The knife for Rambo มีดแรมโบ้4

The knife for Rambo มีดแรมโบ้4

ดูหนังวันหยุดหรือวันทำงานก็แล้วแต่เถอะครับ ดูได้เพลินๆ เลือดสาดนิดหน่อย สยดสยองเล็กน้อย ทรหดดิบเถื่อนสะใจชายผู้กล้า
จริงๆแล้วมีดแรมโบ้4นี่เค้าไม่ให้เรียกมีดแรมโบ้นะครับ ติดลิขสิทธิ์ของฮอลลีวูดขนาดนั้น แม้แต่กิล ฮิบเบ้นเจ้าของมีดรุ่นนี้ยังต้องเลี่ยงไปใช้ชื่ออื่นๆ เช่นฮิบเบ้น4 หรือ J.R. IV

มีดแรมโบ้4 ออกแบบและจัดสร้างโดย Gil Hibben โดยมีต้นแบบอย่างน้อย 5 ตัว ก่อนจะปรับปรุงให้ถูกใจของ Sylvester Stallone ในแบบสุดท้ายและเป็นแบบที่ใช้ในภาพยนต์

หนังเรื่องแรมโบ้นี่มีอยู่ 5 ภาคนะครับแต่ละภาคก็มีมีดประจำภาคเป็นของตัวเอง ภาค1และ2 เป็นมีดของจิมมี ไลล์ ภาค3และ4 เป็นมีดของกิล ฮิบเบ้น ช่างมีดชั้นดีมีชื่อเสียงด้วยกันทั้งคู่ โดยเฉพาะลุงฮิบเบ้นเข้าขั้นช่างทำมีดระดับตำนาน มีดของภาค5 ทำโดย Dietmar Pohl ซึ่งภาคสุดท้ายนี่ผมเกลียดตัวหนังมากๆแบบเกลียดเข้าไส้

ตัวหนังก็รู้กันดีอยู่แล้วเป็นเรื่องของทหารผู้กล้าที่ปลดประจำการแล้วแต่ก็มีเหตุให้ได้ใช้ความสามารถในการอาละวาดกับศัตรูหรือกองทัพฝ่ายตรงข้าม โดยภาคแรกอาละวาดบนแผ่นดินอเมริกาบ้านเกิดตัวเองเลย ภาคสองนี่ตะลุยเวียดนาม ภาคสามไปถึงอัฟกานิสถาน และภาคสี่นี่มาอาละวาดอยู่แถวๆบ้านผมนี่แหละคือถ่ายทำที่แม่ริมแต่บอกว่าเป็นแม่สอดจ.ตากและไปถล่มกองทัพของประเทศเพื่อนบ้านเรา

ท่านที่ยังไม่เคยดูหรือดูยังไม่ครบก็หามาดูได้นะครับ มองในแง่ของภาพยนต์ก็จัดเป็นหนังดีให้ความสนุกสนานเป็นที่น่าจดจำ ภาค1ชื่อว่า First Blood หนังดีละมุนละไม ได้อรรถรสและแง่คิดหลายอย่าง ผมชอบดูเสมอๆ ภาคสองจะดูสนุกกว่าแต่ความงดงามของตัวหนังจะสู้ภาคแรกไม่ได้ ภาคสามกับภาคสี่นี่พอดูได้เท่านั้นครับผม เอิ้ก เอิ้ก ภาค5นี่ไม่อาจทำใจยอมรับได้ว่าเป็นเรื่องราวหรือภาพยนต์ในชุดเดียวกัน

แต่ในบรรดามีดแรมโบ้ทั้ง5ภาค ซึ่งจริงๆแล้วยังมีแยกย่อยออกไปอีกหลายเล่มหลายแบบ ถ้าให้รายละเอียดสั้นๆก็คือภาคแรกมีดยังชีพด้ามกลวงขนาดกลาง ภาคสองมีดยังชีพด้ามกลวงขนาดใหญ่ ภาคสามมีดต่อสู้ขนาดใหญ่ และภาคสี่นี่ดูยังไงก็เป็นมีดอีโต้นะครับ ตามเว็บขายมีดจะจัดมีดแบบนี้อยู่ในประเภทมีดมาเชเต้ ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ค่อยเหมือนมาเชเต้เท่าไหร่นัก ด้วยขนาดที่ยาวตลอดเล่มถึง 18 นิ้ว และหนามากกว่า 1/4 นิ้ว ทำด้วยเหล็กD2แผ่นเท่าแหนบสปริง

ในหนังจะมีฉากที่แรมโบ้ตีเหล็กแบนๆเหมือนแหนบสปริงให้กลายเป็นมีด ซึ่งฉากนั้นบ่งบอกได้ว่าฝ่ายเทกนิคของหนังไม่มีช่างทำมีดเข้าไปร่วมหรือแสดงความเห็นเลย เรื่องตีก็พอได้นะเราไม่ว่ากันแต่ขั้นตอนการชุบแข็ง ทำด้วยการเผาใบมีดเพียงครึ่งใบแล้วจุ่มลงไปในน้ำ แถมยังยกขึ้นมาให้ความร้อนจากใบมีดที่ยังร้อนแปดร้อยกว่าองศาแผ่หรือดันส่วนหน้าคมที่ชุบแข็งแล้วให้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเหล็กอ่อนซะอีก แล้วมันจะเอาไปใช้ได้ยังไง

มีดรุ่นนี้ค่อนข้างจะเป็นมีดที่ดูแล้วจริงจังจับต้องได้มากกว่าสามภาคที่ผ่านมา คือมันยังดูเป็นมีดที่คนทั่วๆไปเอามาใช้กันได้ ในช่วงที่หนังได้รับความนิยม มีดรุ่นนี้หรือแบบนี้ก็พลอยได้รับความนิยมไปด้วย ช่างทำมีดมากมายทั้งช่างที่มีชื่อเสียงและช่างหน้าใหม่สมัครเล่นต่างก็ทำมีดแบบนี้ออกมาเรียกว่าช่วงนั้นเต็มตลาดไปหมด ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่บ้างเรื่อยๆ

ผมเองก็ทำอยู่บ่อยๆนะครับ ตั้งแต่ยุคโน้นแล้ว ผ่านมาก็ยังทำออกมาเรื่อยๆ มันใหญ่สะใจดี เล่มแรกๆทำใบขนาด 12 นิ้ว แต่ทำมาเรื่อยๆผมคิดว่าใบขนาด 8- 10 นิ้วนี่ก็พอแล้ว คือเหนื่อยพอแล้วทั้งคนทำคนใช้ ถ้าทำเท่าแบบก็คือใบ 12 ด้าม 6 มีคนใช้มีดไม่กี่เปอร์เซ็นต์หรอกครับที่ใช้มีดขนาดนั้นได้

เป็นมีดที่เล่นสนุกมากแบบนึงครับ ใหญ่ๆ เถื่อนๆ ทนๆทานๆ สับลงไปทีนึงไม้แทบจะหักเป็นสองท่อน หรือถ้าสับกระดูกหมูคมมีดก็แทบจะจมลงไปในเขียงหรืออาจจะผ่าเขียงออกเป็นสองซีกได้ เปี่ยมพลังทำลายล้างปานนั้น สะใจคนที่ชอบอะไรใหญ่ๆหนักชนิดที่ว่ามีดอีโต้ขนาดปรกติที่เราใช้กันทั่วไปกลายเป็นมีดเบาขนาดมีดทำครัวไปเลยก็แล้วกัน

เป็นมีดสำหรับงานหนักที่น่าใช้อย่างหนึ่ง ไม่ต้องดูแลมาก ใช้ผ่าใช้สับ ใช้ทุบตีแทนค้อนก็ยังได้
เวลาตีมีดแบบนี้อย่าลืมสวดคาถาด้วยนะครับ มีคาถากำกับว่า

You know what you are... what you're made of. War is in your blood. Don't fight it.

รับรองว่าตีสำเร็จแน่ครับผม เอิ้ก เอิ้ก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่