ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ในยุคแห่งราชวงศ์หมิง จักรพรรดิหย่งเล่อผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชสำนักจีน ได้ทรงบัญชาการย้ายเมืองหลวงจากหนานจิงมายังกรุงปักกิ่ง พร้อมด้วยการสร้างพระราชวังต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นตามแบบแผนของสวรรค์ มีการจัดวางตามหลักฮวงจุ้ยอย่างเคร่งครัด และสร้างขึ้นด้วยความวิจิตรบรรจง มีห้องหับมากมายถึง 9,999 ห้อง (เลข 9 เลขแห่งมงคล)
ขณะที่การก่อสร้างพระราชวังกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ได้เกิดพายุใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน ฟ้าผ่าลงมาที่บริเวณก่อสร้าง ทำให้คนงานหวาดกลัว และเชื่อว่าสวรรค์ไม่พอใจ จักรพรรดิหย่งเล่อบอกกับเหล่าข้าราชบริพารว่า สายฟ้านั้นเป็นสัญญาณจากสวรรค์ที่ต้องการทดสอบความมุ่งมั่น
.
เมื่อพระราชวังสร้างเสร็จ ขณะนั้นพระองค์ได้จัดงานเลี้ยงฉลองในทุกวาระสำคัญ ทว่าบนโต๊ะเลี้ยงกลับไม่มีอาหารจานใดที่ทำให้จักรพรรดิรู้สึกว่า "สมบูรณ์แบบ"
จนกระทั่งวันหนึ่ง เชฟแห่งราชสำนักจากหนานจิง ได้รับคำสั่งให้สร้างสรรค์อาหารจานใหม่ เพื่อถวายแด่จักรพรรดิ อาหารจานนี้ต้องแสดงถึงความหรูหรา ความสง่างาม และสะท้อนถึงพลังของจักรพรรดิผู้ปกครองแผ่นดินอันกว้างใหญ่
เชฟใช้เวลาหลายวันในครัวหลวง พลิกตำราสูตรอาหารโบราณ พร้อมทั้งเดินทางไปยังตลาดเพื่อเฟ้นหา "เป็ดป่า" ตัวอ้วนที่มีไขมันมากพอสมควร เชฟผู้นี้เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น และปรารถนาจะทำให้อาหารจานนี้เป็นที่กล่าวขานไปทั่วแผ่นดิน
เมื่อเป็ดตัวแรกถูกส่งมายังครัวหลวง เชฟได้เป่าลมเข้าใต้หนังของมันอย่างพิถีพิถัน จนหนังแยกออกจากเนื้อ จากนั้นเชฟนำเป็ดไปคลุกเคล้ากับเครื่องเทศลับที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง น้ำส้มสายชู และเหล้าจีน ก่อนนำไปตากลมให้แห้งในคืนที่ดวงจันทร์ส่องสว่าง
เชฟเล่าว่า ในคืนนั้นเขาฝันถึงมังกรทองพ่นไฟใส่เป็ดตัวนั้น ราวกับเป็นการประทานพร เมื่อเช้ารุ่งขึ้น เขาได้นำเป็ดไปย่างในเตาอิฐแบบโบราณที่ใช้ไม้ผลหอมย่างเป็นเชื้อเพลิง
.
เมื่อเป็ดถูกย่างจนหนังกรอบสีทอง และส่งกลิ่นหอมกรุ่น เชฟจึงนำเป็ดขึ้นโต๊ะเสวยต่อหน้าจักรพรรดิ หั่นเนื้อและหนังออกเป็นชิ้นบางเฉียบ เสิร์ฟพร้อมแผ่นแป้งบาง เครื่องเคียง และน้ำซอสสูตรพิเศษ
เมื่อจักรพรรดิทรงลิ้มรส พระองค์ถึงกับทรงเปล่งเสียงด้วยความพึงพอใจ "นี่คือรสชาติของสวรรค์!" พระองค์ตรัสว่าเป็ดจานนี้สะท้อนถึงความมั่งคั่ง และพลังของแผ่นดินใต้การปกครองของพระองค์
.
ว่ากันว่า หลังจากนั้นเป็ดปักกิ่งไม่ได้เป็นเพียงอาหารธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรือง
...
เป็ดปักกิ่ง (Peking Duck) ไม่เพียงเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ยังมีตำนาน และเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสูตร และการปรุงอาหารนี้ซึ่งสืบทอดมาหลายร้อยปีในประเทศจีน
.
ต้นกำเนิดของเป็ดปักกิ่งย้อนไปในสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) เมื่อเป็ดถูกเลี้ยงเพื่อนำมาปรุงอาหารให้ราชวงศ์มองโกล ว่ากันว่าจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หยวนชื่นชอบการรับประทานเป็ดย่าง และได้มอบหมายให้เชฟของราชสำนักคิดค้นวิธีปรุงเป็ดที่สมบูรณ์แบบ
ในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) เป็ดปักกิ่งได้รับการพัฒนาและปรุงให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเชฟจากพระราชวังในกรุงหนานจิงได้อพยพมายังกรุงปักกิ่งพร้อมกับการย้ายเมืองหลวง และได้นำสูตรเป็ดย่างนี้มาต่อยอด โดยมีการพัฒนาวิธีการย่างให้หนังกรอบและเนื้อนุ่ม
ในช่วงราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644-1912) เป็ดปักกิ่งกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงและนักปราชญ์ มีบันทึกในตำราประวัติศาสตร์หลายเล่มว่าจักรพรรดิและขุนนางมักจัดงานเลี้ยงที่เสิร์ฟเป็ดปักกิ่งเป็นอาหารหลัก
: กระบวนการย่างแบบพิเศษ
วิธีการเป่าหนังเป็ดให้แยกจากเนื้อ และการใช้เตาแบบพิเศษในการย่างด้วยไม้ผลหอม เช่น ไม้ลิ้นจี่ เป็นเทคนิคที่มีต้นกำเนิดจากสูตรการย่างเป็ดในเมืองหนานจิง และยังคงใช้จนถึงปัจจุบัน
วันเป็ดปักกิ่งแห่งชาติ 18 มกราคม National Peking Duck Day
.
ทุกวันที่ 18 มกราคมของทุกปี เป็นวันที่ยกย่องอาหารประจำชาติของจีนอย่างเป็ดปักกิ่ง การปรุงเป็ดปักกิ่งเป็นศิลปะที่หยั่งรากลึกในประเพณีจีน และยังเป็นวันที่นักชิมทั่วโลกชอบ เป็ดปักกิ่งถือเป็นอาหารสุดคลาสสิกจานหนึ่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาแห่งโต๊ะอาหาร
วันเป็ดปักกิ่งแห่งชาติไม่เพียงเฉลิมฉลองอาหารจานพิเศษนี้ แต่ยังเป็นวันที่เรายกย่องประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่มาพร้อมกับอาหาร เป็ดปักกิ่งเป็นสัญลักษณ์ของความละเอียดอ่อน และความใส่ใจในศิลปะการปรุงอาหารแบบจีน ทุกครั้งที่ได้ลิ้มลองเป็ดปักกิ่ง คุณไม่ได้เพียงสัมผัสรสชาติแสนอร่อย แต่ยังได้สัมผัสความภูมิใจ และมรดกของวัฒนธรรมจีนที่ส่งต่อมาหลายชั่วอายุคน
...
ว่าด้วยเป็ดปักกิ่ง ขอนำภาพเป็ดปักกิ่งมาชวนให้น้ำลายไหลกันครับผม..
.
เป็ดปักกิ่งแบบเป็นคำ คำละ 20 บาท มีที่เยาวราชน๊า.. *ไม่รู้ปรับราคาหรือยัง
เพื่อนๆ ชอบกินเป็ดปักกิ่งกันไหมครับผม
ขอขอบคุณข้อมูล
: wikidates .org
: chinahighlights
: smithsonianmag
.
LookAt
ตำนานเป็ดปักกิ่ง..
ขณะที่การก่อสร้างพระราชวังกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ได้เกิดพายุใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน ฟ้าผ่าลงมาที่บริเวณก่อสร้าง ทำให้คนงานหวาดกลัว และเชื่อว่าสวรรค์ไม่พอใจ จักรพรรดิหย่งเล่อบอกกับเหล่าข้าราชบริพารว่า สายฟ้านั้นเป็นสัญญาณจากสวรรค์ที่ต้องการทดสอบความมุ่งมั่น
.
เมื่อพระราชวังสร้างเสร็จ ขณะนั้นพระองค์ได้จัดงานเลี้ยงฉลองในทุกวาระสำคัญ ทว่าบนโต๊ะเลี้ยงกลับไม่มีอาหารจานใดที่ทำให้จักรพรรดิรู้สึกว่า "สมบูรณ์แบบ"
จนกระทั่งวันหนึ่ง เชฟแห่งราชสำนักจากหนานจิง ได้รับคำสั่งให้สร้างสรรค์อาหารจานใหม่ เพื่อถวายแด่จักรพรรดิ อาหารจานนี้ต้องแสดงถึงความหรูหรา ความสง่างาม และสะท้อนถึงพลังของจักรพรรดิผู้ปกครองแผ่นดินอันกว้างใหญ่
เชฟใช้เวลาหลายวันในครัวหลวง พลิกตำราสูตรอาหารโบราณ พร้อมทั้งเดินทางไปยังตลาดเพื่อเฟ้นหา "เป็ดป่า" ตัวอ้วนที่มีไขมันมากพอสมควร เชฟผู้นี้เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น และปรารถนาจะทำให้อาหารจานนี้เป็นที่กล่าวขานไปทั่วแผ่นดิน
เมื่อเป็ดตัวแรกถูกส่งมายังครัวหลวง เชฟได้เป่าลมเข้าใต้หนังของมันอย่างพิถีพิถัน จนหนังแยกออกจากเนื้อ จากนั้นเชฟนำเป็ดไปคลุกเคล้ากับเครื่องเทศลับที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง น้ำส้มสายชู และเหล้าจีน ก่อนนำไปตากลมให้แห้งในคืนที่ดวงจันทร์ส่องสว่าง
เชฟเล่าว่า ในคืนนั้นเขาฝันถึงมังกรทองพ่นไฟใส่เป็ดตัวนั้น ราวกับเป็นการประทานพร เมื่อเช้ารุ่งขึ้น เขาได้นำเป็ดไปย่างในเตาอิฐแบบโบราณที่ใช้ไม้ผลหอมย่างเป็นเชื้อเพลิง
.
เมื่อเป็ดถูกย่างจนหนังกรอบสีทอง และส่งกลิ่นหอมกรุ่น เชฟจึงนำเป็ดขึ้นโต๊ะเสวยต่อหน้าจักรพรรดิ หั่นเนื้อและหนังออกเป็นชิ้นบางเฉียบ เสิร์ฟพร้อมแผ่นแป้งบาง เครื่องเคียง และน้ำซอสสูตรพิเศษ
เมื่อจักรพรรดิทรงลิ้มรส พระองค์ถึงกับทรงเปล่งเสียงด้วยความพึงพอใจ "นี่คือรสชาติของสวรรค์!" พระองค์ตรัสว่าเป็ดจานนี้สะท้อนถึงความมั่งคั่ง และพลังของแผ่นดินใต้การปกครองของพระองค์
.
ว่ากันว่า หลังจากนั้นเป็ดปักกิ่งไม่ได้เป็นเพียงอาหารธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรือง
...
เป็ดปักกิ่ง (Peking Duck) ไม่เพียงเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ยังมีตำนาน และเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสูตร และการปรุงอาหารนี้ซึ่งสืบทอดมาหลายร้อยปีในประเทศจีน
.
ต้นกำเนิดของเป็ดปักกิ่งย้อนไปในสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) เมื่อเป็ดถูกเลี้ยงเพื่อนำมาปรุงอาหารให้ราชวงศ์มองโกล ว่ากันว่าจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หยวนชื่นชอบการรับประทานเป็ดย่าง และได้มอบหมายให้เชฟของราชสำนักคิดค้นวิธีปรุงเป็ดที่สมบูรณ์แบบ
ในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) เป็ดปักกิ่งได้รับการพัฒนาและปรุงให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเชฟจากพระราชวังในกรุงหนานจิงได้อพยพมายังกรุงปักกิ่งพร้อมกับการย้ายเมืองหลวง และได้นำสูตรเป็ดย่างนี้มาต่อยอด โดยมีการพัฒนาวิธีการย่างให้หนังกรอบและเนื้อนุ่ม
ในช่วงราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644-1912) เป็ดปักกิ่งกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงและนักปราชญ์ มีบันทึกในตำราประวัติศาสตร์หลายเล่มว่าจักรพรรดิและขุนนางมักจัดงานเลี้ยงที่เสิร์ฟเป็ดปักกิ่งเป็นอาหารหลัก
: กระบวนการย่างแบบพิเศษ
วิธีการเป่าหนังเป็ดให้แยกจากเนื้อ และการใช้เตาแบบพิเศษในการย่างด้วยไม้ผลหอม เช่น ไม้ลิ้นจี่ เป็นเทคนิคที่มีต้นกำเนิดจากสูตรการย่างเป็ดในเมืองหนานจิง และยังคงใช้จนถึงปัจจุบัน
.
ทุกวันที่ 18 มกราคมของทุกปี เป็นวันที่ยกย่องอาหารประจำชาติของจีนอย่างเป็ดปักกิ่ง การปรุงเป็ดปักกิ่งเป็นศิลปะที่หยั่งรากลึกในประเพณีจีน และยังเป็นวันที่นักชิมทั่วโลกชอบ เป็ดปักกิ่งถือเป็นอาหารสุดคลาสสิกจานหนึ่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาแห่งโต๊ะอาหาร
วันเป็ดปักกิ่งแห่งชาติไม่เพียงเฉลิมฉลองอาหารจานพิเศษนี้ แต่ยังเป็นวันที่เรายกย่องประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่มาพร้อมกับอาหาร เป็ดปักกิ่งเป็นสัญลักษณ์ของความละเอียดอ่อน และความใส่ใจในศิลปะการปรุงอาหารแบบจีน ทุกครั้งที่ได้ลิ้มลองเป็ดปักกิ่ง คุณไม่ได้เพียงสัมผัสรสชาติแสนอร่อย แต่ยังได้สัมผัสความภูมิใจ และมรดกของวัฒนธรรมจีนที่ส่งต่อมาหลายชั่วอายุคน
...
ว่าด้วยเป็ดปักกิ่ง ขอนำภาพเป็ดปักกิ่งมาชวนให้น้ำลายไหลกันครับผม..
.
เป็ดปักกิ่งแบบเป็นคำ คำละ 20 บาท มีที่เยาวราชน๊า.. *ไม่รู้ปรับราคาหรือยัง
เพื่อนๆ ชอบกินเป็ดปักกิ่งกันไหมครับผม
ขอขอบคุณข้อมูล
: wikidates .org
: chinahighlights
: smithsonianmag
.
LookAt