พอดีมีปัญหาทางความคิดบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเองอยากปรึกษาเพื่อนๆ ในพันทิบเพื่ออยากได้คำแนะนำมาเปลี่ยน mind set บางอย่างของตัวเอง
ขอเล่าประวัติส่วนตัวครับ
ผมเติบโตมาในบ้านคนจีนที่มีฐานะเป็นชนชั้นกลาง ทั้ง ปู่-ย่า ตา-ยาย อพยพมาจากจีน
ฝั่งตา-ยาย สร้างตัวในประเทศจนมีฐานะค่อนข้างร่ำรวย มีลูกค่อนข้างเยอะ แต่เพราะว่าท่านเริ่มสร้างตัวจาก0
ทำให้การเลี้ยงดูแม่ผมค่อนข้างเข้มงวด ประหยัด มัธยัสถ์ ใช้เงินระมัดระวังมาก ทำให้แม่ผมได้นิสัยการใช้เงินแบบนี้มาด้วย
ฝั่งปู่-ย่า ท่านไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่มีลูกเยอะเหมือนกัน ผมไม่ค่อยทราบประวัติทางฝั่งพ่อมาก แต่พอจะรู้ว่า
ด้วยสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตทำให้นิสัยทางการเงินพ่อก็ประหยัดมากๆเหมือนกัน แต่จะประหยัดคนละแบบกับแม่
พ่อผมทำงานบริษัท ส่วนแม่ผมก็เป็นแม่บ้าน + ดูแลธุรกิจเล็กๆน้อยๆ หลังจากตาเสียไปแล้ว การเงินไม่ขัดสน ไม่เคยมีหนี้
ผมเป็นลูกคนที่2 ตั้งแต่ลืมตาดูโลก ใช้ของทุกอย่างต่อจากพี่ ตั้งแต่ขวดนม ถุงเท้า เสื้อผ้า ชุดลูกเสื้อ โทรศัพท์
จนเรียนจบ ก็ยังต้องใช้รถมือสองของพี่ต่อ ที่บ้านก็ประหยัด พ่อใช้รถ30ปี+
จริงๆ ผมเป็นคนที่วัตถุนิยมครับ เห็นคนอื่นมีก็อยากมี อยากได้ แต่ที่บ้านผมไม่ค่อยซื้อให้เท่าไหร่ สิ่งที่ซื้อให้ที่ผมจำได้มีหุ่นเบจิโต้ตัวนึง โน้ตบุ้คตอนเข้าม.4 มือถือก็ใช้ของตกรุ่นแล้วสองถึงสามปี(ของพี่บ้าง ของพ่อบ้าง) ได้แต่อ่าน ดูรีวิว (คืออยากได้ แต่ไม่ได้) ก็แอบอิจฉาเพื่อนๆ ในโรงเรียนที่ได้มือถือใหม่ทุกปี (แต่ในด้านอื่นๆ ผมไม่เคยขาด เรียนพิเศษ กินอยู่ จ่ายได้ไม่มีปัญหา) มอไซค์พ่อก็ซื้อมือสองอายุสิบปีมาให้ตอนจบมัธยม
พอขึ้นมหาลัย เรียนจบ ด้วยวัย สิ่งที่สนใจมันก็เปลี่ยน... ผมมาบ้ารถครับ เอาจริงๆเริ่มสนใจตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัย เห็นเพื่อนๆ ขับรถยนต์กัน ผมก็อยากมีกับเขาบ้าง ขอแม่ ขอพ่อ เต้าะๆ ก็ไม่ได้ บอกว่าเรียนจบให้ซื้อเอง ตอนเรียนคิดว่าจบปี6มาจะจัดเลย พอจบมาแล้วก็... ได้ซื้อรถพี่มาใช้ต่อครับ (แกมบังคับ)
หลังจากนั้น ผมต้องขับรถทุกวัน โดยขับวันนึงประมาณ200โลไป-กลับ ที่ทำงาน
ปัญหาคือผมไม่ได้รักรถคันนี้ขนาดนั้น พยายามทำใจแล้ว ไม่รักก็คือไม่รัก 55555
ทำงานมาซักพัก เงินพร้อม พอจะออกคันใหม่จริงๆ ผมไม่กล้าออกว่ะ เสียดายเงิน รู้สึกว่าตัวเองกำลังละเมิดสิ่งที่พ่อแม่ตีกรอบ มันเหมือนมีเส้นแบ่งที่มันรั้งเราไว้
ตอนนี้ไม่รู้ว่าผมรู้สึกอะไร ดีหรือไม่ดี สับสน เห็นเพื่อนวัยเดียวกันออกรถแล้วได้แต่อิจฉา เหมือนเห็นตัวเองตอนเด็ก แล้วก็เข้าใจสิ่งที่พ่อแม่รู้สึกเวลาต้องซื้อของแต่ละชิ้น ผมไม่รู้ว่าตัวเองถูกเลี้ยงมาอย่างถูกต้องหรือไม่
แล้วเราจะมีเงินไปทำไม ถ้าสุดท้ายเราไม่กล้าใช้เงิน
ข้อมูลด้านการเงินของผม ที่คิดว่าตัวเองค่อนข้างจะ well-planed ในระยะยาว
แบ่งเงินลงทุน เดือนละ 35k (ไม่รวม กบข.)
เงินให้ตัวเองใช้ 20k
ที่เหลือเก็บเป็น cash ในบัญชี ส่วนนี้ตั้งใจจะเก็บไว้ซื้อรถในตอนแรก ซึ่งตอนนี้พอจะดาวน์ ผ่อน จ่ายค่าประกัน เชื้อเพลิง โดยไม่กระทบกับการใช้ชีวิต
มีเงิน แต่ไม่กล้าใช้เงิน…
ขอเล่าประวัติส่วนตัวครับ
ผมเติบโตมาในบ้านคนจีนที่มีฐานะเป็นชนชั้นกลาง ทั้ง ปู่-ย่า ตา-ยาย อพยพมาจากจีน
ฝั่งตา-ยาย สร้างตัวในประเทศจนมีฐานะค่อนข้างร่ำรวย มีลูกค่อนข้างเยอะ แต่เพราะว่าท่านเริ่มสร้างตัวจาก0
ทำให้การเลี้ยงดูแม่ผมค่อนข้างเข้มงวด ประหยัด มัธยัสถ์ ใช้เงินระมัดระวังมาก ทำให้แม่ผมได้นิสัยการใช้เงินแบบนี้มาด้วย
ฝั่งปู่-ย่า ท่านไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่มีลูกเยอะเหมือนกัน ผมไม่ค่อยทราบประวัติทางฝั่งพ่อมาก แต่พอจะรู้ว่า
ด้วยสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตทำให้นิสัยทางการเงินพ่อก็ประหยัดมากๆเหมือนกัน แต่จะประหยัดคนละแบบกับแม่
พ่อผมทำงานบริษัท ส่วนแม่ผมก็เป็นแม่บ้าน + ดูแลธุรกิจเล็กๆน้อยๆ หลังจากตาเสียไปแล้ว การเงินไม่ขัดสน ไม่เคยมีหนี้
ผมเป็นลูกคนที่2 ตั้งแต่ลืมตาดูโลก ใช้ของทุกอย่างต่อจากพี่ ตั้งแต่ขวดนม ถุงเท้า เสื้อผ้า ชุดลูกเสื้อ โทรศัพท์
จนเรียนจบ ก็ยังต้องใช้รถมือสองของพี่ต่อ ที่บ้านก็ประหยัด พ่อใช้รถ30ปี+
จริงๆ ผมเป็นคนที่วัตถุนิยมครับ เห็นคนอื่นมีก็อยากมี อยากได้ แต่ที่บ้านผมไม่ค่อยซื้อให้เท่าไหร่ สิ่งที่ซื้อให้ที่ผมจำได้มีหุ่นเบจิโต้ตัวนึง โน้ตบุ้คตอนเข้าม.4 มือถือก็ใช้ของตกรุ่นแล้วสองถึงสามปี(ของพี่บ้าง ของพ่อบ้าง) ได้แต่อ่าน ดูรีวิว (คืออยากได้ แต่ไม่ได้) ก็แอบอิจฉาเพื่อนๆ ในโรงเรียนที่ได้มือถือใหม่ทุกปี (แต่ในด้านอื่นๆ ผมไม่เคยขาด เรียนพิเศษ กินอยู่ จ่ายได้ไม่มีปัญหา) มอไซค์พ่อก็ซื้อมือสองอายุสิบปีมาให้ตอนจบมัธยม
พอขึ้นมหาลัย เรียนจบ ด้วยวัย สิ่งที่สนใจมันก็เปลี่ยน... ผมมาบ้ารถครับ เอาจริงๆเริ่มสนใจตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัย เห็นเพื่อนๆ ขับรถยนต์กัน ผมก็อยากมีกับเขาบ้าง ขอแม่ ขอพ่อ เต้าะๆ ก็ไม่ได้ บอกว่าเรียนจบให้ซื้อเอง ตอนเรียนคิดว่าจบปี6มาจะจัดเลย พอจบมาแล้วก็... ได้ซื้อรถพี่มาใช้ต่อครับ (แกมบังคับ)
หลังจากนั้น ผมต้องขับรถทุกวัน โดยขับวันนึงประมาณ200โลไป-กลับ ที่ทำงาน
ปัญหาคือผมไม่ได้รักรถคันนี้ขนาดนั้น พยายามทำใจแล้ว ไม่รักก็คือไม่รัก 55555
ทำงานมาซักพัก เงินพร้อม พอจะออกคันใหม่จริงๆ ผมไม่กล้าออกว่ะ เสียดายเงิน รู้สึกว่าตัวเองกำลังละเมิดสิ่งที่พ่อแม่ตีกรอบ มันเหมือนมีเส้นแบ่งที่มันรั้งเราไว้
ตอนนี้ไม่รู้ว่าผมรู้สึกอะไร ดีหรือไม่ดี สับสน เห็นเพื่อนวัยเดียวกันออกรถแล้วได้แต่อิจฉา เหมือนเห็นตัวเองตอนเด็ก แล้วก็เข้าใจสิ่งที่พ่อแม่รู้สึกเวลาต้องซื้อของแต่ละชิ้น ผมไม่รู้ว่าตัวเองถูกเลี้ยงมาอย่างถูกต้องหรือไม่
แล้วเราจะมีเงินไปทำไม ถ้าสุดท้ายเราไม่กล้าใช้เงิน
ข้อมูลด้านการเงินของผม ที่คิดว่าตัวเองค่อนข้างจะ well-planed ในระยะยาว
แบ่งเงินลงทุน เดือนละ 35k (ไม่รวม กบข.)
เงินให้ตัวเองใช้ 20k
ที่เหลือเก็บเป็น cash ในบัญชี ส่วนนี้ตั้งใจจะเก็บไว้ซื้อรถในตอนแรก ซึ่งตอนนี้พอจะดาวน์ ผ่อน จ่ายค่าประกัน เชื้อเพลิง โดยไม่กระทบกับการใช้ชีวิต