3.เงินเดือนไม่พอรายจ่าย
กลุ่มนี้เอาจริงๆมีประเด็นคือ
1 เงินไม่พอจริงๆ
2 เงินเเหมือนจะไม่พอ
3 จริงๆแล้วมันพอ
ขอเริ่มแบบนี้ครับ
เงินเดือนไม่พอจ่าย เราต้องมาแยกคิดกันจริงๆก่อนว่า เพราะมันไม่พอจริงๆ รายจ่ายมันล้นมือ หรือเพราะไม่พอ เพราะ life style ของเรา ที่มันเกินตัว หรือเอาจริงๆถ้าชอบปรับการกินใช้ก็อาจจะพอเดือนชนเดือนได้ มันก็หลากหลายประเด็น
บางคนอ้างว่า ต้องเข้าสังคม ต้องดูดี คนอื่นๆเค้าก็ใช้แบบนี้ ไม่มีอายเค้าตาย อายเด็ก อายเพื่อน บลาๆ พูดไปเริ่มคล้ายๆละครคุณธรรมละ ต่างที่ไม่มีท่านประธานในตอนจบ
ส่วนหลายๆคนก็เข้าใจครับว่าไม่พอจริงๆ แต่ถ้าไม่พอจริงๆแล้ว เราจะยังไงกันต่อ ชีวิตก็ต้องก้าวต่อไป ที่เราอยู่ รายได้มันน้อย หรือ รายจ่ายมันเยอะกันแน่
เคสกลุ่มนี้วิธีแก้ต้องเรียกว่า Case by Case กันเลยทีเดียว แต่อันดับแรกเลย ทุกคนต้องวินิจฉัยโรคตัวเองก่อน ว่าหนักหนาสาหัส หรือบาดเจ็บเล็กน้อย โดยการเริ่มทำบัญชีรับจ่ายครับ เพื่อแจงรายได้รายจ่ายของเราออกมา ให้เป็นรูปธรรมอันดับแรก เพื่อที่จะได้รู้ว่า จริงๆมันเกิดจากอะไร แล้วหาทางแก้ไปทีละเปลาะ เช่น
หล่นมาจากกลุ่มเดือนชนเดือน
ใช้จ่ายบัตรเกินตัว ผ่อนมากเกินจนไม่ไหว และเข้าสู่วงจรโคตรอันตราย กดบัตรโป๊ะบัตร ใครอยู่กลุ่มนี้ หรือกำลังจะเข้าสู่กลุ่มนี้
- - - - - - - - ห้าม!!!!! กดบัตรมาจ่ายบัตรเด็ดขาด - - - - - - - - - - - -
ไม่กดแล้วทำไงเอาไหนจ่าย ยอมรับความจริงครับ ไม่ต้องหน้าบางงานนี้ รับผิดแลัวแก้ซะ
ทางแก้คือ ขอประนอมหนี้ครับ ค้างเดือน สองเดือน เจ้าหน้าที่บัตรมักจะอ้างโน่นนี่นั้น ไม่ให้ปรับ ไม่ให้ทำ ต้องจ่ายก่อน เท่านั้นเท่านี้ ก็คนไม่มี เอามาจากไหน ไม่มีก็ต้องยอมรับและหันหน้าสู้แก้ไขครับ การกดบัตรโป๊ะบัตร มีแต่เพิ่มปัญหา
ท้ายที่สุด อาจจะเสียประวัตเครดิต เสียไปครับ ไม่ต้องมาโลกสวย ไม่ต้องดราม่า ผิดต้องแก้ และแก้ให้ถูก ไม่ใช้แก้แบบผิดๆ
ส่วนใหญ่รอค้าง 3 เดือน หรือ เกิน 3 เดือน เค้าจะยอมให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หนี้บัตร 30,000 ผ่อนเดือนละ 3000 อาจจะเหลือแต่ 1,000 ต่อเดือน นาทีนี้ต้องยอมรับ ยอมอะไร คือ ยอมให้ดอกมันเกิด ยอมเสีย ดอกเบี้ยปรับ ยอมเสียประวัติ เพื่อลดภาระ ลองสักสามใน 30,000 3 ใบ ผ่อน 9000 อาจจะเหลือ แต่ 3000 4000 หรือน้อยกว่านั้น แต่ต้องแลกครับ
หรือ worst case เค้าไม่ปรับ ยอมไปขึ้นศาลครับ วันขึ้นศาล ทนายบัตรจะเข้ามาเจรจาตรงนั้น ประนอมกันตรงนั้นได้เลยไม่ต้องขอศาล
ถ้าใครเดินทางมาถึงจุดนี้ อย่าเพิ่งไปห่วงเรื่องเครดิตเสีย เสียสร้างใหม่ครับ เจ็บแต่จบ แต่ต้องจำด้วยนะครับ
กลุ่มมีรายได้ งานดี แต่รายจ่ายเยอะเหลือเกิน
เมื่อทำบัญชีรับจ่าย เราจะเห็นโรคตัวเอง ง่ายที่สุดคือ ลดรายจ่ายครับ ลดไม่ใช่อด ไม่ใช่ไม่ใช้ แต่ใช้ให้น้อยลง เปลี่ยนของที่ใช้ หาวิธีลดรายจ่าย เป้าหมายแรกยังไม่ต้องหวังออมครับ หวังเดือนชนเดือนก่อน ค่อยๆปรับ เชื่อไหมครับ บางคนคิดว่าตัวเองอยู่ไม่ได้หรอก เงินเดือนไม่พอ ใช้ไม่พอ แต่ลงได้ลงบัญชี เห็นรายจ่ายตัวเอง แล้ว ก็ยอมเปิดใจปรับตัว ลำบากมากขึ้น กินไม่อร่อยเหมือนเดิม ใช้ของเกรดไม่ดีเท่าเดิม แต่เชื่อถือครับว่าคุณจะนอนหลับดีกว่าเดิม แล้วทำไปเรื่อยๆจะชินและจะเข้าใจว่า เออมันก็อยู่ได้จริงๆ จากนั่งรถมอไซไปต่อรถลองเดินดู ,จากเข้า 7-11 ลองไม่เข้าดู , จากกินน้ำหวาน ก็ลองไม่กิน หรือเว้นบ้างดู ถ้าสงสัยต้วเองว่าจะอยู่ได้ไหม เคยคิดไหมครับ คนที่ทำงานรับจ้างรายวันเลี้ยงลูก 2 คน ทำไมเค้าเลี้ยงลูกตจนโตได้ เปิดใจและปรับตัว ครับ หรือถ้ายังมีหนี้สินรุงรังบัตรเครดิต ก็ทำแบบกลุ่มแรกครับ เจ็บ แต่จบ
ไม่พอจริงๆ
ง่ายที่สุดคือลดรายจ่ายเหมือนกลุ่มอื่นๆครับ ถ้ายังไม่พอ อาจจะต้องหารายได้เพิ่ม ทุกที่มีโอกาสครับ เราอาจจะต้องเหนื่อยหน่อย ต้นทุนเราไม่เท่ากัน แต่โอกาสและเวลา เรามีเท่ากันครับ
อย่ากลัวไปก่อนว่าจะทำอะไรได้ ทำอะไรไม่เป็นเลย อินเตอเน็ตมี ช่องทางมีเยอะครับ แต่ต้องลงมือทำ เราอาจจะต้องทำคู่กันไป ทั้งลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ถ้าคนโสดก็ง่ายหน่อย คนมีครอบครัวมีลูก เข้าใจครับว่ายาก แต่เราก็ต้องมีเป้าหมายด้วยกัน ให้เข้าใจกัน ภาพเดียวกันกับแฟน คุยกันตรงๆ เราไม่มีนะ เราทำไงกันดี ทำกับข้าวกินดีไหม ลดไปเยอะ ไปเที่ยวไม่ไปได้ไหม เลิกคิดไปก่อนครับ เรื่องให้รางวัลตัวเอง พาลูกๆไป 7-11 ไม่ไปได้ไหม หาขนมอื่นๆให้เด็กๆ เด็กๆไม่มากเรื่องหรอกครับ เราแหละคิดเอาเองให้เค้ามีกิน เค้ากะโอเคแล้ว จากไป 7-11 ครั้งละ 300 เอา 100 ไปซื้อขนมถุงวางไว้ น้ำบ้าง เด็กๆมันก็พอแล้วครับ
ค่อยๆปรับไปทีละเล็กน้อย ปรับทั้งรายจ่าย ปรับทั้งตัวเอง เชื่อเถอะครับ อยู่ได้
พอเราค่อยๆปรับตัว รายได้เพิ่ม รายจ่ายลด ชีวิตเข้าที่เข้าทาง เราค่อยหาทางขยับ ค่อยหาทางออม จริงๆมันก็ออมได้นะ โยนเรียญเข้ากระปุกใช้แต่แบงค์ เชื่อมะสิ้นดือนบางมีมีหลายร้อย
การเพิ่มรายได้ ไม่ใช่นึกอยากจะทำแล้วมันจะสำเร็จ จะเพิ่มยังไง เริ่มตรงไหน เวลาไม่มี ทีอยู่ก็เหนื่อยจะตายแล้ว เข้าใจครับ
แต่ถ้าอยากจะหลุดจากวังวน และก้าวไปสู้สิ่งที่ดีกว่า คุณก็ต้องพยามยามมากกว่าคนอื่นครับ
การเพิ่มรายได้ง่ายที่สุด และทรมานน้อยที่สุดคือ เริ่มจากสิ่งที่เรารักครับ ชอบทำอาหาร ชอบขายของ ชอบท่องเที่ยว ชอบขนม ชอบคุย หาช่องทางจากมัน ทำข้าวไปขาย ทำบล็อกเกอร์ ติ๊กต๊อกเกอร์ เล่นหุ้น เทรดคริปโต
ถ้า...เราไม่มีสิ่งที่ชอบหรือนึกไม่ออก ก็เริ่มจากอะไรสักอย่างครับ หาความรู้แล้วลงมือทำ ได้ไม่ได้ วันหนึ่งก็จะดีขึ้นครับ
.........................................เมื่อผ่านมันมาได้ "ค่าของเงิน" ของคุณจะไม่เหมือนเดิม.....................................................
เคยสงสัยไหม สถานะการเงินของเราเป็นแบบไหน (3/3)
กลุ่มนี้เอาจริงๆมีประเด็นคือ
1 เงินไม่พอจริงๆ
2 เงินเเหมือนจะไม่พอ
3 จริงๆแล้วมันพอ
ขอเริ่มแบบนี้ครับ
เงินเดือนไม่พอจ่าย เราต้องมาแยกคิดกันจริงๆก่อนว่า เพราะมันไม่พอจริงๆ รายจ่ายมันล้นมือ หรือเพราะไม่พอ เพราะ life style ของเรา ที่มันเกินตัว หรือเอาจริงๆถ้าชอบปรับการกินใช้ก็อาจจะพอเดือนชนเดือนได้ มันก็หลากหลายประเด็น
บางคนอ้างว่า ต้องเข้าสังคม ต้องดูดี คนอื่นๆเค้าก็ใช้แบบนี้ ไม่มีอายเค้าตาย อายเด็ก อายเพื่อน บลาๆ พูดไปเริ่มคล้ายๆละครคุณธรรมละ ต่างที่ไม่มีท่านประธานในตอนจบ
ส่วนหลายๆคนก็เข้าใจครับว่าไม่พอจริงๆ แต่ถ้าไม่พอจริงๆแล้ว เราจะยังไงกันต่อ ชีวิตก็ต้องก้าวต่อไป ที่เราอยู่ รายได้มันน้อย หรือ รายจ่ายมันเยอะกันแน่
เคสกลุ่มนี้วิธีแก้ต้องเรียกว่า Case by Case กันเลยทีเดียว แต่อันดับแรกเลย ทุกคนต้องวินิจฉัยโรคตัวเองก่อน ว่าหนักหนาสาหัส หรือบาดเจ็บเล็กน้อย โดยการเริ่มทำบัญชีรับจ่ายครับ เพื่อแจงรายได้รายจ่ายของเราออกมา ให้เป็นรูปธรรมอันดับแรก เพื่อที่จะได้รู้ว่า จริงๆมันเกิดจากอะไร แล้วหาทางแก้ไปทีละเปลาะ เช่น
หล่นมาจากกลุ่มเดือนชนเดือน
ใช้จ่ายบัตรเกินตัว ผ่อนมากเกินจนไม่ไหว และเข้าสู่วงจรโคตรอันตราย กดบัตรโป๊ะบัตร ใครอยู่กลุ่มนี้ หรือกำลังจะเข้าสู่กลุ่มนี้
- - - - - - - - ห้าม!!!!! กดบัตรมาจ่ายบัตรเด็ดขาด - - - - - - - - - - - -
ไม่กดแล้วทำไงเอาไหนจ่าย ยอมรับความจริงครับ ไม่ต้องหน้าบางงานนี้ รับผิดแลัวแก้ซะ
ทางแก้คือ ขอประนอมหนี้ครับ ค้างเดือน สองเดือน เจ้าหน้าที่บัตรมักจะอ้างโน่นนี่นั้น ไม่ให้ปรับ ไม่ให้ทำ ต้องจ่ายก่อน เท่านั้นเท่านี้ ก็คนไม่มี เอามาจากไหน ไม่มีก็ต้องยอมรับและหันหน้าสู้แก้ไขครับ การกดบัตรโป๊ะบัตร มีแต่เพิ่มปัญหา
ท้ายที่สุด อาจจะเสียประวัตเครดิต เสียไปครับ ไม่ต้องมาโลกสวย ไม่ต้องดราม่า ผิดต้องแก้ และแก้ให้ถูก ไม่ใช้แก้แบบผิดๆ
ส่วนใหญ่รอค้าง 3 เดือน หรือ เกิน 3 เดือน เค้าจะยอมให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หนี้บัตร 30,000 ผ่อนเดือนละ 3000 อาจจะเหลือแต่ 1,000 ต่อเดือน นาทีนี้ต้องยอมรับ ยอมอะไร คือ ยอมให้ดอกมันเกิด ยอมเสีย ดอกเบี้ยปรับ ยอมเสียประวัติ เพื่อลดภาระ ลองสักสามใน 30,000 3 ใบ ผ่อน 9000 อาจจะเหลือ แต่ 3000 4000 หรือน้อยกว่านั้น แต่ต้องแลกครับ
หรือ worst case เค้าไม่ปรับ ยอมไปขึ้นศาลครับ วันขึ้นศาล ทนายบัตรจะเข้ามาเจรจาตรงนั้น ประนอมกันตรงนั้นได้เลยไม่ต้องขอศาล
ถ้าใครเดินทางมาถึงจุดนี้ อย่าเพิ่งไปห่วงเรื่องเครดิตเสีย เสียสร้างใหม่ครับ เจ็บแต่จบ แต่ต้องจำด้วยนะครับ
กลุ่มมีรายได้ งานดี แต่รายจ่ายเยอะเหลือเกิน
เมื่อทำบัญชีรับจ่าย เราจะเห็นโรคตัวเอง ง่ายที่สุดคือ ลดรายจ่ายครับ ลดไม่ใช่อด ไม่ใช่ไม่ใช้ แต่ใช้ให้น้อยลง เปลี่ยนของที่ใช้ หาวิธีลดรายจ่าย เป้าหมายแรกยังไม่ต้องหวังออมครับ หวังเดือนชนเดือนก่อน ค่อยๆปรับ เชื่อไหมครับ บางคนคิดว่าตัวเองอยู่ไม่ได้หรอก เงินเดือนไม่พอ ใช้ไม่พอ แต่ลงได้ลงบัญชี เห็นรายจ่ายตัวเอง แล้ว ก็ยอมเปิดใจปรับตัว ลำบากมากขึ้น กินไม่อร่อยเหมือนเดิม ใช้ของเกรดไม่ดีเท่าเดิม แต่เชื่อถือครับว่าคุณจะนอนหลับดีกว่าเดิม แล้วทำไปเรื่อยๆจะชินและจะเข้าใจว่า เออมันก็อยู่ได้จริงๆ จากนั่งรถมอไซไปต่อรถลองเดินดู ,จากเข้า 7-11 ลองไม่เข้าดู , จากกินน้ำหวาน ก็ลองไม่กิน หรือเว้นบ้างดู ถ้าสงสัยต้วเองว่าจะอยู่ได้ไหม เคยคิดไหมครับ คนที่ทำงานรับจ้างรายวันเลี้ยงลูก 2 คน ทำไมเค้าเลี้ยงลูกตจนโตได้ เปิดใจและปรับตัว ครับ หรือถ้ายังมีหนี้สินรุงรังบัตรเครดิต ก็ทำแบบกลุ่มแรกครับ เจ็บ แต่จบ
ไม่พอจริงๆ
ง่ายที่สุดคือลดรายจ่ายเหมือนกลุ่มอื่นๆครับ ถ้ายังไม่พอ อาจจะต้องหารายได้เพิ่ม ทุกที่มีโอกาสครับ เราอาจจะต้องเหนื่อยหน่อย ต้นทุนเราไม่เท่ากัน แต่โอกาสและเวลา เรามีเท่ากันครับ
อย่ากลัวไปก่อนว่าจะทำอะไรได้ ทำอะไรไม่เป็นเลย อินเตอเน็ตมี ช่องทางมีเยอะครับ แต่ต้องลงมือทำ เราอาจจะต้องทำคู่กันไป ทั้งลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ถ้าคนโสดก็ง่ายหน่อย คนมีครอบครัวมีลูก เข้าใจครับว่ายาก แต่เราก็ต้องมีเป้าหมายด้วยกัน ให้เข้าใจกัน ภาพเดียวกันกับแฟน คุยกันตรงๆ เราไม่มีนะ เราทำไงกันดี ทำกับข้าวกินดีไหม ลดไปเยอะ ไปเที่ยวไม่ไปได้ไหม เลิกคิดไปก่อนครับ เรื่องให้รางวัลตัวเอง พาลูกๆไป 7-11 ไม่ไปได้ไหม หาขนมอื่นๆให้เด็กๆ เด็กๆไม่มากเรื่องหรอกครับ เราแหละคิดเอาเองให้เค้ามีกิน เค้ากะโอเคแล้ว จากไป 7-11 ครั้งละ 300 เอา 100 ไปซื้อขนมถุงวางไว้ น้ำบ้าง เด็กๆมันก็พอแล้วครับ
ค่อยๆปรับไปทีละเล็กน้อย ปรับทั้งรายจ่าย ปรับทั้งตัวเอง เชื่อเถอะครับ อยู่ได้
พอเราค่อยๆปรับตัว รายได้เพิ่ม รายจ่ายลด ชีวิตเข้าที่เข้าทาง เราค่อยหาทางขยับ ค่อยหาทางออม จริงๆมันก็ออมได้นะ โยนเรียญเข้ากระปุกใช้แต่แบงค์ เชื่อมะสิ้นดือนบางมีมีหลายร้อย
การเพิ่มรายได้ ไม่ใช่นึกอยากจะทำแล้วมันจะสำเร็จ จะเพิ่มยังไง เริ่มตรงไหน เวลาไม่มี ทีอยู่ก็เหนื่อยจะตายแล้ว เข้าใจครับ
แต่ถ้าอยากจะหลุดจากวังวน และก้าวไปสู้สิ่งที่ดีกว่า คุณก็ต้องพยามยามมากกว่าคนอื่นครับ
การเพิ่มรายได้ง่ายที่สุด และทรมานน้อยที่สุดคือ เริ่มจากสิ่งที่เรารักครับ ชอบทำอาหาร ชอบขายของ ชอบท่องเที่ยว ชอบขนม ชอบคุย หาช่องทางจากมัน ทำข้าวไปขาย ทำบล็อกเกอร์ ติ๊กต๊อกเกอร์ เล่นหุ้น เทรดคริปโต
ถ้า...เราไม่มีสิ่งที่ชอบหรือนึกไม่ออก ก็เริ่มจากอะไรสักอย่างครับ หาความรู้แล้วลงมือทำ ได้ไม่ได้ วันหนึ่งก็จะดีขึ้นครับ
.........................................เมื่อผ่านมันมาได้ "ค่าของเงิน" ของคุณจะไม่เหมือนเดิม.....................................................