ปุยฝ้าย's Mystery

ด้วยความที่เราเป็นคนฉีกเหงือก กางหลาง (ภาษาใต้) หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะชอบทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่(ก่อน) ในหลายๆ เรื่อง

เราจึงเลือกการทำปุยฝ้ายที่ไม่ใช่สูตรครูตุ้ม และกระทั่งตอนนี้ยังไม่เคยทำสูตรครูตุ้ม 

ซึ่งเราก็อยู่ในกลุ่มเบเกอรีใน FB พบว่าน่าจะ > 90% ทำสูตรครูตุ้ม

เราเริ่มจากสูตรเชพที่เราชอบทำตามใน Youtube ซึ่งอร่อยทุกอย่าง (เท่าที่เคยทำ) จะมีแค่สัดส่วนไส้บางอย่างที่เคยทำ ที่มากเกินปริมาณซึ่งเชฟเองก็มาหมายเหตุไว้ ไม่แน่ใจว่าในคอมเม้นท์หรือใน Detail แต่เป็นประเภทไม่อ่านให้จบไง ทำตามไปเรื่อยๆ 

(รอบแรกจะดูคร่าวๆ แค่ว่ามีอุปกรณ์ละวัตถุดิบครบมั้ย พอครบก็ทำตามเลย)

มาที่ปุยฝ้าย สูตรนี้เชฟหมายเหตุได้ตรงจริตคนฉีกเหงือกแบบเราคือเขียนไว้บนหัวข้อคลิปเลยว่า ไม่ใช่สูตรครูตุ้ม 

(ส่วนหนึ่งก็รู้สึกว่าการไม่ทำตามสูตรครูตุ้มอาจจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ตลาด และปกติที่กินสูตรตามตลาดก็รู้สึกไม่ว้าวเท่าไร 

ก็คือปุยฝ้ายปกติ เราชอบปุยฝ้ายไม่ปกติไง)

ด้วยความที่อยู่คอนโด และไม่ได้ทำอาหาร ทำแต่เค้ก เลยไม่มีเตาไม่ว่าจะแก๊สหรือไฟฟ้า มีแค่เตาอบและหม้ออเนกประสงค์ ก็ควบคุมไฟไม่ได้มาก 

แต่ครั้งแรกที่ทำออกมาคืออร่อยมากกกกกกกกกกก เป็นรสชาติที่ว๊าวววววววว รสชาติที่ไม่พบในท้องตลาดทั่วไป 

ซึ่งการทำก็ต่างจากสูตรปกติ คือจะตีน้ำเย็น น้ำตาล และ SP จนขึ้นฟู แล้วค่อยใส่ไข่ไก่ นมข้น กลิ่น และแป้งตบท้าย

ซึ่งดูมาหลายคลิป หลายๆ คนบอกว่า เนื้อเค้กจะต้องไหลเป็นสายเหมือนริบบิ้น ขนมถึงจะขึ้นฟูและหน้าแตก ซึ่งสูตรของเชฟคนนี้เนื้อจะเป็นเด้งๆ ไม่ไหลเป็นริบบิ้น แต่ก็เห็นในคลิปเชฟทำฟูและหน้าแตกสวยปกติเลย แต่ของเราออกมาแบบนี้  

ซึ่งเราก็เอามาขายเล่นๆ ใน Office นะ เขียนชื่อว่า ปุยฝ้ายแห่งความสำเร็จ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่หน้าแตก xD

พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ที่ขายไม่ได้เท่าไร แต่ก็ขายได้เพราะบางคนเป็นสายมูเลยกินเอาคำอวยพร

ซึ่งมีพี่ทำงานตอนแรกสั่งขนมเค้กล่วงหน้าเพื่ีอไหว้ตรุษจีนแค่ใส่สีแดง เพื่อเอาไปแทนปุยฝ้าย เพราะว่าจะได้กินอร่อยด้วย แต่พอพี่เขาได้ลองปุยฝ้ายอันนี้ก็เปลี่ยนใจสั่งปุยฝ้ายเลย บอกว่าหน้าไม่แตกก็ไม่เป็นไร แต่สูตรนี้คือมันฟูจนแป้งเป็นผงๆ เลย

ไม่ทั้งหมด แต่มีที่หล่นเป็นผง แต่เราเองก็ชอบรสชาติของสูตรนี้มากกว่าปุยฝ้ายทั่วไป 

ตรงตามเชฟว่าทุกอย่าง ขนมปุยฝ้าย นุ่มเบา ละลายในปาก ไม่ฝืดคอ หน้าแตกสวยทุกลูก ไม่ใช่สูตรครูตุ้ม

เพียงแต่ของเราหน้าไม่แตกเหมือนของเชฟ

ซึ่งลูกค้าเราคือคนรู้จัก เพราะเราทำขายแค่ที่ทำงานเล็กๆ น้อยๆ (น้อยมาก) เพราะรู้สึกว่าอยากทำ อีกอย่างถ้าทำเยอะก็เหนื่อยเกินไป 

พักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะเราก็มีงานประจำปกติ และลูกค้าก็สั่งเพราะความรัก และความเชื่อใจแม้ค้าล้วนๆ 

อีกคนที่สั่งเยอะก็จะเป็นเพื่อนของแม่ ตรุษจีนปีนี้จึงได้ออร์เด้อมา 108 ลูกซึ่งก็มีการซ้อมก่อนหนึ่งวัน โดยแบ่งส่วนผสมแค่ 1/3 ของสูตรเต็ม 

วันที่ซ้อมก็โอเค เนื้อปุยฝ้ายสวยเลย แค่ไม่แตกสวยเหมือนที่เขาขายกัน โดยเราลองไม่กรีดน้ำมะนาวแค่ลูกเดียว เพราะไม่อยากลุ้นทั้งหมด แต่กลับกลายเป็นว่าไม่กรีดแตกดีกว่า แม้จะไม่ใช่รูปตามแบบมาตรฐานก็ตาม (นึ่งกับเตาไฟฟ้า)

วันจริงเราก็มั่นใจเลย double สูตร โดยสูตรมันฟูฟ่องมากในตอนที่ยังไม่ใส่แป้ง แต่พอมีแป้งลงไปจะยุบอีก ก็เลยคิดว่า Mixer (5.5 ลิตร) ที่มี

เอาอยู่ ทำ 2 เท่า ของสูตร Original ได้ 

พอดีเกิ๊นนนน ก็ยังคิดว่าโอเคอยู่ เพราะเทียบกับเนื้อเค้กที่เชฟสอนในคลิป 

ซึ่งลืมไปเลยว่าทำไมเราไม่เพิ่มเวลาตี 2 เท่าด้วย ในเมื่อเราเพิ่มทุกอย่าง 2 เท่า (ทำไมคิดไม่ได้นะ)

แต่ถึงคิดได้ ก็อาจจะมีเหตุให้ปุยฝ้ายไม่เด้งสวย เพราะมันลึกลับจริงๆ การทำปุยฝ้าย

สรุปว่าปุยฝ้ายรอบนี้ที่ออกมาคือแป้งหนักมาก มีแป้งไม่สุกด้วย แล้วมันดูแข็งมากๆ เอาไปขายไม่ได้เลย

มีอันที่ดูแย่กว่าในภาพ แต่เราไม่ได้ถ่ายมา 

เราดันทุรัง ปรับโน่น ปรับนี้ ทำตามสูตรเป๊ะๆ สัดส่วนตามสูตร ก็ยังไม่ฟู ครึ่งสูตรก็ไม่ฟู น่าจะได้ตามออร์เดอร์แค่ 40 ลูก 

เวลาก็ล่วงเลยมา 6 โมงเย็นแล้ว ต้องส่งขนมวันรุ่งขึ้น ก็เลยลองเปิดใจเปลี่ยนสูตร เป็นสูตรนมสด ฝนที่ออกมาคือ อือหืออออออ บานจนแฉกหักก็มี 

สูตรนมสดอันนี้ คือ ทั้งตีง่ายกว่า ทั้งไม่ต้องพักแป้ง และบานตะไทมาก บานนี้ดึงดูดคนซื้อได้แน่นอน 

ตอนแรกแบบเก่าก็ถือว่าแตกแล้วนะ เนื้อพอโอเค แต่ไม่เท่าตอนซ้อม ซึ่งไม่เข้าใจว่าเกิดจากอะไร เพราะปัจจัยมันมีเยอะมาก 

ทั้งเวลา ความแรงในการตี ส่วนผสม ลำดับการใส่ส่วนผสม แล้วสูตรนี้ยังมีพักแป้งอีก นอกจากนั้นก็ยังไปมีปัญหาที่น้ำในซึ้งและความแรงของไฟอีก 

แต่ทุกอย่างที่ว่ามา เรายังไม่พบปัญหาในสูตรนมสด

แต่ก็แน่นอนว่า เราชอบสูตรนมข้นมากกว่า รู้สึกว่ามันอร่อยเย็น แบบมีความเนียนๆ เย็นๆ ของรสหวาน ไม่หวานแบบที่ใส่แค่น้ำตาลอย่างเดียว 

แต่ตอนนี้เราไม่มีเวลาพัฒนาสูตรแรกเลย เพราะเราเหนื่อยและจะหมดเวลาทำแล้ว

เราให้ใครช่วยไม่ได้เลย เพราะเราไม่ไว้ใจ คนที่จะช่วยก็ยืนทำตาปริบๆ ทำได้แค่ช่วยเติมน้ำในซึ้ง 

แพคเกจก็ให้ช่วยไม่ได้ เพราะเราต้องแน่ใจว่าตูดขนมแห๊งแห้งงงงจริงๆ และไม่ไว้ใจใครอีก

ถ้าให้คนช่วยก็จะเป็นการทำงานสองรอบเพราะต้องเช็คเองอีก (คุณสมบัติเป็นผู้ประกอบการไม่ได้ใช่มั้ยแบบนี้ 555)

สี่ทุ่มครึ่งถึงจะเสร็จสิ้นภารกิจ (เริ่มตั้งแต่เช้า ประมาณ 9-10 โมง) โดยเหลือการล้างไว้ให้คนข้างหลังบ้าง ไม่มาก ล้างไปทำไปเกือบหมดแล้ว 

ซึ่งความฟินเราจะอยู่ที่ตอนที่ทำเสร็จ แพคเกจเสร็จ มันเหมือนการพยายามทำให้สำเร็จ เพราะเสพติดจากความสุขที่ทำแล้วมันสวยสมใจ 

อยู่ซ้ำๆ เมนูแล้วเมนูเล่า ไปเรื่อยๆ อยากจะไปเลิกจริงๆ เลย มีค่ายเลิกทำขนมที่ไหนบ้าง ตอนทำขนมเราไม่ปวดไม่เมื่อยเท่าไรนะ มันจดจ่อ 

พอทำเสร็จเท่านั้นแหละ ปวดน่องแบบว่าเหมือนไปปีนเขามาทั้งวัน รวดร้าวไปหมด 

แล้วเราก็ยืนเองตลอด (ทำไมคุณถึงไม่นั่ง!!!!) ทำตลอด ไม่มีจังหวะอยู่นิ่ง แทบไม่ได้กินข้าว หรือดื่มกาแฟที่ชงทิ้งไว้ (บ้าจริงๆ เลย)

ที่สำคัญคืออยากทำให้ดีที่สุด เพราะชอบเวลาที่ลูกค้าอร่อย

แล้วเขาเดินยิ้มมาบอกว่าอร่อยมาก รวมไปถึงสั่งเพิ่มภายหลัง <3

ทิ้งท้ายว่าเราไม่ได้ทำสำเร็จตลอดนะ แต่ภาพที่ไม่สำเร็จไม่ค่อยได้ถ่ายหรือไม่ค่อยได้แชร์

อย่างตอนแรกสุดคือทำอีกสูตร ที่เป็นรูปแตงโม ชอบลวดลาย ตั้งใจถ่ายทุกขั้นตอนมาก โดยไม่สงสัยเลยว่าจะไม่สำเร็จ 

พอลองหาๆ รูปในมือถือจะมาเขียนรีวิวอันนี้ ก็เจอรูปเก่าที่ไม่สำเร็จอันนี้

แข็งมาก ฮามาก ให้หมา หมายังอาจจะเคือง 555

แข็งมากกกกกกก แข็งโป้ก

มีแบบเนื้อหายไปด้วยนะ เพราะเอาแป้งสำเร็จมาตีสูตรเชพ หายไปเลยเนื้อปุยฝ้าย (ภาพซ้าย) เปิดฝามางงมาก 

ใครมี Trick อะไรแนะนำได้นะ เพิ่งเคยทำปีแรกจ้า 

แถมหน้าตาปุยฝ้าย ตามสูตรแบบแป้งสำเร็จ 

แต่เราชอบความท้าทายและแปลกใหม่ไง เลยไม่ทำแบบนี้ ดันทุรังทำสูตรยากอยู่

ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหนนนน...ไม่เข้าใจเลยสักครั้ง 555+

วันนี้ (29/01/68) มาแถมความรู้ใหม่อีกนิด เพราะวันนี้ได้ลองทำสูตรครูตุ้ม ครั้งแรกก็หน้าตาดีเลย

สูตรครูตุ้ม

ด้านล่างนี้สรุปความแตกต่างของขั้นตอนการทำมาให้นิดหน่อย สูตรนมสด ของเราทำกี่ครั้งก็บาน สูตรครูตุ้มพอเราดัดแปลงเป็นใส่นมและนมข้นหวานลงไปผสมบ้าง จะเริ่มไม่ค่อยบาน แต่เราก็งงว่าอยู่ที่ส่วนผสมพวกนี้หรืออยู่ที่การตี หรืออยู่ที่ไฟ???? เพราะพอเราเพิ่มไฟ ก็เริ่มบานขึ้นมา 

แต่แน่นอนเนื้อจะหนักกว่าแบบที่ใช้น้ำล้วน แต่เราก็ยังชอบรสชาติที่มีนมข้นอยู่ดี แม้เนื้อมันจะหนักกว่า แต่สูตรเชพโจแม้จะใส่นมข้นเนื้อก็ไม่แน่น กลับเป็นปุย แต่หน้าไม่บานนี่สิ แล้วไม่เสถียรเลยแต่ละครั้ง งงมาก และยังคงจะงงต่อไป 

*สูตรเต็ม search youtube กันได้เลย เราก็เอามาจากที่นั้นจ้า

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์น๊าาาาาา