"สัมมาสัมโพธิ เป็นชื่อของการเห็นแจ้งชัดว่า...
ไม่มี...ธรรมใดเลย ที่ไม่เป็นโมฆะ
ถ้าเราเข้าใจความจริงข้อนี้แล้ว...ของหลอกลวงทั้งหลาย จะมีประโยชน์อะไร แก่เรา
ปรัชญา คือการรู้แจ้ง
ความรู้แจ้ง คือจิต ต้นกำเนิดดั้งเดิม
ซึ่งปราศจากรูป ถ้าเราสามารถทำความเข้าใจได้ ว่า...ผู้กระทำ และสิ่งที่ถูกกระทำ คือจิต และวัตถุ เป็นสิ่ง สิ่งเดียวกัน
นั่นแหละ จะนำเราไป สู่...
ความเข้าใจอันลึกซึ้ง และลึกลับเหนือคำพูด
และโดยความเข้าใจอันนี้เอง
พวกเราจะได้ลืมตา ต่อสัจธรรมที่แท้จริง
ด้วยตัวเราเอง
สัจธรรมที่แท้จริง ของเรานั้น...
ไม่ได้หายไปจากเรา แม้ในขณะที่เรากำลังหลงผิดอยู่...ด้วยอวิชชา และไม่ได้รับกลับมา
ในขณะที่เรา มีการตรัสรู้
มันเป็นธรรมชาติ แห่งภูตัตถตา
ในธรรมชาตินี้...
ไม่มี...ทั้งอวิชชา ไม่มี...ทั้งสัมมาทิฏฐิ
มันเต็มอยู่ ใน...ความว่าง
เป็นเนื้อหาอันแท้จริง ของจิตหนึ่งนั้น
เมื่อเป็นดังนั้นแล้ว...
อารมณ์ต่างๆ ที่จิตของเราได้สร้างขึ้น
ทั้งฝ่ายนามธรรม และฝ่ายรูปธรรม
จะเป็นสิ่งซึ่ง อยู่...ภายนอกความว่างนั้น
ได้อย่างไร
โดยหลักมูลฐานแล้ว ความว่างนั้น...
เป็นสิ่งซึ่งปราศจากมิติต่างๆ
แห่งการกินเนื้อที่ คือ...ปราศจากกิเลส
ปราศจากกรรม ปราศจากอวิชชา
และปราศจากสัมมาทิฏฐิ
พวกเราต้องทำความเข้าใจ
อย่างกระจ่างแจ้งว่า...โดยแท้จริงแล้ว
ไม่มี...อะไรเลย
ไม่มี...มนุษย์สามัญ
ไม่มี...พุทธทั้งหลาย
เพราะว่า...ในความว่าง นั้น...
ไม่มี...อะไรบรรจุอยู่ แม้เท่าเส้นขนที่เล็กที่สุด
อันเป็นสิ่ง ซึ่งสามารถจะมองเห็นได้โดยทางมิติ หรือกฏแห่งการกินเนื้อที่เลย มันไม่ต้องอาศัยอะไร และไม่ติดเนื่องอยู่...กับสิ่งใด
มันเป็นความงาม ที่ไร้ตำหนิ
เป็นสิ่งซึ่งอยู่ได้ ด้วยตัวมันเอง และเป็นสิ่งสูงสุด
ที่ไม่มี...อะไรสร้างขึ้น มันเป็นเพชรพลอย
ที่อยู่...เหนือการตีค่าทั้งปวงเสียจริงๆ
เรา ต้องแยกรูป ถอดด้วยวิชชามรรคจิต
เหตุ ต้องละ
ผล ต้องรับใช้
หนี้ ก็หมด
พ้น...เหตุเกิด."
___________________________________________
จิต คือพุทธะ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล.
ไม่มีธรรมใดเลยที่ไม่เป็นโมฆะ
ไม่มี...ธรรมใดเลย ที่ไม่เป็นโมฆะ
ถ้าเราเข้าใจความจริงข้อนี้แล้ว...ของหลอกลวงทั้งหลาย จะมีประโยชน์อะไร แก่เรา
ปรัชญา คือการรู้แจ้ง
ความรู้แจ้ง คือจิต ต้นกำเนิดดั้งเดิม
ซึ่งปราศจากรูป ถ้าเราสามารถทำความเข้าใจได้ ว่า...ผู้กระทำ และสิ่งที่ถูกกระทำ คือจิต และวัตถุ เป็นสิ่ง สิ่งเดียวกัน
นั่นแหละ จะนำเราไป สู่...
ความเข้าใจอันลึกซึ้ง และลึกลับเหนือคำพูด
และโดยความเข้าใจอันนี้เอง
พวกเราจะได้ลืมตา ต่อสัจธรรมที่แท้จริง
ด้วยตัวเราเอง
สัจธรรมที่แท้จริง ของเรานั้น...
ไม่ได้หายไปจากเรา แม้ในขณะที่เรากำลังหลงผิดอยู่...ด้วยอวิชชา และไม่ได้รับกลับมา
ในขณะที่เรา มีการตรัสรู้
มันเป็นธรรมชาติ แห่งภูตัตถตา
ในธรรมชาตินี้...
ไม่มี...ทั้งอวิชชา ไม่มี...ทั้งสัมมาทิฏฐิ
มันเต็มอยู่ ใน...ความว่าง
เป็นเนื้อหาอันแท้จริง ของจิตหนึ่งนั้น
เมื่อเป็นดังนั้นแล้ว...
อารมณ์ต่างๆ ที่จิตของเราได้สร้างขึ้น
ทั้งฝ่ายนามธรรม และฝ่ายรูปธรรม
จะเป็นสิ่งซึ่ง อยู่...ภายนอกความว่างนั้น
ได้อย่างไร
โดยหลักมูลฐานแล้ว ความว่างนั้น...
เป็นสิ่งซึ่งปราศจากมิติต่างๆ
แห่งการกินเนื้อที่ คือ...ปราศจากกิเลส
ปราศจากกรรม ปราศจากอวิชชา
และปราศจากสัมมาทิฏฐิ
พวกเราต้องทำความเข้าใจ
อย่างกระจ่างแจ้งว่า...โดยแท้จริงแล้ว
ไม่มี...อะไรเลย
ไม่มี...มนุษย์สามัญ
ไม่มี...พุทธทั้งหลาย
เพราะว่า...ในความว่าง นั้น...
ไม่มี...อะไรบรรจุอยู่ แม้เท่าเส้นขนที่เล็กที่สุด
อันเป็นสิ่ง ซึ่งสามารถจะมองเห็นได้โดยทางมิติ หรือกฏแห่งการกินเนื้อที่เลย มันไม่ต้องอาศัยอะไร และไม่ติดเนื่องอยู่...กับสิ่งใด
มันเป็นความงาม ที่ไร้ตำหนิ
เป็นสิ่งซึ่งอยู่ได้ ด้วยตัวมันเอง และเป็นสิ่งสูงสุด
ที่ไม่มี...อะไรสร้างขึ้น มันเป็นเพชรพลอย
ที่อยู่...เหนือการตีค่าทั้งปวงเสียจริงๆ
เรา ต้องแยกรูป ถอดด้วยวิชชามรรคจิต
เหตุ ต้องละ
ผล ต้องรับใช้
หนี้ ก็หมด
พ้น...เหตุเกิด."
___________________________________________
จิต คือพุทธะ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล.