สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ วันนี้อยากมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับการเลือกโบรกเกอร์การเทรดที่ได้รับใบอนุญาตจาก FCA (Financial Conduct Authority) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของสหราชอาณาจักรที่เข้มงวดและน่าเชื่อถือที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ค่ะ
หลายคนอาจคิดว่าเลือกโบรกเกอร์มีใบอนุญาต FCA ก็ปลอดภัยแล้ว แต่จริง ๆ แล้วยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต้องเช็คให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอโบรกเกอร์ปลอม (Clone Platforms) หรือโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
1. ประเภทของใบอนุญาต FCA สำคัญมาก!
ใบอนุญาต FCA แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก รวม 7 ประเภทย่อย โดยมีเพียงใบอนุญาตแบบ STP และ MM ที่สามารถให้บริการซื้อขายได้จริงและได้รับการคุ้มครองจาก FSCS
ข้อควรระวัง:
- ใบอนุญาตให้คำปรึกษาการลงทุน แม้จะเป็นใบอนุญาตเต็มรูปแบบ แต่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจซื้อขายได้
- ใบอนุญาต AR มี 2 ประเภท ได้แก่ แบบแนะนำ (Introducer) ซึ่งไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ และแบบอิสระ (Independent AR) ที่ดำเนินธุรกิจได้ แต่ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตเต็มรูปแบบจะดีกว่า
- ใบอนุญาตการชำระเงิน (Payment Licence) ไม่มีสิทธิ์ให้บริการซื้อขาย
- ใบอนุญาต EEA มีประสิทธิภาพต่ำสุดและไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA
2. ขอบเขตการอนุญาตซื้อขาย
การตรวจสอบประเภทของใบอนุญาตเป็นขั้นตอนแรก แต่สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบขอบเขตการให้บริการ โดยต้องตรวจสอบที่หมวด "Dealing in investment as principal" เพราะ FCA จะแยก Spread Bet และ Rolling Spot Forex Contract ออกจาก CFD ดังนั้น หากโบรกเกอร์ครอบคลุมทั้ง 3 ประเภทนี้ก็จะสามารถให้บริการการเทรด Forex ได้อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ
3. ช่องทางการฝากถอนเงินและบัญชีเงินทุน
FCA บังคับให้โบรกเกอร์แยกบัญชีเงินทุนของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท บางโบรกเกอร์อาจมีใบอนุญาต FCA แต่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้อย่างเคร่งครัด ในส่วนของการฝากเงิน โบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตจาก FCA สามารถฝากเงินในธนาคารที่ได้รับอนุญาตจากประเทศที่สาม (Third-country authorised banks)ได้ ซึ่งธนาคารเหล่านี้จะได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐานที่เหมาะสม
เนื่องจาก FCA มีอำนาจกำกับดูแลเฉพาะในอังกฤษเท่านั้น ทำให้ธนาคารที่ได้รับอนุญาตในประเทศที่สามไม่ใช่แค่ธนาคารข้ามชาติจากอังกฤษที่ดำเนินการในต่างประเทศ แต่ยังรวมถึงธนาคารต่างชาติหลายแห่งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA
ดังนั้นหากประเทศที่ธนาคารตั้งอยู่มีกฎระเบียบการกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวด แม้ว่าธนาคารนั้นจะได้รับอนุญาตจาก FCA เงินของผู้ใช้ก็อาจไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลวิธีที่โบรกเกอร์ที่หนีจากการกำกับดูแลมักควบคุมใช้
หากมองในแง่ของความปลอดภัยของเงินทุน การจัดลำดับธนาคารที่เก็บเงินจะเป็นดังนี้ :
1. ธนาคารข้ามชาติของอังกฤษ
2. ธนาคารในต่างประเทศที่มีชื่อเสียง
3. ธนาคารอื่น ๆ ของอังกฤษ
4. ธนาคารอื่น ๆ ในต่างประเทศ
ดังนั้น การเลือกธนาคารในการฝากเงินจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ ตัวอย่างเช่น EBC ใช้บัญชีระดับสูงสุดของ Barclays ซึ่ง Barclays เคยมีบทบาทสำคัญในการล้มละลายของ Lehman Brothers และยังเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องในตลาดอีกด้วย ทำให้บัญชีที่ Barclays ดูแลมีความปลอดภัยสูงกว่าและมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในการสมัคร
ข้อควรระวัง : การฝากและถอนเงินผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาต FCA สามารถทำได้เฉพาะการโอนเงินผ่านธนาคาร (Wire Transfer) เท่านั้น และมีความโปร่งใสในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
💡 สรุปง่าย ๆ :
- เช็คประเภทใบอนุญาต FCA ว่าเป็น STP หรือ MM
- ตรวจสอบขอบเขตการซื้อขายว่าครอบคลุมหรือไม่
- ดูช่องทางฝากถอนเงินและบัญชีทุนของโบรกเกอร์
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ที่ปลอดภัยนะคะ
แชร์ความรู้! วิธีเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาต FCA อย่างปลอดภัย
หลายคนอาจคิดว่าเลือกโบรกเกอร์มีใบอนุญาต FCA ก็ปลอดภัยแล้ว แต่จริง ๆ แล้วยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต้องเช็คให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอโบรกเกอร์ปลอม (Clone Platforms) หรือโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
1. ประเภทของใบอนุญาต FCA สำคัญมาก!
ใบอนุญาต FCA แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก รวม 7 ประเภทย่อย โดยมีเพียงใบอนุญาตแบบ STP และ MM ที่สามารถให้บริการซื้อขายได้จริงและได้รับการคุ้มครองจาก FSCS
ข้อควรระวัง:
- ใบอนุญาตให้คำปรึกษาการลงทุน แม้จะเป็นใบอนุญาตเต็มรูปแบบ แต่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจซื้อขายได้
- ใบอนุญาต AR มี 2 ประเภท ได้แก่ แบบแนะนำ (Introducer) ซึ่งไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ และแบบอิสระ (Independent AR) ที่ดำเนินธุรกิจได้ แต่ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตเต็มรูปแบบจะดีกว่า
- ใบอนุญาตการชำระเงิน (Payment Licence) ไม่มีสิทธิ์ให้บริการซื้อขาย
- ใบอนุญาต EEA มีประสิทธิภาพต่ำสุดและไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA
2. ขอบเขตการอนุญาตซื้อขาย
การตรวจสอบประเภทของใบอนุญาตเป็นขั้นตอนแรก แต่สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบขอบเขตการให้บริการ โดยต้องตรวจสอบที่หมวด "Dealing in investment as principal" เพราะ FCA จะแยก Spread Bet และ Rolling Spot Forex Contract ออกจาก CFD ดังนั้น หากโบรกเกอร์ครอบคลุมทั้ง 3 ประเภทนี้ก็จะสามารถให้บริการการเทรด Forex ได้อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ
3. ช่องทางการฝากถอนเงินและบัญชีเงินทุน
FCA บังคับให้โบรกเกอร์แยกบัญชีเงินทุนของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท บางโบรกเกอร์อาจมีใบอนุญาต FCA แต่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้อย่างเคร่งครัด ในส่วนของการฝากเงิน โบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตจาก FCA สามารถฝากเงินในธนาคารที่ได้รับอนุญาตจากประเทศที่สาม (Third-country authorised banks)ได้ ซึ่งธนาคารเหล่านี้จะได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐานที่เหมาะสม
เนื่องจาก FCA มีอำนาจกำกับดูแลเฉพาะในอังกฤษเท่านั้น ทำให้ธนาคารที่ได้รับอนุญาตในประเทศที่สามไม่ใช่แค่ธนาคารข้ามชาติจากอังกฤษที่ดำเนินการในต่างประเทศ แต่ยังรวมถึงธนาคารต่างชาติหลายแห่งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA
ดังนั้นหากประเทศที่ธนาคารตั้งอยู่มีกฎระเบียบการกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวด แม้ว่าธนาคารนั้นจะได้รับอนุญาตจาก FCA เงินของผู้ใช้ก็อาจไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลวิธีที่โบรกเกอร์ที่หนีจากการกำกับดูแลมักควบคุมใช้
หากมองในแง่ของความปลอดภัยของเงินทุน การจัดลำดับธนาคารที่เก็บเงินจะเป็นดังนี้ :
1. ธนาคารข้ามชาติของอังกฤษ
2. ธนาคารในต่างประเทศที่มีชื่อเสียง
3. ธนาคารอื่น ๆ ของอังกฤษ
4. ธนาคารอื่น ๆ ในต่างประเทศ
ดังนั้น การเลือกธนาคารในการฝากเงินจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ ตัวอย่างเช่น EBC ใช้บัญชีระดับสูงสุดของ Barclays ซึ่ง Barclays เคยมีบทบาทสำคัญในการล้มละลายของ Lehman Brothers และยังเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องในตลาดอีกด้วย ทำให้บัญชีที่ Barclays ดูแลมีความปลอดภัยสูงกว่าและมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในการสมัคร
ข้อควรระวัง : การฝากและถอนเงินผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาต FCA สามารถทำได้เฉพาะการโอนเงินผ่านธนาคาร (Wire Transfer) เท่านั้น และมีความโปร่งใสในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
💡 สรุปง่าย ๆ :
- เช็คประเภทใบอนุญาต FCA ว่าเป็น STP หรือ MM
- ตรวจสอบขอบเขตการซื้อขายว่าครอบคลุมหรือไม่
- ดูช่องทางฝากถอนเงินและบัญชีทุนของโบรกเกอร์
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ที่ปลอดภัยนะคะ