เรื่องราว: “ความตายที่เกือบหลีกเลี่ยงไม่ได้”
มันเกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมที่บ้านคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัด ที่ซึ่งทุกอย่างดูเงียบสงบและเต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็ก วันนั้น ฉันและลูกพี่ลูกน้องซึ่งอายุไล่เลี่ยกัน เราชวนกันไปเล่นน้ำในคลองหลังบ้านคุณตา ที่นั่นน้ำใสสะอาดและเย็นสบาย ใจกลางธรรมชาติที่ดูไม่เป็นอันตรายอะไร
ลูกพี่ลูกน้องของฉันข้ามฝั่งไปอีกฝั่งได้แล้ว เหลือแค่ฉันที่ยังอยู่ในฝั่งนี้ พอฉันกระโดดลงไปในน้ำ ความรู้สึกเย็นฉ่ำของน้ำทำให้ฉันรู้สึกสดชื่น จนลืมระมัดระวังตัว
ทันใดนั้น…ฉันเกิดอาการคะตริว กลายเป็นว่าไม่สามารถขยับตัวไปข้างหน้าได้เลย รู้สึกเหมือนร่างกายติดขัดไม่สามารถขยับหรือว่ายน้ำไปไหนได้ น้ำที่เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมไปในน้ำอย่างช้า ๆ ความกลัวเริ่มบังเกิดในใจ ฉันหายใจไม่ออกและรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหมดแรง
ในขณะที่จมน้ำอยู่…ฉันไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองหรือมันเป็นความจริง แต่ฉันเห็นเงาร่างของใครบางคนในน้ำ กำลังว่ายเข้ามาหาฉัน ใบหน้าของเขาหรือเธอไม่ชัดเจน แต่มือที่ยื่นออกมามีลักษณะเหมือนกำลังจะช่วยฉันขึ้นมาจากน้ำ
ความรู้สึกนั้นชัดเจนเหมือนฉันกำลังจะไปจากโลกนี้แล้ว แต่มือของ “ผู้ในน้ำ” ยื่นมาหาฉันเป็นเหมือนการยื่นมือจากที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีทางเข้าใจได้ มันไม่ใช่คนที่ฉันรู้จัก แต่เหมือนจะเป็นใครบางคนที่ยืมมือจากมิติที่ฉันไม่สามารถอธิบายได้
โชคดีที่…ฉันได้ยินเสียงเรียกจากข้างบน ขณะเดียวกันก็เห็นร่างของคุณยายที่รีบกระโดดลงมาช่วยฉันในทันที คุณยายไม่สนใจอะไรทั้งนั้น รีบตะเกียกตะกายเข้ามาและดึงฉันขึ้นมาจากน้ำอย่างรวดเร็ว
หลังจากเหตุการณ์นี้…สิ่งที่ฉันสัมผัสได้มากขึ้น
หลังจากที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นไป ฉันเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า สิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้ เกิดขึ้นมากมายรอบตัวฉัน
1. เสียงแปลก ๆ ที่ได้ยิน
บางครั้งฉันได้ยินเสียงกระซิบที่ไม่มีใครพูด พวกมันดังมาในช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกเหงาหรือเครียด เสียงนั้นเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันไม่เคยเข้าใจมันเลย
2. ความรู้สึกไม่เข้าใจ
บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนมีใครสักคนมองฉันอยู่ แม้ว่าฉันจะอยู่คนเดียว ฉันก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือใคร แต่บางครั้งก็เหมือนสัมผัสถึงการมีอยู่ของบางสิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ฉัน
3. ความรู้สึกถึงการเชื่อมโยงกับโลกอื่น
หลังจากนั้น ฉันเริ่มมีความรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่เชื่อมโยงฉันกับอีกมิติหนึ่ง ความรู้สึกนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ฉันเครียดหรือกังวล เหมือนว่าฉันสามารถสัมผัสถึงพลังบางอย่างจากที่ไหนสักแห่งที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แง่คิดจากประสบการณ์นี้:
• เหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกับความตายอาจทำให้เรามองเห็นหรือสัมผัสสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่ามีอยู่ในโลกนี้
• บางสิ่งในชีวิตเราไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลหรือวิทยาศาสตร์ มันอาจเป็นประสบการณ์ที่ลึกลับเกินกว่าที่จะเข้าใจ
• การที่เรายังมีชีวิตอยู่และได้สัมผัสประสบการณ์นี้ บางทีอาจทำให้เราเริ่มมองโลกและชีวิตในมุมที่แตกต่างออกไป
ความตายที่เกือบหลีกเลี่ยงไม่ได้
มันเกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมที่บ้านคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัด ที่ซึ่งทุกอย่างดูเงียบสงบและเต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็ก วันนั้น ฉันและลูกพี่ลูกน้องซึ่งอายุไล่เลี่ยกัน เราชวนกันไปเล่นน้ำในคลองหลังบ้านคุณตา ที่นั่นน้ำใสสะอาดและเย็นสบาย ใจกลางธรรมชาติที่ดูไม่เป็นอันตรายอะไร
ลูกพี่ลูกน้องของฉันข้ามฝั่งไปอีกฝั่งได้แล้ว เหลือแค่ฉันที่ยังอยู่ในฝั่งนี้ พอฉันกระโดดลงไปในน้ำ ความรู้สึกเย็นฉ่ำของน้ำทำให้ฉันรู้สึกสดชื่น จนลืมระมัดระวังตัว
ทันใดนั้น…ฉันเกิดอาการคะตริว กลายเป็นว่าไม่สามารถขยับตัวไปข้างหน้าได้เลย รู้สึกเหมือนร่างกายติดขัดไม่สามารถขยับหรือว่ายน้ำไปไหนได้ น้ำที่เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมไปในน้ำอย่างช้า ๆ ความกลัวเริ่มบังเกิดในใจ ฉันหายใจไม่ออกและรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหมดแรง
ในขณะที่จมน้ำอยู่…ฉันไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองหรือมันเป็นความจริง แต่ฉันเห็นเงาร่างของใครบางคนในน้ำ กำลังว่ายเข้ามาหาฉัน ใบหน้าของเขาหรือเธอไม่ชัดเจน แต่มือที่ยื่นออกมามีลักษณะเหมือนกำลังจะช่วยฉันขึ้นมาจากน้ำ
ความรู้สึกนั้นชัดเจนเหมือนฉันกำลังจะไปจากโลกนี้แล้ว แต่มือของ “ผู้ในน้ำ” ยื่นมาหาฉันเป็นเหมือนการยื่นมือจากที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีทางเข้าใจได้ มันไม่ใช่คนที่ฉันรู้จัก แต่เหมือนจะเป็นใครบางคนที่ยืมมือจากมิติที่ฉันไม่สามารถอธิบายได้
โชคดีที่…ฉันได้ยินเสียงเรียกจากข้างบน ขณะเดียวกันก็เห็นร่างของคุณยายที่รีบกระโดดลงมาช่วยฉันในทันที คุณยายไม่สนใจอะไรทั้งนั้น รีบตะเกียกตะกายเข้ามาและดึงฉันขึ้นมาจากน้ำอย่างรวดเร็ว
หลังจากเหตุการณ์นี้…สิ่งที่ฉันสัมผัสได้มากขึ้น
หลังจากที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นไป ฉันเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า สิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้ เกิดขึ้นมากมายรอบตัวฉัน
1. เสียงแปลก ๆ ที่ได้ยิน
บางครั้งฉันได้ยินเสียงกระซิบที่ไม่มีใครพูด พวกมันดังมาในช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกเหงาหรือเครียด เสียงนั้นเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันไม่เคยเข้าใจมันเลย
2. ความรู้สึกไม่เข้าใจ
บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนมีใครสักคนมองฉันอยู่ แม้ว่าฉันจะอยู่คนเดียว ฉันก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือใคร แต่บางครั้งก็เหมือนสัมผัสถึงการมีอยู่ของบางสิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ฉัน
3. ความรู้สึกถึงการเชื่อมโยงกับโลกอื่น
หลังจากนั้น ฉันเริ่มมีความรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่เชื่อมโยงฉันกับอีกมิติหนึ่ง ความรู้สึกนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ฉันเครียดหรือกังวล เหมือนว่าฉันสามารถสัมผัสถึงพลังบางอย่างจากที่ไหนสักแห่งที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แง่คิดจากประสบการณ์นี้:
• เหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกับความตายอาจทำให้เรามองเห็นหรือสัมผัสสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่ามีอยู่ในโลกนี้
• บางสิ่งในชีวิตเราไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลหรือวิทยาศาสตร์ มันอาจเป็นประสบการณ์ที่ลึกลับเกินกว่าที่จะเข้าใจ
• การที่เรายังมีชีวิตอยู่และได้สัมผัสประสบการณ์นี้ บางทีอาจทำให้เราเริ่มมองโลกและชีวิตในมุมที่แตกต่างออกไป