คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 115
ขอบคุณทุกกำลังใจและคำแนะนำจากทุกคนมากๆ นะคะ เราอ่านทุกข้อความแล้ว รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
อยากบอกเพิ่มเติมว่า เราไม่ได้เป็นคนหัวอ่อนขนาดที่แม่ขอแล้วให้ทันที แต่ปัญหาคือ พอเราปฏิเสธหรือพูดตรงๆ แม่จะตัดพ้อด้วยคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ เช่น “งั้นตัดแม่ตัดลูกไปเลย” หรือ “ชีวิตฉันมันโชคร้าย ไม่มีใครเลี้ยงดู สมองไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ดี” ซึ่งคำพูดเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกทุกข์ใจมาก จนสุดท้ายเราก็ยอมโอนให้
อีกเรื่องที่ทำให้ลำบากใจเพิ่มขึ้นคือ แฟนเรา (ต่างชาติ) ไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องส่งเงินให้ที่บ้านบ่อยๆ ทุกครั้งที่แม่ขอแล้วเราทั้งเสียน้ำตาและเสียเงิน ก็จะโดนแฟนบ่นเพิ่มอีก เลยรู้สึกเหมือนต้องรับมือทั้งสองทาง
ขอบคุณทุกคำแนะนำที่ช่วยให้เรามองเห็นแนวทางจัดการเรื่องนี้นะคะ ถ้าแม่ขออีก เราคงกลับมาอ่านข้อความของทุกคนในกระทู้นี้ เพื่อช่วยให้เราใจแข็งและตัดสินใจดีขึ้นค่ะ
อยากบอกเพิ่มเติมว่า เราไม่ได้เป็นคนหัวอ่อนขนาดที่แม่ขอแล้วให้ทันที แต่ปัญหาคือ พอเราปฏิเสธหรือพูดตรงๆ แม่จะตัดพ้อด้วยคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ เช่น “งั้นตัดแม่ตัดลูกไปเลย” หรือ “ชีวิตฉันมันโชคร้าย ไม่มีใครเลี้ยงดู สมองไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ดี” ซึ่งคำพูดเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกทุกข์ใจมาก จนสุดท้ายเราก็ยอมโอนให้
อีกเรื่องที่ทำให้ลำบากใจเพิ่มขึ้นคือ แฟนเรา (ต่างชาติ) ไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องส่งเงินให้ที่บ้านบ่อยๆ ทุกครั้งที่แม่ขอแล้วเราทั้งเสียน้ำตาและเสียเงิน ก็จะโดนแฟนบ่นเพิ่มอีก เลยรู้สึกเหมือนต้องรับมือทั้งสองทาง
ขอบคุณทุกคำแนะนำที่ช่วยให้เรามองเห็นแนวทางจัดการเรื่องนี้นะคะ ถ้าแม่ขออีก เราคงกลับมาอ่านข้อความของทุกคนในกระทู้นี้ เพื่อช่วยให้เราใจแข็งและตัดสินใจดีขึ้นค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ให้เท่าที่สบายใจครับ ชีวิต จขกท. สุดท้ายตอนแก่ ก็ไม่ได้สามารถไปขอเงินใครได้และไม่มีใครมาเลี้ยง ต้องเกษียณและอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นควรทำเท่าที่ตัวเองจะไม่ลำบาก
พ่อแม่ที่ดี คือพ่อแม่ที่ห่วงอนาคตลูก พ่อแม่ที่ดูดเงินลูกโดยสนใจแต่ชีวิตตัวเองคือคนที่ใช้ไม่ได้ครับ
ผมเลี้ยงลูก ทุกวันนี้ไม่เคยหวังอะไรนอกจากให้ลูกดูแลตัวเองได้และมีความสุข คิดแค่นั้นเลย ไม่เคยหวังให้ลูกต้องมาเลี้ยงดู แค่โทรมาคุยมาทักทายก็ดีใจแล้ว
พ่อแม่ที่ดี คือพ่อแม่ที่ห่วงอนาคตลูก พ่อแม่ที่ดูดเงินลูกโดยสนใจแต่ชีวิตตัวเองคือคนที่ใช้ไม่ได้ครับ
ผมเลี้ยงลูก ทุกวันนี้ไม่เคยหวังอะไรนอกจากให้ลูกดูแลตัวเองได้และมีความสุข คิดแค่นั้นเลย ไม่เคยหวังให้ลูกต้องมาเลี้ยงดู แค่โทรมาคุยมาทักทายก็ดีใจแล้ว
ความคิดเห็นที่ 18
เห็นใจนะคะ เเต่คุณไม่ใช่คนไทยในตปททึ่เจอเคสเเบบนี้เเน่ๆ มีอีกเยอะที่เจอเเบบนี้
รู้จักพี่คนไทยรุ่นพี่อายุเกิน60+ปี ที่ยังต้องทำงานงกๆ ไปทำงานเก็บ/เเบกผลไม้ช่วงหน้าร้อน เพื่อส่งให้ลูกหลานในเมืองไทยใช้ เเละมีคนคอยไถเงินไม่หยุด!! ส่วนนึงเพราะพวกนีเเคยตัว ขอเมื่อไรก็ได้ พี่เค้าใจดีเกิน จนชินกะการถูกไถค่ะ!!!
คนที่เมืองไทยส่วนใหญ่คิดว่า คนในตปท มีงาน=มีเงินมาก!!??
ในความเป็นจริงเเล้ว ก็เเค่มนุษย์เงินเดือนนี่ละค่ะ มีใช้เเบบเดือนชนเดือนเหมือนกัน ( กรณีนี้ คือคนทั่วไปที่มีฐานเงินเดือนระดับใกล้เคียงกะเรทปกติ/ถัวเฉลี่ยนะคะ)
ขอยก ตย เคสตัวเองละกัน...
ดิฉันทำงานออฟฟิต ตามสลิปเงินเดือน ตีเป็นเงินบาทเเบบกลมๆ(เรท 40บาทต่อ1ฟรังค์)= 200K บาท พอหักทุกอย่างตามกฎหมาย เหลือในมือ/เข้าบัญชีจริงๆที่175K บาท
(ตำเเหน่งงานที่ทำ ถ้าเป็นฝรั่ง/คนสวิสเเท้ๆ จะได้เรทเงินเดิอนเยอะกว่านี้ค่ะ เรทที่เราได้ถือว่า ต่ำกว่า/ถูกกดเงิน/ ได้น้อยกว่าฝรั่งว่าง่ายๆ)
พอได้เงินเดือนสุทธิมา....
ก็หักค่ากิน ค่าอยู่ ค่าผ่อนบ้าน ค่าเล่าเรียนลูก/ค่าหอพัก ฯลฯ = มีเหลือเก็บน้อยนิดมากๆ (ต้องเก็บเงินเพราะจะได้ใช้เงินก้อนนี้เพื่อมีอำนาจต่อรองการรีไฟเเนนท์เงินกู้บ้านต่อไปในอนาคตค่ะ)
อ้อ เป็นครอบครัวที่ไม่ค่อยกิน/ไม่เที่ยว/ไม่มีของใช้ฟุ่มเฟือย .. มีเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงบ้างตามเทศกาลสำคัญ รึ นานๆทีเฉพาะโอกาสสำคัญของครอบครัว... มีกันเเค่ 3คนพ่อเเม่ลูก (ลูกสาวเรียนมหาลัย) พวกเราจะออกเที่ยวปีละ 1-2ครั้งเเล้วเเต่งบ (กันเงินเที่ยวออกจากยอดเงินเก็บรายเดือนค่ะ) ...
โชคดีที่เมืองไทย มีเเม่(อายุ80+) พี่น้อง = มีงาน มีการ มีรายได้ช่วยตัวเองได้.. ญาติไม่เคยขอเงินเราเลย เค้ารู้ว่าสามีฝรั่งไม่ได้รวย(ทำงานอาชีพอิสระ รายได้ไม่เเน่นอน ข่วงมีงาน=มีเงิน ช่วงไหนไม่มีงาน=ศูนย์ก็มีค่ะ) ค่าครองชีพก็เเพง เราเองก็เลยต้องหางาน /ทำงานงกๆกะงานเครียดๆ เพื่อหาเงินมาเเบ่งเบาภาระครอบครัวทางนี้
เรื่องเเบบนี้ .. มันจึงอยู่ที่ครอบครัวฝั่งไทย ต้องเข้าใจ รับรู้ถึงสภาพความเป็นจริงด้วย... อย่าคิดตีค่าเงินที่นี่เป็นเงินบาทอย่างเดียว เพราะ กว่าจะได้มาเเต่ละบาทที่นี่ ก็ต้องทำงานหนัดเช่นกัน เเถมมีครอบครัว/มีค่าใข้จ่ายที่ต้องดูเเลเหมือนกัน..
ขออนุญาตเเนะนำว่า....
ให้เเม่คุณเท่าที่ให้ได้เเบบสบายใจ จำนวนfixรายเดือน =ให้ได้เท่านี้ ไม่เพิ่มไม่ลด!
บอกไปเลยว่าจะต้องใช้เงินดูเเลครอบครัวตัวเองเช่นกัน ....
เค้าไม่เคยเลี้ยง/ดูเเลคุณ .. เเถมไม่มีภาระ บ้านมีที่ดินก็มี รายได้จากึ่าเช่าจากร้านค้าอีก ชีวิตดีกว้าอีดหลายครอยครัว!! ..
ก็ควรให้เท่าที่เห็นสมควร ไม่ใช่ให้เท่าที่เค้าขอ
*ความเป็นเเม่ดูจากการกระทำ/การทำหน้าที่เเม่ค่ะ ไม่ใช้เเค่การให้พักพิงช่วงตั้งท้องค่ะ*
ถ้าเป็นไปได้ เเบ่งเงินข้างต้นส่วนนึงมาให้พ่อกะยายที่เลี้ยงคุณมาดีกว่า??
เค้าอาจไม่เคยขอ คงเพราะว่าเค้ารู้ว่าคุณโดนเเม่ไถรายเดิอน/มีไถรายย่อยอีก?? เค้าคงไม่อยากเพิ่มภาระให้คุณมังคะ?
ถ้าคุณทำได้ ควรให้เงินกะยายกะพ่อ .... กตัญญูให้ถูกคนดีกว่านะคะ
เอาใจช่วยนะคะ😊❤️...
สู้ๆค่ะ... ทำใจ ใจต้องเเข็งกับการที่มีคนเป็นเเม่ช่างขอ ช่างไถ เเบบนี้ค่ะ
*เเก้+เพิ่มเติมค่ะ
รู้จักพี่คนไทยรุ่นพี่อายุเกิน60+ปี ที่ยังต้องทำงานงกๆ ไปทำงานเก็บ/เเบกผลไม้ช่วงหน้าร้อน เพื่อส่งให้ลูกหลานในเมืองไทยใช้ เเละมีคนคอยไถเงินไม่หยุด!! ส่วนนึงเพราะพวกนีเเคยตัว ขอเมื่อไรก็ได้ พี่เค้าใจดีเกิน จนชินกะการถูกไถค่ะ!!!
คนที่เมืองไทยส่วนใหญ่คิดว่า คนในตปท มีงาน=มีเงินมาก!!??
ในความเป็นจริงเเล้ว ก็เเค่มนุษย์เงินเดือนนี่ละค่ะ มีใช้เเบบเดือนชนเดือนเหมือนกัน ( กรณีนี้ คือคนทั่วไปที่มีฐานเงินเดือนระดับใกล้เคียงกะเรทปกติ/ถัวเฉลี่ยนะคะ)
ขอยก ตย เคสตัวเองละกัน...
ดิฉันทำงานออฟฟิต ตามสลิปเงินเดือน ตีเป็นเงินบาทเเบบกลมๆ(เรท 40บาทต่อ1ฟรังค์)= 200K บาท พอหักทุกอย่างตามกฎหมาย เหลือในมือ/เข้าบัญชีจริงๆที่175K บาท
(ตำเเหน่งงานที่ทำ ถ้าเป็นฝรั่ง/คนสวิสเเท้ๆ จะได้เรทเงินเดิอนเยอะกว่านี้ค่ะ เรทที่เราได้ถือว่า ต่ำกว่า/ถูกกดเงิน/ ได้น้อยกว่าฝรั่งว่าง่ายๆ)
พอได้เงินเดือนสุทธิมา....
ก็หักค่ากิน ค่าอยู่ ค่าผ่อนบ้าน ค่าเล่าเรียนลูก/ค่าหอพัก ฯลฯ = มีเหลือเก็บน้อยนิดมากๆ (ต้องเก็บเงินเพราะจะได้ใช้เงินก้อนนี้เพื่อมีอำนาจต่อรองการรีไฟเเนนท์เงินกู้บ้านต่อไปในอนาคตค่ะ)
อ้อ เป็นครอบครัวที่ไม่ค่อยกิน/ไม่เที่ยว/ไม่มีของใช้ฟุ่มเฟือย .. มีเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงบ้างตามเทศกาลสำคัญ รึ นานๆทีเฉพาะโอกาสสำคัญของครอบครัว... มีกันเเค่ 3คนพ่อเเม่ลูก (ลูกสาวเรียนมหาลัย) พวกเราจะออกเที่ยวปีละ 1-2ครั้งเเล้วเเต่งบ (กันเงินเที่ยวออกจากยอดเงินเก็บรายเดือนค่ะ) ...
โชคดีที่เมืองไทย มีเเม่(อายุ80+) พี่น้อง = มีงาน มีการ มีรายได้ช่วยตัวเองได้.. ญาติไม่เคยขอเงินเราเลย เค้ารู้ว่าสามีฝรั่งไม่ได้รวย(ทำงานอาชีพอิสระ รายได้ไม่เเน่นอน ข่วงมีงาน=มีเงิน ช่วงไหนไม่มีงาน=ศูนย์ก็มีค่ะ) ค่าครองชีพก็เเพง เราเองก็เลยต้องหางาน /ทำงานงกๆกะงานเครียดๆ เพื่อหาเงินมาเเบ่งเบาภาระครอบครัวทางนี้
เรื่องเเบบนี้ .. มันจึงอยู่ที่ครอบครัวฝั่งไทย ต้องเข้าใจ รับรู้ถึงสภาพความเป็นจริงด้วย... อย่าคิดตีค่าเงินที่นี่เป็นเงินบาทอย่างเดียว เพราะ กว่าจะได้มาเเต่ละบาทที่นี่ ก็ต้องทำงานหนัดเช่นกัน เเถมมีครอบครัว/มีค่าใข้จ่ายที่ต้องดูเเลเหมือนกัน..
ขออนุญาตเเนะนำว่า....
ให้เเม่คุณเท่าที่ให้ได้เเบบสบายใจ จำนวนfixรายเดือน =ให้ได้เท่านี้ ไม่เพิ่มไม่ลด!
บอกไปเลยว่าจะต้องใช้เงินดูเเลครอบครัวตัวเองเช่นกัน ....
เค้าไม่เคยเลี้ยง/ดูเเลคุณ .. เเถมไม่มีภาระ บ้านมีที่ดินก็มี รายได้จากึ่าเช่าจากร้านค้าอีก ชีวิตดีกว้าอีดหลายครอยครัว!! ..
ก็ควรให้เท่าที่เห็นสมควร ไม่ใช่ให้เท่าที่เค้าขอ
*ความเป็นเเม่ดูจากการกระทำ/การทำหน้าที่เเม่ค่ะ ไม่ใช้เเค่การให้พักพิงช่วงตั้งท้องค่ะ*
ถ้าเป็นไปได้ เเบ่งเงินข้างต้นส่วนนึงมาให้พ่อกะยายที่เลี้ยงคุณมาดีกว่า??
เค้าอาจไม่เคยขอ คงเพราะว่าเค้ารู้ว่าคุณโดนเเม่ไถรายเดิอน/มีไถรายย่อยอีก?? เค้าคงไม่อยากเพิ่มภาระให้คุณมังคะ?
ถ้าคุณทำได้ ควรให้เงินกะยายกะพ่อ .... กตัญญูให้ถูกคนดีกว่านะคะ
เอาใจช่วยนะคะ😊❤️...
สู้ๆค่ะ... ทำใจ ใจต้องเเข็งกับการที่มีคนเป็นเเม่ช่างขอ ช่างไถ เเบบนี้ค่ะ
*เเก้+เพิ่มเติมค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
แม่มีรายได้มั้ย ถ้ามีก็ไม่ต้องให้หรือให้เท่าที่เราสบายใจไม่เดือดร้อน ถ้าไม่มีรายได้ก็ให้เท่าที่อยู่ได้เลี้ยงแม่ให้มีชีวิตไม่ต้องไปเลี้ยงกิเลสแม่ให้กัดกินชีวิตเรา
อยู่เมืองนอกติดต่อกันใช่ว่าสะดวกจะเดินมาด่ามาดราม่าต่อหน้าไม่ได้อยู่แล้ว ก็ติดต่อกันตามปกติถ้าแม่ดราม่าใส่ก็วางสาย เว้นระยะ ไม่ต้องรับ จนกว่าแม่จะเลิกพฤติกรรมนี้ แม่เลิกไม่ได้ก็ห่างๆกันไป ไม่ใช่ว่าไม่ช่วยเหลือแล้วจะอยู่ไม่ได้ ไม่ได้ทอดทิ้งให้อยู่อย่างอนาถา จะอกตัญญูได้ไง เอาเวลาไปพักผ่อนหรือคิดเรื่องอื่นดีกว่า ชีวิตเราใช่ว่าจะทำงานได้จนตายเก็บเงินให้ตัวเองใช้ตอนแก่บ้างจะได้ไม่มานั่งเสียใจกับชีวิตที่เหลือทีหลัง
อยู่เมืองนอกติดต่อกันใช่ว่าสะดวกจะเดินมาด่ามาดราม่าต่อหน้าไม่ได้อยู่แล้ว ก็ติดต่อกันตามปกติถ้าแม่ดราม่าใส่ก็วางสาย เว้นระยะ ไม่ต้องรับ จนกว่าแม่จะเลิกพฤติกรรมนี้ แม่เลิกไม่ได้ก็ห่างๆกันไป ไม่ใช่ว่าไม่ช่วยเหลือแล้วจะอยู่ไม่ได้ ไม่ได้ทอดทิ้งให้อยู่อย่างอนาถา จะอกตัญญูได้ไง เอาเวลาไปพักผ่อนหรือคิดเรื่องอื่นดีกว่า ชีวิตเราใช่ว่าจะทำงานได้จนตายเก็บเงินให้ตัวเองใช้ตอนแก่บ้างจะได้ไม่มานั่งเสียใจกับชีวิตที่เหลือทีหลัง
แสดงความคิดเห็น
เมื่อแม่มองว่าเรามีเงินเดือนเป็นแสน แต่ให้เงินแม่ไม่ได้…จนกลายเป็นปัญหา
ปัจจุบันเราทำงานต่างประเทศ รายได้ถือว่าปานกลาง พอหักค่าภาษีและค่ากินอยู่ก็เหลือเก็บบ้าง ต่างจากสมัยทำงานในกรุงเทพฯ ที่รายได้ไม่มากและเก็บเงินได้น้อย แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ แม่เรามองว่าเรามีรายได้สูง และคิดว่าเราควรให้เงินเขาได้มากกว่านี้
.....
....
....
สิ่งที่เราอยากทำ
เรารู้สึกสบายใจที่จะช่วยแม่ในลักษณะให้เป็นของขวัญในโอกาสสำคัญ เช่น วันเกิดหรือวันแม่ มากกว่าที่จะต้องให้เงินทุกเดือนจนกลายเป็นภาระ เพราะเราเองก็อยากมีเงินเก็บเพื่ออนาคตเหมือนกัน
คำถามที่อยากถาม
คือเราอกตัญญูมั้ย เราจัดการความรู้สึกตัวเองยากมากเลย คือเงินที่เราแบ่งไว้แทนที่จะให้ยาย ให้น้อง บางทีแม่ก็โดนหลอกโดนโกงมา ต้องเอามาโปะแทน
คือบางทีไปอ่านบางกระทู้ เงินเดือน 20,000 ให้แม่หมื่นนึงนี่มันมีด้วยหรอ คุณไม่กินไม่จ่ายค่าเช่าบ้านค่าสังคมบ้างหรอ? ทำไมถึงให้ครึ่งนึงได้ แล้วแม่ส่วนใหญ่อยากได้เงินเดือนลูกขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมไม่วางแผนการเงินตัวเองบ้าง หนักใจมาก
*แก้ไข ลบเนื้อหาที่เป็นส่วนตัวออก *
เพิ่มเติม
ได้อ่านเม้นเยอะมาก มีหลายเม้นในแอพฟ้า ว่าเราแต่งเรื่อง อ่านแล้วขำ คือมันเป็นชีวิตจริงๆของเราจริงๆ ที่เราอยากระบายเพราะไม่สามารถปรึกษาใครได้ เลยอยากปรึกษาคนทั่วๆไปแบบไม่ระบุตัวตน
ประเทศที่เราอยู่คือแถบยุโรปไม่ใช้เงินสกุลเงิน ยูโร งานเราคืองานออฟฟิศ รายได้เราคือทั่วไป ตามโครงสร้างบริษัท รายได้ธรรมดามากสำหรับคนยุโรปแถบนี้ ไม่น้อยไปไม่มากไป ถ้าอยู่ไทยได้เงินแสนก็เป็นเศรษฐีค่ะ แต่อยู่ต่างประเทศได้เงินแสนก็นั่งรถบัส นั่งรถไฟ เช่าห้องธรรมดาๆค่ะ น้ำเปล่าไทย ขวดละเท่าไหร่ ที่นี่3-4เท่าของไทย
ส่วนคนที่เห็นใจเรา หรือแชร์เรื่องของตัวเองให้เราอ่าน เรารู้สึกขอบคุณมาก ได้รู้สึกว่าไม่ได้โดดเดี่ยว ว่าเราจะผ่านปัญหาแบบนี้ไปได้