คือเรื่องมีอยู่ว่าเรากับแฟนคบกันได้ระยะหนึ่ง เราไม่อยากให้คนอื่นมองว่าไม่ดีและไม่อยากปิดบังคนในครอบครัวเลยคิดจะแต่งงานกันแต่ฝ่ายชายไม่มีเงินเลยส่วนพ่อแม่ฝ่ายชายเองก็ทำเหมือนไม่ใส่ใจเรื่องนี้ พอคุยเรื่องสินสอดก็บอกว่าไม่มี ฝ่ายเจ้าสาวค่อนข้างมีฐานะ ส่วนฝ่ายชายค่อนข้างลำบาก แต่เพราะรักและอีกอย่างฝ่ายชายดูแลดี นิสัยดี แต่ก็อย่างที่รู้เขาไม่มีเงินขนาดมาสู่ขอได้ เราเลยออกเงินเองทั้งหมด รวมสินสอดและจัดงานประมาณ1ล้าน ถือว่าเยอะพอสมควร เราเองไม่บอกทางบ้านเลยว่าเป็นเงินตัวเองเพราะกลัวว่าพ่อแม่จะรับเขาไม่ได้เลยให้พวกเขาคิดว่าทั้งหมดคือเงินของผู้ชายที่หามาเองอย่างยากลำบาก ผู้ชายเองก็รู้สึกผิดที่ทำแบบนี้ หลังแต่งงานได้ไม่นานมาก แม่ฝ่ายชายเริ่มอยากให้เราทำหน้าที่ลูกสะใภ้เช่นมาดูแลเขาอะไรแบบนี้ (ต้องบอกก่อนว่าเราแยกบ้านอยู่กับแม่สามี) แม่สามีเป็นคนประเภททุกคนต้องหมุนรอบตัวเอง คนรอบข้างต้องเอาอกเอาใจเขา ถ้าพูดไม่ดีหรือทำให้เขาไม่ชอบเขาก็จะเอาไปพูดเสียๆหายๆและชอบพูดบั่นทอนจิตใจ สามีเราเองก็โดนเขาดูถูกและพูดบั่นทอนจิตใจบ่อยๆ เขาไม่เคยสนว่าลูกชายตัวเองจะเป็นตายร้ายดียังไง หลังๆมานี่แม่เขาเริ่มอยากให้เราทำหน้าที่ลูกสะใภ้ เราเลยบอกสามีว่าถ้าอยากให้เราดูแลก็เอาเงินสินสอดมาสิ เราเสียเงินไปเพื่อซื้อตัวเองให้สามีนะ ตอนที่เราขอสินสอดหรือคุยเรื่องนั้นก็เอาแต่เงียบ พอถึงวันแต่งงานก็ไม่มาไม่มีคำอวยพรด้วย ไม่มีอะไรเลยที่เขาทำหน้าที่แม่ เพราะวันแต่งงานญาติเจ้าบ่าวมีแค่ป้ากับลุงแค่นั้น เรารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เจอหน้าแม่สามี เราเลยเลือกไม่ไปเจอเลย ไม่คุยด้วยเพราะรับไม่ได้กับการกระทำที่ไม่ให้เกียรติ ก่อนหน้านี้เราทำดีกับเขาทุกอย่าง ทุกอย่างไรจริงๆ ไม่ว่าจะกวาดบ้านถูบ้านซักผ้าทำทุกอย่างเลยในบ้านเขา แต่เขากลับมานั่งนินทาเราว่าเราเสียๆหายๆ เราเลยหยุดทุกอย่างเลิกคุยแล้วย้ายออกมาอยู่บ้านของตัวเองกับสามีสองคน ทุกคนคิดยังไงกับแม่ผัวแล้วก็เรื่องเงินสินสอดที่เราออกเองกันบ้าง เราควรขอเงินสินสอดจากแม่ผัวไหมเพื่อแลกกับการที่เราไปดูแลเขาหรือไม่ต้องสนใจเขาดี? (ถึงแม้แม่สามีบอกว่าไม่มีเงินแต่เขาก็ไปเที่ยวและซื้อของแพงๆตลอดนะ)
เงินสินสอดและเงินจัดงานแต่งเป็นเจ้าสาวที่ออกเองทุกบาททุกคนคิดยังไง?