มาดูตรงคาเฟอีนกันค่ะ สำหรับคาเฟอีนในชาเขียวจะมีต่ำกว่ากาแฟอยู่แล้ว
ส่วนเจ้าตัวมัทฉะ จะมีคาเฟอีนที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าชาเขียว แต่ไม่มากกว่ากาแฟ แต่ก็ควรกินแค่พอประมาณ
แล้วข้อดีของตัวมัทฉะ มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

ประโยชน์ของมัทฉะ
1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ซึ่งเป็นสารประกอบตามธรรมชาติที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์และให้ประโยชน์ต่อสุขภาพอื่นๆ ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและมะเร็งได้

2. ช่วยให้จิตใจความสงบ ผ่อนคลาย เพราะมัทฉะมีกรดอะมิโนแอล-ธีอะนีน (amino acid L-Theanine) ซึ่งจะช่วยเพิ่มคลื่นอัลฟ่าในสมอง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายโดยไม่รู้สึกง่วงนอน ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ แอล-ธีอะนีนยังช่วยเพิ่มสมาธิและความจำ 

3. บำรุงหัวใจ
การบริโภคมัทฉะเป็นประจำสามารถช่วยบำรุงหัวใจได้เนื่องจากมีผลในการลดคอเลสเตอรอล 

4. ให้พลังงาน
มัทฉะให้พลังงานที่อ่อนโยน เนื่องจากการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของคาเฟอีนจากธรรมชาติและแอล-ธีอะนีน ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง ซึ่งแตกต่างจากกาแฟซึ่งสามารถทำให้หัวใจเต้นเร็วเกินได้ คาเฟอีนในมัทฉะจะถูกปล่อยออกมาอย่างช้าๆ ทำให้ระดับพลังงานคงที่ (แต่หากใช้ผงมัทฉะมากเกินไปในเครื่องดื่ม 1 แก้ว อาจทำให้สั่นได้ ควรบริโภคแบบพอดี) 

5. ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
การศึกษาชี้ให้เห็นว่าคาเทชินในมัทฉะสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันได้ ซึ่งสามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายการลดน้ำหนักได้ง่ายและเร็วขึ้น มัทฉะสามารถเป็นตัวช่วยเสริมที่ดีสำหรับการไดเอทและการใช้ชีวิตในประจำวัน (มาถึงตรงนี้ เจ้าของกระทู้ก็ขอยกเพียวมัทฉะดื่มสักหน่อย)

6. ล้างพิษในร่างกาย
คลอโรฟิลล์ที่มีอยู่ในมัทฉะ (ซึ่งทำให้มีสีเขียวสดใส) ขจัดสารพิษที่เป็นอันตรายออกจากระบบร่างกาย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตับ
7. ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
การรวมกันของสารต้านอนุมูลอิสระ, แอล-ธีอะนีน, EGCG (Epigallocatechin Gallate) และวิตามินต่างๆ ที่มีอยู่ในมัทฉะทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
เห็นประโยชน์ขนาดนี้แล้วก็ต้องเริ่มดื่มเพียวมัทฉะกันแล้วละ
สำหรับวงการเพียวมัทฉะที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ตอนนี้ เราสามารถซื้อมาชงเองที่บ้านก็ได้(แต่ก็ต้องกะปริมาณให้พอดี) หรือจะสั่งตามร้านเครื่องดื่มที่เมนู “มัทฉะ” ก็ได้เหมือนกันค่ะ
ส่วนตัวเจ้าของกระทู้นั้นนนน เน้นสั่งมาดื่มแทนชงเองค่า ส่วนตัวเคยชงเองแต่รู้สึกว่าตัวเองใส่ผงมัทฉะมากเกินไป และบางทีคนไม่ละลาย สุดท้ายก็เอาเจ้าผงมัทฉะที่ซื้อมามากส์หน้าแทน (อันนี้เริดจริงค่ะ) กลับเข้าเรื่องเพียวมัทฉะของเรากันดีกว่า

จริงๆ ที่เลือกกินของอเมซอน เพราะก่อนหน้าเคยมีกินของแบรนด์อื่นมาแล้ว แต่คือมันขมกินไม่ได้เลย แบบ ไม่ไหวจริงๆ ลองมาหลายร้านล่ะ 
ก็เลยรู้สึกว่า อเมซอนกินง่ายสุด (ปล.ความรู้สึกส่วนตัวน๊า)
สำหรับผู้เริ่มต้นเข้าวงการนี้ แนะนำเริ่มต้นที่ มัทฉะลาเต้ สัมผัสนุ่มลื่นคอไม่หวาน ไม่ขม กำลังดีสำหรับผู้เริ่มต้น
โดยปกติเรามีตัว มัทฉะลาเต้ที่เป็นสินค้า Home Use ของ Café Amazon ไว้ติดบ้านและที่ทำงานอยู่แล้ว เพราะอร่อยยย 
เพียวมัทฉะของ Café Amazon คือ มัทฉะที่ใช่ รสชาตินี้ก็ใช่เลย ดื่มง่าย ดื่มแล้วไม่ปวดหัว ปริมาณพอดี ไม่เยอะเกินไป ไม่หนักคาเฟอีน สำหรับเราที่กินแต่มัทฉะลาเต้ ตามด้วยมัทฉะฮันนี่และค่อยๆ ลดความหวานเพราะห่วงสุขภาพ ก็เลยยึดเพียวมัทฉะ ของที่นี่เป็นร้านหลักๆ หาง่าย กินแล้วถูกปาก
ก็อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ลองเปิดใจกับการดื่มเพียวมัทฉะดูนะคะ
อ่อ สำหรับคนที่เชียร์แบรนด์นั้นเราจะบอกว่าเราดื่มแบรนด์นั้นไม่ได้นะคะไม่ต้องเชียร์ค่ะ ทั้งชาเขียว ชาไทย กาแฟ จนมามัทฉะ ขออภัยที่เรากินแล้วปวดหัวมาก และใจสั่นขั้นสุด สำหรับเราเราว่าเค้าเข้มเกิน เข้มแบบ เข้มเกิ๊นนนน แบบตะโกนค่ะ
แต่แบรนด์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้แนะนำได้นะคะ อย่างแบรนด์ OneTwo น่าจะใช่นะ เพื่อนเคยซื้อมาให้อร่อยดื่มได้ แต่ก็หาร้านนี้ยาก