ผมไม่รู้ว่า จะมีใครคิด หรือ รู้สึกเหมือนผมรึเปล่านะครับ

แต่ผมได้ทำการวิเคราะห์จากหลายๆปีมา ประมาณนี้ว่า    สถานการณ์ในปี 2568 นั้น  มันเลวร้ายในลักษณะที่ว่า  คนส่วนใหญ่ที่เกิดมาถึงตอนนี้อาจไม่เคยเจอมาก่อน  หรือ มันเลวร้ายเกินกว่าปี 40 ไปแล้วนะผมว่า

ทำไม ?

เพราะในปี 40 นั้น   ประเทศเราไปผิดพลาดทางเรื่องการเงินแค่เรื่องเดียว   แต่ปัญหาในปี 2567-2568 นั้น   มันเป็นปัญหาที่สะสมเรื้อรังมาหลายปี(เอาเป็นว่า เราไม่พูดถึงต้นเหตุที่มาจากทางการเมืองก็แล้วกัน)

ที่ผ่านมา 5 ปีได้เลย   มันคือ การเผาจริงทั้งหมดเลย   มีแต่ลูกจ้างและข้าราชการเท่านั้นที่จะไม่รู้สึกอะไร

ตั้งปี 63-64  คือมี  โควิด  ผู้คนท่องเที่ยวไม่ได้  ออกเดินห้างไม่ได้   ถึงแม้ว่าจะมีธุรกิจลอจิสติกที่โต  แต่ว่าก็ไม่ได้ฉุด GDP ขึ้นมาได้    และภายหลังยอดขายที่โตโดยไม่เป็นไปตามธรรมชาตินั้น  ก็กลับมาสร้างปัญหาในการบริหารจัดการ

ปี 65  ก็สงครามรัสเซีย  ยูเครนต่อ   ส่งผลให้ยุโรปต้องใช้พลังงานราคาแพง   ปัญหานั้นลามมาถึงฝั่งเอเชียบ้างในการที่สินค้าบางประเภทต้องขึ้นราคาตาม 10-30 %
 
ปี 67  ก็สงคราม อิสราเอล  ปาเลสไตน์  ส่งผลให้ราคาทองคำขึ้นสูง    ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีนะครับ  มันแปลว่า นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจในด้านอื่นๆเลย   ต้องมาหาความมั่นคงในทองคำ   และ ฝั่งรัสเซีย  ยูเครนที่ยังไม่มีท่าว่าจะจบลง

พอมามองที่ฝั่งเอเชีย   AEC  และประเทศไทย ด้านสงครามการค้า  ตั้งแต่ปี 65-67 แล้ว  จีนก็เหมือนจะรุกเศรษฐกิจไทย และ ตีทุนญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยมาร่วมๆ 50 ปีให้ออกไปนอกประเทศไทยได้เยอะมาก     และโรงงานจีนก็มีระบบอัตโนมัติ และ Ai มีการจ้างงานคนไทยที่น้อยลงกว่าเดิม

** พอพิมพ์มาถึงตรงนี้ หลายๆท่านอาจะเห็นตามอย่างที่ผมว่าในข้างต้นว่า   เหตุการณ์ในตอนนี้ มันเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงขนาดที่ว่า คนส่วนใหญ่ที่เกิดมาไม่เคยพบ  เคยเจอจริงๆ

ผมรู้สึกว่า ปัญหาในตอนนี้   ไม่ว่าจะมองไปทางไหน   วงการใด  มันมีแต่ลบๆๆๆๆ  ไปหมด   ทุกคน   ทุกวงการแย่ไปหมด    ไม่ว่าจะหันไปทางไหน   ไปขอความช่วยเหลือใคร   เหมือนจะเจอแต่ทางตันๆๆๆๆ   เจอคนที่แย่ๆ เหมือนกับเรา   หรือ แย่กว่าเรา

อย่างกรณีของ ดิไอคอน  ก็บ่งบอกว่า  กำลังซื้อจริงๆ  การทำธุรกิจจริง  มันทำไม่ได้แล้ว   ขายฝัน   ขายความหวังกันไป    และคนก็ไม่มีที่พึ่ง  ต้องไปพึ่งพาสิ่งที่ ไม่เป็นเหตุ เป็นผล

กรณี เชนธนา ก็เช่นกันนะ   มันสะท้อนอะไรออกมาได้มากเหมือนกัน    ว่าเศรษฐกิจแย่มาหลายปี    บริษัททนขาดทุนสะสมมาหลายปี  เพื่อหวังว่าเหตุการณ์จะดีขึ้น  แต่แล้วก็ไม่ใช่   แย่ลงๆ ในปีต่อๆไป

ยิ่งช่วงเวลาข้ามปีใหม่  ไม่ว่าจะ ปี 67  หรือ  68   กลับมีแต่โศกนาฏกรรม เปิดปีมาทั้งนั้น

ในปี 2568 นี้  ก็ไม่ทราบว่าจะมีโรงงานปิดตัวอีกมาเท่าใดครับ

ตอนนี้คนที่โชคดีที่สุด  เหมือนจะเป็นลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ และ ข้าราชการครับ
ภาคธุรกิจระดับ SME รอดยากมากๆ  เพราะว่า  ขยาดทุนใหญ่ๆ  ยังเอาตัวรอดยากเลย

ไม่ได้จะบอกว่า รัฐบาลนี้บริหารไม่ดีนะคัรบ   แต่โครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย  มันย่ำแย่มาร่วมๆ 30-50 ปีแล้วจริงๆ   ถ้าไม่อย่ยังอาจพอมีบางแนวทางที่จะแก้ไขได้

เพื่อนๆ ท่านอื่นที่ทำธุรกิจ  ตอนนี้เป็นยังไงกันบ้างครับ