5 วิธีเลือกโบรกเกอร์ Forex

จากกระแสข่าว ของ The icon group ทำให้ผมมองย้อนกลับตอนที่เกิดเหตุการณ์ เครื่อข่ายลูกโซ่ Forex 3D ตอนนั้นมีผู้เสียหายจำนวนมาก ดังนั้น ผมอยากให้เทรดเดอร์ หรือนักลงทุนทุกท่านได้คำนึงถึงความปลอดภัยของเงินทุนเป็นหลัก และ 5 วิธีง่ายๆ ที่ผมจะมาแชร์ ที่จะไม่ทำให้คุณตกเป็นเหยื่อให้กับกลโกงในโบรกเกอร์ Forex หรือ การลงทุนอื่นๆ มีดังต่อไปนี้ 

1. หน่วยงานกำกับดูแลระดับสูงสุด
2. การจัดเก็บเงินทุนแยกบัญชี
3. เสนอราคาอย่างโปร่งใส
4. ความไวในการฝากถอนเงิน
5. การคุ้มครองที่ครอบคลุม

แล้วเราจะเลือกแพลตฟอร์มจาก 5 ข้อนี้ได้อย่างไร?

1. หน่วยงานกำกับดูแลระดับสูง
คือใบอนุญาตในการดำเนินของโบรกเกอร์ต่างๆ และใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล FCA ของอังกฤษ, ASIC ของออสเตรเลีย, NFA ของสหรัฐฯ และ FINMA ของสวิตเซอร์แลนด์ ถือว่าเป็นใบอนุญาตที่มีมาตรฐานสูงที่สุด

อย่างไรก็ตามหน่วยงาน NFA และ FINMA มีข้อจำกัดในด้านการให้บริการนอกประเทศ ทำให้หน่วยงาน FCA และ ASIC กลายเป็นหน่วยงานที่ถูกยอมรับมากที่สุดในระดับสากล

ดังนั้น เราต้องหาแพลตฟอร์ม หรือ โบรกเกอร์ Forex ที่มีใบอนุญาต FCA และ ASIC ที่ผมเห็นจะมีไม่มีกี่โบรกที่ถือใบอนุญาตเหล่านี้อยู่ เช่น โบรกเกอร์ EBC,GMT,IG และอื่นๆ (สามารถหาดูได้จากบทความที่ผมลงไว้ก่อนหน้านี้ หรือคลิ๊กที่นี่ : https://ppantip.com/topic/43013363)

2. การจัดเก็บเงินทุนแยกบัญชี
แทบทุกโบรกเกอร์ มักจะพูดถึงการแยกบัญชีเงินทุน แต่อาจไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจน เช่น ธนาคารที่ใช้ หรือบัญชีแยกนั้นตรงกับบัญชีฝากเงินของนักลงทุนหรือไม่? ดังนั้น จุดนี้เราควรโฟกัสไปที่ธนาคารที่เขาอ้างถึงเป็นธนาคารที่มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ? หากเป็นธนาคาร Barclays, HSBC หรือ JPMorgan Chase ถือว่าเป็นธนาคารชั้นนำระดับสากล เเต่ถ้าเป็นธนาคารอื่นๆ ผมแนะนำให้ศึกษาและดูประวัติก่อนการลงทุน 

3. เสนอราคาอย่างโปร่งใส
โบรกเกอร์ หรือ แพลตฟอร์ม Forex ที่ดีและซื่อตรง ไม่ควรเอาเปรียบด้วยค่าความคลาดเคลื่อนของราคา หรือว่า ค่า Slippage แม้จะมีใบอนุญาติที่ได้มาตรฐาน และการจับเก็บเงินทุนที่มีน่าเชื่อถือ แต่ก็ยังมีเล่ห์เหลี่ยมจากโบรกเกอร์ เช่น การจงใจสร้าง slippage ซึ่งจะส่งผลต่อการทำกำไร และแผนการเทรดของเรา เพราะฉะนั้น ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีการเสนอราคาแบบเรียลไทม์ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเห็นค่าสเปรด (Spread) และสภาพคล่องในตลาดได้ทันที สามารถตรวจสอบได้โดยเข้าไปที่เว็ปไซต์ของโบรกที่เราใช้ และเช็คดูค่าสเปรดแบบเรียลไทม์

มีหลายโบรกเกอร์ที่มีการเสนอราคาแบบเรียลไทม์บนเว็บไซต์ สามารถเข้าไปเปรียบเทียบดูได้ก่อนตัดสินใจ

4. ความไวในการฝากถอนเงิน
ถ้าทำตามขั้นตอนทั้งหมดที่ผมกล่าวไป การฝาก-ถอนเงินก็คงไม่มีปัญหาอะไร สิ่งสำคัญที่สุด คือเรื่องความปลอดภัยของเงินทุน เราจะสามารถถอนเงินออกมาได้มั้ย? ถ้าฝากเงินใช้เวลาเกิน 24 ชม. หรือถอนเกิน 72 ชม. (ไม่นับวันหยุด) ควรระวังไว้ก่อนเลย

5. การคุ้มครองที่ครอบคลุม
ในปัจจุบัน สถานการณ์ความเสี่ยงมีอยู่รอบตัวไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามในโลกตะวันตกที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง การแย่งชิงความเป็นหนึ่งในด้านภูมิรัฐศาสตร์ ดังนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ การล้มละลายของโบรกเกอร์ก็มีอยู่ไปทั่ว ผมอยากให้เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัว สิ่งสุดท้ายอยากให้เทรดเดอร์ทุกท่านเลือกคือ ประกันจากโบรกเกอร์ กล่าวคือ หากโบรกเกอร์ล้มละลาย หรือเกิดข้อผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อเรา เขาจะทำการชดเชยให้ ข้อนี้ถือเป็นข้อที่นักลงทุนหลายๆคน ไม่ให้ความสำคัญกับมัน ยกตัวอย่าง การคุ้มครองจากประกัน PI หากโบรกเกอร์ไหนมีประกันนี้จะแสดงถึงความน่าเชื่อถือ และความใส่ใจได้เป็นอย่างดี

บางท่านสงสัยว่า มีโบรกเกอร์ที่มีครบทั้ง 5 ข้อนี้ไหม?
คำตอบ....มีครับ และผมก็ใช้เทรดอยู่ คือ โบรกเกอร์ EBC ทั้งนี้หากเทรดเดอร์คนไหนเจอแพลตฟอร์มที่มีครบทั้ง 5 ข้อ สามารถแชร์ความคิดเห็นได้เลย (ผมจะนำไปเปรียบเทียบในบทความต่อไป)

โดยสรุปแล้ว ความปลอดภัยในการรัษาเงินทุน 5 ข้อนี้ ถือเป็นมาตรฐานที่ใช้เลือกโบรกเกอร์ Forex การเริ่มต้นที่ดีนั้นทำให้เราสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่