ฟรุคโตสคือน้ำตาลธรรมชาติที่พบในผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล ลูกแพร์ และน้ำผึ้ง
ส่วนน้ำตาลทรายที่เราใช้ทั่วไป (ซูโครส) ประกอบด้วยกลูโคส 50% และฟรุคโตส 50%

เมื่อเราบริโภคฟรุคโตส ร่างกายจะส่งไปที่ตับเพื่อเผาผลาญเป็นพลังงาน 
แต่หากได้รับมากเกินไป โดยเฉพาะจากน้ำตาลที่เติมเข้าไป (เช่น ในเครื่องดื่มหรืออาหารแปรรูป) 
อาจทำให้ตับทำงานหนัก และนำไปสู่การสะสมไขมันในตับได้

ฟรุคโตส vs HFCS
HFCS ย่อมาจาก High Fructose Corn Syrub
ผลืตจากข้าวโพด

กระบวนการผลิตทำในโรงงานจึงผลิตได้ในปริมาณเยอะ ทำให้มีราคาถูก
น้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุคโตสสูง (HFCS) เป็นฟรุคโตสที่ผ่านการแปรรูป
 มักพบในเครื่องดื่มและอาหารสำเร็จรูป โดยในร้านกาแฟสมัยใหม่มักใช้ เป็นไซหรับในการเพื่มความหวานให้กาแฟ
การบริโภค HFCS มากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วนและเบาหวาน
เพราะ HFCS ไปเปลี่ยนสวิทซ์การเผาผลาญของร่างกายจากการเผาผลาญไปสู่การเก็บสะสมไขมัน

แต่ฟรุคโตสจากผลไม้ทั้งผลไม่ใช่ปัญหา
 เพราะมีไฟเบอร์และสารอาหารที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ทำให้ร่างกายจัดการได้ดีกว่า

เคล็ดลับบริโภคฟรุคโตสอย่างชาญฉลาด

1 เลือกผลไม้ทั้งผลแทนน้ำผลไม้หรืออาหารแปรรูป
ฟรุคโตสจากธรรมชาติในผลไม้ แม้อาจมีพิษเล็กๆต่อร่างกาย แต่เปลือกของผลไม้นั้นแก้พิษได้
ดังนันจึงควรกินผลไม้ทั้งเปลือก ยกเว้นทุเรียนที่กินทั้งเปลือกไม่ได้ 55

2 จำกัดการบริโภคเครื่องดื่มรสหวานและอาหารที่มี HFCS
ถ้าเข้าไปกินกาแฟในร้านกาแฟสมัยใหม่อย่าให้เขาใส่ไซหรับ บอกว่าไม่หวานไปเลย

3 ปรับสมดุลอาหาร โดยเน้นโปรตีน ไขมันดี และไฟเบอร์
โปรตีนสร่งกล่ามเนื้อ ช่วยการเผาผลาญ
ไขมันดีเป็นตัวพาวิตามินที่ละลายในไขมันได้ไปใช้ประโยชน์ในร่างกาย
ไฟเบอร์ช่วยขับถ่าย

สรุป
ฟรุคโตสไม่ใช่ศัตรู หากบริโภคจากแหล่งธรรมชาติในปริมาณที่เหมาะสม 
แต่การบริโภคน้ำตาลแปรรูปมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ 
ดังนั้น การเลือกอาหารอย่างมีสติคือกุญแจสำคัญสู่สุขภาพที่ดี!
#lekredmanee