ผมเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานที่ยืม ๆๆ ผมจึงเข้าใจภาวะคนไม่มีเงินดี
ปัจจุบันผมไม่ขัดสน ผมกลายเป็นคนโอนเร็ว แต่ผมมี ชุดความคิดเป็นกรอบ
1. ผมขีดวงไว้ใจมาก ไปหาไว้ใจน้อย ใครที่ผมไว้ใจมาก ให้ยืมมาก ไว้ใจน้อยให้ยืมน้อย...
2. ขอเหตุผลในการยืม การส่งคืน (ผมไม่เคยคิดดอกเบี้ย)
3. เมื่อเงินออกจากกระเป๋าผม ผมตีมูลค่าเงินนั้นเป็น 0 ทันที ถ้าเขาส่งคืน ถือว่าเป็นกำไร
4. ถ้าใครบิดพริ้วไม่คืนตามสัญญา ฯลฯ อธิบายไม่ได้ ผมตัดออกจากวงไป คือไม่มีสิทธิที่จะยืมเงินอีก
ยอดที่ให้ยืมมีหลักพัน -หลักแสน คนที่ผมให้ยืมมากที่สุด ห้าแสน เขาขอยืมไปซื้อที่ ขอเวลาสามเดือน เอาที่เข้าธนาคารเสร็จ จะกู้มาคืน ผมก็ให้ ไม่มีการทำสัญญาอะไรทั้งนั้น (แต่เขาก็คืนตรงเวลา)
รวม ๆ ยอดที่ยืมแล้วไม่คืนก็น่าจะเกินแสนไปบ้าง แต่ไม่มากนัก ในกลุ่มที่ไม่คืน เจอหน้าผมก็พูดคุยปกติ ไม่โกรธ เกลียด แต่เขาไม่สามารถยืมผมได้อีก เพราะคนที่ไม่คืน ผมตัดออกจากวงเพื่อน เป็นคนรู้จัก
ผลจากการทำแบบนี้ ผมมีเพื่อนลดลงไปเรื่อย ๆ แต่มีคนเคยรู้จักเพิ่มขึ้น...
ท่านอื่นอาจจะมีชุดความคิดที่แตกต่างไป ทำไง ให้ ไม่ให้ มาแชร์กันครับ
เล่าให้ฟัง "เพื่อน ยืมเงิน " ผมทำไง
ปัจจุบันผมไม่ขัดสน ผมกลายเป็นคนโอนเร็ว แต่ผมมี ชุดความคิดเป็นกรอบ
1. ผมขีดวงไว้ใจมาก ไปหาไว้ใจน้อย ใครที่ผมไว้ใจมาก ให้ยืมมาก ไว้ใจน้อยให้ยืมน้อย...
2. ขอเหตุผลในการยืม การส่งคืน (ผมไม่เคยคิดดอกเบี้ย)
3. เมื่อเงินออกจากกระเป๋าผม ผมตีมูลค่าเงินนั้นเป็น 0 ทันที ถ้าเขาส่งคืน ถือว่าเป็นกำไร
4. ถ้าใครบิดพริ้วไม่คืนตามสัญญา ฯลฯ อธิบายไม่ได้ ผมตัดออกจากวงไป คือไม่มีสิทธิที่จะยืมเงินอีก
ยอดที่ให้ยืมมีหลักพัน -หลักแสน คนที่ผมให้ยืมมากที่สุด ห้าแสน เขาขอยืมไปซื้อที่ ขอเวลาสามเดือน เอาที่เข้าธนาคารเสร็จ จะกู้มาคืน ผมก็ให้ ไม่มีการทำสัญญาอะไรทั้งนั้น (แต่เขาก็คืนตรงเวลา)
รวม ๆ ยอดที่ยืมแล้วไม่คืนก็น่าจะเกินแสนไปบ้าง แต่ไม่มากนัก ในกลุ่มที่ไม่คืน เจอหน้าผมก็พูดคุยปกติ ไม่โกรธ เกลียด แต่เขาไม่สามารถยืมผมได้อีก เพราะคนที่ไม่คืน ผมตัดออกจากวงเพื่อน เป็นคนรู้จัก
ผลจากการทำแบบนี้ ผมมีเพื่อนลดลงไปเรื่อย ๆ แต่มีคนเคยรู้จักเพิ่มขึ้น...
ท่านอื่นอาจจะมีชุดความคิดที่แตกต่างไป ทำไง ให้ ไม่ให้ มาแชร์กันครับ