ผมเป็นคน GenX รุ่นหลาน ที่เห็นการเติบโตของครอบครัวตัวเอง กับอีกครอบครัวหนึ่งที่มีคุณทวดร่วมกัน แต่มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเลยขอบันทึกไว้ใน Pantip นี้สักหน่อย
บ้านผมเองนั้น คุณตาเป็นลูกคนโต ได้รับการศึกษาเป็นอย่างดีจึงส่งเสริมลูกทุกคน (แม่และน้า ๆ) ให้เรียนเก่ง ๆ เข้าไว้ จึงทำให้ทุกคนเรียนในโรงเรียนดังของรัฐบาล และพยายามสอบเข้าโรงเรียนชั้นนำแถวสยาม และเข้ามหาวิทยาลัยแถวสามย่านเป็นหลัก ในเส้นทางสายแพทย์และด้านบัญชีบริหาร
กับอีกบ้านหนึ่งเป็นลูกชายคนรอง ที่ต้องออกมาช่วยงานให้ทางบ้าน จึงไม่ได้ร่ำเรียนสูงมากนักแต่มีโอกาสทำธุรกิจอย่างจริงจัง เมื่อถึงคราวรุ่นลูกจึงมีความคิดให้เรียนในโรงเรียนคาธอลิกเอกชนเพราะเห็นว่าเป็นสังคมพ่อค้านักธุรกิจเหมือน ๆ กัน และเมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่เน้นแข่งขันมาก ส่วนมากจึงเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนเน้นทางด้านบริหารธุรกิจเป็นหลัก
ผ่านมาจนปัจจุบัน ผมเข้าสู่วัยชรา เห็นน้า ๆ อา ๆ ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันก็อดคิดไม่ได้ว่าเส้นทางชีวิตคนนั้นมีหลากหลาย และมีทางเลือกเยอะมาก และมันก็มาบรรจบกันในวันหนึ่ง...
บ้านแรกของผมเองนั้น บั้นปลายทุกคนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่ไม่หวือหวา ทุกคนค่อย ๆ ทำงานของตัวเอง ที่เรียนแพทย์ก็อยู่โรงพยาบาลมีรายได้สูง ที่เรียนบริหารก็เน้นทำงานในสถาบันการเงินที่มั่นคงจนเป็นระดับบริหาร จนเกษียณก๊สะสมรายได้พอสมควรไม่มีใครเดือดร้อน ส่งลูกเรียนต่อได้ไม่ลำบาก ส่วนใหญ่ก็เน้นเรียนโรงเรียนสาธิตและต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศ
อีกบ้านหนึ่งนั้นแตกต่าง ด้วยการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างลำบากในตอนแรก ทำให้ทุกคนขยันมากและเมื่อทำธุรกิจก็มีขึ้นมีลง บางครั้งก็ฝืดเคืองแต่เมื่อผ่านมาได้ก็รุ่งเรือง จนบั้นปลายบ้านนี้มีคอนเน็คชั่นที่ทำให้ธุรกิจขยายตัวได้มากมาย ทุกคนร่ำรวยมาก ส่งลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์และเข้ามหาวิทยาลัยต่างประเทศกันเป็นส่วนใหญ่
ทั้งสองบ้านมาบรรจบพบกันเพราะครอบครัวแรกเป็นสายวิชาชีพ มีความรู้และประสบการณ์สะสม ในขณะที่อีกครอบครัวหนึ่งมีเงินทุน มีคอนเน็คชั่น จึงทำให้ง่ายที่จะคนรุ่นหลานจะลงขันเปิดบริษัทร่วมกันโดยใช้เส้นทางที่คนรุ่นแรกบุกเบิกไว้ให้
เห็นใน pantip มีถามบ่อย ๆ ว่าเรียนเส้นทางไหนดี โรงเรียนรัฐ โรงเรียนเอกชน โรงเรียนอินเตอร์ โรงเรียนทางเลือก ฯลฯ ผมว่าทางไหนก็ดีหมดหากดูแล้วมันเหมาะกับครอบครัวเรา เพราะไม่มีสูตรสำเร็จที่จะเลียนแบบตามกันได้
ขออย่างเดียวคิอต้องมีแผนและเดินตามแผนนั้นให้ได้ อย่าปล่อยให้ลูกโตมาตามยถากรรมหรือปล่อยให้โตโดยไม่มีทิศทางเท่านั้นครับ
ประสบการณ์ระยะยาวของ 2 บ้านที่เลือกเรียนต่างกันระหว่างโรงเรียนเอกชน กับโรงเรียนรัฐสายวิชาการ ชีวิตต่างกันแค่ไหน...
บ้านผมเองนั้น คุณตาเป็นลูกคนโต ได้รับการศึกษาเป็นอย่างดีจึงส่งเสริมลูกทุกคน (แม่และน้า ๆ) ให้เรียนเก่ง ๆ เข้าไว้ จึงทำให้ทุกคนเรียนในโรงเรียนดังของรัฐบาล และพยายามสอบเข้าโรงเรียนชั้นนำแถวสยาม และเข้ามหาวิทยาลัยแถวสามย่านเป็นหลัก ในเส้นทางสายแพทย์และด้านบัญชีบริหาร
กับอีกบ้านหนึ่งเป็นลูกชายคนรอง ที่ต้องออกมาช่วยงานให้ทางบ้าน จึงไม่ได้ร่ำเรียนสูงมากนักแต่มีโอกาสทำธุรกิจอย่างจริงจัง เมื่อถึงคราวรุ่นลูกจึงมีความคิดให้เรียนในโรงเรียนคาธอลิกเอกชนเพราะเห็นว่าเป็นสังคมพ่อค้านักธุรกิจเหมือน ๆ กัน และเมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่เน้นแข่งขันมาก ส่วนมากจึงเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนเน้นทางด้านบริหารธุรกิจเป็นหลัก
ผ่านมาจนปัจจุบัน ผมเข้าสู่วัยชรา เห็นน้า ๆ อา ๆ ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันก็อดคิดไม่ได้ว่าเส้นทางชีวิตคนนั้นมีหลากหลาย และมีทางเลือกเยอะมาก และมันก็มาบรรจบกันในวันหนึ่ง...
บ้านแรกของผมเองนั้น บั้นปลายทุกคนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่ไม่หวือหวา ทุกคนค่อย ๆ ทำงานของตัวเอง ที่เรียนแพทย์ก็อยู่โรงพยาบาลมีรายได้สูง ที่เรียนบริหารก็เน้นทำงานในสถาบันการเงินที่มั่นคงจนเป็นระดับบริหาร จนเกษียณก๊สะสมรายได้พอสมควรไม่มีใครเดือดร้อน ส่งลูกเรียนต่อได้ไม่ลำบาก ส่วนใหญ่ก็เน้นเรียนโรงเรียนสาธิตและต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศ
อีกบ้านหนึ่งนั้นแตกต่าง ด้วยการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างลำบากในตอนแรก ทำให้ทุกคนขยันมากและเมื่อทำธุรกิจก็มีขึ้นมีลง บางครั้งก็ฝืดเคืองแต่เมื่อผ่านมาได้ก็รุ่งเรือง จนบั้นปลายบ้านนี้มีคอนเน็คชั่นที่ทำให้ธุรกิจขยายตัวได้มากมาย ทุกคนร่ำรวยมาก ส่งลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์และเข้ามหาวิทยาลัยต่างประเทศกันเป็นส่วนใหญ่
ทั้งสองบ้านมาบรรจบพบกันเพราะครอบครัวแรกเป็นสายวิชาชีพ มีความรู้และประสบการณ์สะสม ในขณะที่อีกครอบครัวหนึ่งมีเงินทุน มีคอนเน็คชั่น จึงทำให้ง่ายที่จะคนรุ่นหลานจะลงขันเปิดบริษัทร่วมกันโดยใช้เส้นทางที่คนรุ่นแรกบุกเบิกไว้ให้
เห็นใน pantip มีถามบ่อย ๆ ว่าเรียนเส้นทางไหนดี โรงเรียนรัฐ โรงเรียนเอกชน โรงเรียนอินเตอร์ โรงเรียนทางเลือก ฯลฯ ผมว่าทางไหนก็ดีหมดหากดูแล้วมันเหมาะกับครอบครัวเรา เพราะไม่มีสูตรสำเร็จที่จะเลียนแบบตามกันได้
ขออย่างเดียวคิอต้องมีแผนและเดินตามแผนนั้นให้ได้ อย่าปล่อยให้ลูกโตมาตามยถากรรมหรือปล่อยให้โตโดยไม่มีทิศทางเท่านั้นครับ