะปล่อยท้องเลย แต่เหมือนทางบ้านแฟนเนี้ยเขาชอบนับและคำนวนเงินเดือนเรากับแฟนเราค่ะ ต้องท้าวความก่อนว่าตอนสมัยเรียนมหาลัยสักปี 4 ก็มายืมเงินเรากับแฟน 5 หมื่น พอจบมาสักพักของให้ส่งเงินกงสีเข้าบ้านเข้าเดือนละ 3 พัน หลังจากนั้นมายืมอีกแสนช่วงโควิด แล้วก็มายืมอีกทีละ 5 หมื่น 2 หมื่น คืนบ้างไม่คืนบ้างนั้นเระค่ะ ซึ่งเราตกลงกับแฟนเราว่าพอแล้ว ที่เหลือก็คงไม่ทวงแล้ว ยกให้ไปเลย แต่ขอให้มีการมายืมอีก เราต้องเก็บเงินกันจริงๆให้ตามเป้าหมายสักที ศึ่งเขาก็รับปาก แต่แล้วตรุษจีนที่ผ่านมามาเห็นข้อความขอเงินอีก ซึ่งแฟนเราก็ให้ แล้วบอกว่าเราจะโวยวายอะไรมาก ถือว่าให้อังเปาหลาน แต่มันตั้ง 5 หมื่นเลยนะคะทุกคน หลายอีกคนให้ 4 หมื่นค่ะ ..... รู้แบบนี้แล้วปวดตับร้องไห้น้ำตาแตก ได้แต่ระบายบอกเขาไปว่า ลูกเราละ ลูกเราไม่ต้องกันแล้วหรอ ทุกวันนี้ที่ไม่มีเพราะไม่อยากให้ลูกเกิดมาลำบากแบบเราค่ะ อะไรที่เตรียมพร้อมให้ได้ก็อยากเตรียมเอาไว้ ถึงเวลานั้นมา ไม่ใช่แค่ลูกที่ลำบากค่ะ เราเองก็จะลำบาก แต่บ้านแฟนมาขอไม่หยุดเพราะมองว่าเรายังไม่มีภาระ (คือเราไม่สร้างภาระให้ตัวเองค่ะ ไม่พร้อมก็ไม่ต้องซื้อไม่ต้องมีถือคติแบบนี้มาตลอด ) บ้านแฟนก็ขอเก่ง แฟนก็ให้เก่ง ทุกวันนี้เราใช้ถุงรักษ์โลกเป็นกระเป๋าใบเก่งนะคะ รวมๆแล้วถูกจริตเราค่ะ แต่ในหลายครั้งก็อยากได้กุชชี่ ดิออร์ไรแบบนั้นบ้าง เพราะมานั่งคิดว่า อ่อ..เงินที่ให้คนอื่นเนี่ยจริงๆเอามาซื้อได้สองสามใบอยู่นะเนี่ย สนองความอยากตัวเองบเางจะเป็นไป ประหยัดไม่กินไม่ใช้เพื่อเอาเงินไปให้คนอื่นเขาใช้เนี่ยนะ นึกแล้วก็ขำตัวเองค่ะเหมือนคนโง่เลย คิดแล้วก็ตลกนะคะ ใส่เสื้อผ้าตั้งงบให้ไม่เกินไปตัวละ 300 เป็นผู้หญิงทำงานทุกวัน สามีก็หาได้ไม่น้อยไม่ซื้อแบรนเนมเลยสักชิ้น มันก็ดีค่ะไม่ใช่ไม่ดี แต่ญาติที่มายืมให้กระเป๋าใบละ 5 หมื่นนี้ซิค่ะ เราอยากได้อยากมีแบบผู้หญิงทั่วไปเลยค่ะ แต่ไม่เคยซื้อเพราะคำว่าประหยัดไม่อยากเกินตัวตัวเดียวค่ะ ตลกดีนะคะ หาเงินให้คนอื่นใช้ ตัวเองจะซื้อของสักชิ้นคิดแล้วคิดอีก เกรงใจแฟนว่าเขาทำงานหนัก ไม่กล้าใช้เงิน มีก็อยากให้เก็บไว้ในอนาคตเผื่อลูกเผื่อครอบครัวเราที่จะสร้างกัน
สรุปนะคะ พวกที่ญาติติโกโหติกา พวกปลิงสูบเลือดทั้งหลาย ไม่มีเงินคือต้องไปทำงานค่ะ จะไปขายบริการทางเพศจะไปขโมยร้านทอง เรื่องของคุณเลยค่ะ รับกรรมกันเอง ไม่ต้องมาสาระแหน่ลำบากคนอื่นเขาค่ะ เงินคนอื่นก็คือเงินคนอื่น ไม่มีใครควรต่องมายืมเงินใคร เขามีกองสูงเท่าฟ้าก็เรื่องของเขา เขาหาได้มาจะเอาเงินไปเผ่าเล่นก็เรื่องของเขา ตัวเองไม่มีสิทธิ์มาวุ่นวายมาช่วยใช้ค่ะ ไม่ให้ยืทไม่เท่ากับว่าเขาใจดำนะคะ ทุกคนต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองค่ะ ยิ่งกับคนที่เขามีแฟนวางแผนที่จะมีลูกด้วยกันแล้วยิ่งไม่ควรค่ะ ความเกรงใจหัดมีไว้บ้างนะคะ จะทำชาวบ้านเขาเลิกกันเพราะเรื่องเงินๆทองๆ ฝากไว้ให้คิดนะคะ มารยาทนิดนึงค่ะ
ปล. แฟนเราโตมาแบบตามมีตามเกิดค่ะ พ่อทิ้ง ไม่ไม่ได้หาเลี้ยง ญาติพลัดมือกันไปมา โตมากับโรงเรียนวัดฟรีค่าเทอม เงินกินหาเองบ้าง ได้ทุนจากครูบ้าง แต่พอจบมารุมขอกันอย่างกับอีแร้ง คนน้นก็มีบุญคุณคนนี้ก็มีบุญคุณพ่อ ซึ่งเราเวียนให้ครบทุกคนแล้วนะคะ ซึ่งให้ไปทีแรกถือว่าแทนคุณ ไม่ได้ติดใตอะไรเลยค่ะ แต่ที่ติดใจเอามาพูดตอนนี้คือขอไม่หยุดค่ะ ได้แล้วมาขอใหม่ ใช้หมดมาขอเพิ่ม แม่นี้ตัวดีเลยค่ะ ไม่เลี้ยงไม่ส่งแต่ขอทุกเดือน เดือนไหนโอนช้า ทักไลน์มาเตือยด้วยนะคะ ว่าอย่าลืมส่งเงินมาม๊านะครับ (ขอมองบนค่ะ) แม่อะไรตอนลูกเล็กๆก็เอาไปทิ้งไว้กับญาติ ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงลูกเลย หาเงินมาได้ก็ใช้เองกินเอง ให้ลูกต้องดิ้นร้านลำบาก พอลูกจบโตมา งานละก็ไม่ค่อยอยากทำละ อายุแค่ 40 กว่า ไม่ทำงานละ ขอเงินลูกทุกเดือน กับแฟนเรานี้ก็จะเลิกแล้วละคะ ไม่ไหวกับญาติเขา และการจัดการของเขาแบบนี้
ฝากไว้ให้คิดนะคะพวกหน้าด้าน
ฝากถึงบ้านสามีที่ชอบทักมาขอเงินลูกชายตัวเอง !!