เมื่อแม่มองว่าเรามีเงินเดือนเป็นแสน แต่ให้เงินแม่ไม่ได้…จนกลายเป็นปัญหา

เราอยากมาแชร์ปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวเรา ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องการเงินและความสัมพันธ์กับแม่ เพื่อระบายและขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ในนี้

ปัจจุบันเราทำงานต่างประเทศ รายได้ถือว่าปานกลาง พอหักค่าภาษีและค่ากินอยู่ก็เหลือเก็บบ้าง ต่างจากสมัยทำงานในกรุงเทพฯ ที่รายได้ไม่มากและเก็บเงินได้น้อย แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ แม่เรามองว่าเรามีรายได้สูง และคิดว่าเราควรให้เงินเขาได้มากกว่านี้

.....
....
....

สิ่งที่เราอยากทำ
เรารู้สึกสบายใจที่จะช่วยแม่ในลักษณะให้เป็นของขวัญในโอกาสสำคัญ เช่น วันเกิดหรือวันแม่ มากกว่าที่จะต้องให้เงินทุกเดือนจนกลายเป็นภาระ เพราะเราเองก็อยากมีเงินเก็บเพื่ออนาคตเหมือนกัน

คำถามที่อยากถาม
คือเราอกตัญญูมั้ย เราจัดการความรู้สึกตัวเองยากมากเลย คือเงินที่เราแบ่งไว้แทนที่จะให้ยาย ให้น้อง บางทีแม่ก็โดนหลอกโดนโกงมา ต้องเอามาโปะแทน
คือบางทีไปอ่านบางกระทู้ เงินเดือน 20,000 ให้แม่หมื่นนึงนี่มันมีด้วยหรอ คุณไม่กินไม่จ่ายค่าเช่าบ้านค่าสังคมบ้างหรอ? ทำไมถึงให้ครึ่งนึงได้ แล้วแม่ส่วนใหญ่อยากได้เงินเดือนลูกขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมไม่วางแผนการเงินตัวเองบ้าง หนักใจมาก

*แก้ไข ลบเนื้อหาที่เป็นส่วนตัวออก *
เพิ่มเติม
ได้อ่านเม้นเยอะมาก มีหลายเม้นในแอพฟ้า ว่าเราแต่งเรื่อง อ่านแล้วขำ คือมันเป็นชีวิตจริงๆของเราจริงๆ ที่เราอยากระบายเพราะไม่สามารถปรึกษาใครได้ เลยอยากปรึกษาคนทั่วๆไปแบบไม่ระบุตัวตน

ประเทศที่เราอยู่คือแถบยุโรปไม่ใช้เงินสกุลเงิน ยูโร งานเราคืองานออฟฟิศ รายได้เราคือทั่วไป ตามโครงสร้างบริษัท รายได้ธรรมดามากสำหรับคนยุโรปแถบนี้ ไม่น้อยไปไม่มากไป ถ้าอยู่ไทยได้เงินแสนก็เป็นเศรษฐีค่ะ แต่อยู่ต่างประเทศได้เงินแสนก็นั่งรถบัส นั่งรถไฟ เช่าห้องธรรมดาๆค่ะ น้ำเปล่าไทย ขวดละเท่าไหร่ ที่นี่3-4เท่าของไทย
ส่วนคนที่เห็นใจเรา หรือแชร์เรื่องของตัวเองให้เราอ่าน เรารู้สึกขอบคุณมาก ได้รู้สึกว่าไม่ได้โดดเดี่ยว ว่าเราจะผ่านปัญหาแบบนี้ไปได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 115
ขอบคุณทุกกำลังใจและคำแนะนำจากทุกคนมากๆ นะคะ เราอ่านทุกข้อความแล้ว รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ

อยากบอกเพิ่มเติมว่า เราไม่ได้เป็นคนหัวอ่อนขนาดที่แม่ขอแล้วให้ทันที แต่ปัญหาคือ พอเราปฏิเสธหรือพูดตรงๆ แม่จะตัดพ้อด้วยคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ เช่น “งั้นตัดแม่ตัดลูกไปเลย” หรือ “ชีวิตฉันมันโชคร้าย ไม่มีใครเลี้ยงดู สมองไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ดี” ซึ่งคำพูดเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกทุกข์ใจมาก จนสุดท้ายเราก็ยอมโอนให้

อีกเรื่องที่ทำให้ลำบากใจเพิ่มขึ้นคือ แฟนเรา (ต่างชาติ) ไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องส่งเงินให้ที่บ้านบ่อยๆ ทุกครั้งที่แม่ขอแล้วเราทั้งเสียน้ำตาและเสียเงิน ก็จะโดนแฟนบ่นเพิ่มอีก เลยรู้สึกเหมือนต้องรับมือทั้งสองทาง

ขอบคุณทุกคำแนะนำที่ช่วยให้เรามองเห็นแนวทางจัดการเรื่องนี้นะคะ ถ้าแม่ขออีก เราคงกลับมาอ่านข้อความของทุกคนในกระทู้นี้ เพื่อช่วยให้เราใจแข็งและตัดสินใจดีขึ้นค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ให้เท่าที่สบายใจครับ ชีวิต จขกท. สุดท้ายตอนแก่ ก็ไม่ได้สามารถไปขอเงินใครได้และไม่มีใครมาเลี้ยง ต้องเกษียณและอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นควรทำเท่าที่ตัวเองจะไม่ลำบาก

พ่อแม่ที่ดี คือพ่อแม่ที่ห่วงอนาคตลูก พ่อแม่ที่ดูดเงินลูกโดยสนใจแต่ชีวิตตัวเองคือคนที่ใช้ไม่ได้ครับ

ผมเลี้ยงลูก ทุกวันนี้ไม่เคยหวังอะไรนอกจากให้ลูกดูแลตัวเองได้และมีความสุข คิดแค่นั้นเลย ไม่เคยหวังให้ลูกต้องมาเลี้ยงดู  แค่โทรมาคุยมาทักทายก็ดีใจแล้ว
ความคิดเห็นที่ 18
เห็นใจนะคะ​ เเต่คุณไม่ใช่คนไทยในตปททึ่เจอเคสเเบบนี้เเน่ๆ​ มีอีกเยอะที่เจอเเบบนี้​

รู้จักพี่คนไทยรุ่นพี่​อายุ​เกิน60+ปี​ ที่ยังต้องทำงานงกๆ​ ไปทำงานเก็บ/เเบกผลไม้ช่วงหน้าร้อน​ ​ เพื่อส่งให้ลูกหลานในเมืองไทยใช้​ เเละมีคนคอยไถเงินไม่หยุด!!​ ส่วนนึงเพราะพวกนีเเคยตัว​ ขอเมื่อไรก็ได้​   พี่เค้าใจดีเกิน​ จนชินกะการถูกไถ​ค่ะ​!!!  

คนที่เมืองไทยส่วนใหญ่คิดว่า​ คนในตปท​ มีงาน​=มีเงิน​มาก!!??

ในความเป็นจริงเเล้ว​​ ก็เเค่มนุษย์​เงินเดือนนี่ละค่ะ​ มีใช้เเบบเดือนชนเดือนเหมือนกัน​ ( กรณีนี้​ คือคนทั่วไปที่มีฐานเงินเดือนระดับใกล้เคียงกะเรทปกติ/ถัวเฉลี่ยนะคะ)

ขอยก​ ตย เคสตัวเองละกัน... ​   
ดิฉันทำงานออฟฟิต​  ตามสลิปเงินเดือน ตีเป็นเงินบาทเเบบกลมๆ​(เรท 40บาทต่อ1ฟรังค์)= 200K บาท  พอ​หักทุกอย่างตามกฎหมาย​ เหลือในมือ/เข้าบัญชีจริงๆ​ที่​175K บาท
(ตำเเหน่งงานที่ทำ​ ถ้าเป็นฝรั่ง/คนสวิสเเท้ๆ​ จะได้เรทเงินเดิอนเยอะกว่านี้ค่ะ​ เรทที่เราได้ถือว่า​ ต่ำ​กว่า/ถูกกดเงิน​/ ได้น้อยกว่าฝรั่งว่าง่ายๆ​)​

พอได้เงินเดือนสุทธิมา.... ​
ก็หักค่า​กิน​ ค่าอยู่​ ค่าผ่อนบ้าน​ ค่าเล่าเรียนลูก/ค่าหอพัก​ ​ฯลฯ​   =  มีเหลือเก็บน้อยนิดมากๆ​ (ต้องเก็บเงิน​เพราะจะได้ใช้เงินก้อนนี้เพื่อ​มีอำนาจต่อรองการรีไฟเเนนท์เงินกู้บ้านต่อไปในอนาคตค่ะ)​

​ อ้อ​  เป็นครอบครัวที่ไม่ค่อยกิน/ไม่เที่ยว/ไม่มีของใช้ฟุ่มเฟือย​ .. มีเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงบ้างตามเทศกาลสำคัญ​ รึ​ นานๆทีเฉพาะโ​อกาสสำคัญของครอบครัว​... มีกันเเค่​ 3คนพ่อเเม่ลูก​ ​(ลูกสาวเรียนมหาลัย)​ พวกเราจะ​ออกเที่ยวปีละ​ 1-2ครั้ง​เเล้วเเต่งบ (กันเงินเที่ยวออกจากยอดเงินเก็บรายเดือนค่ะ)​ ...

โชคดีที่เมืองไทย​ มีเเม่(อายุ80+)​ พี่น้อง​ =  มีงาน มีการ  มีรายได้ช่วยตัวเองได้​..  ญาติไม่เคยขอเงินเราเลย เค้ารู้ว่า​สามีฝรั่งไม่ได้รวย​(ทำงานอาชีพอิสระ​ รายได้ไม่เเน่นอน​ ข่วงมีงาน=มีเงิน  ช่วงไหนไม่มีงาน=ศูนย์ก็มีค่ะ​)​ ​ ค่าครองชีพก็เเพง​ เราเองก็เลยต้องหางาน​ /ทำงานงกๆ​กะงานเครียดๆ​ เพื่อหาเงินมาเเบ่งเบาภาระครอบครัวทางนี้​

เรื่องเเบบนี้​ ..  มันจึงอยู่ที่ครอบครัวฝั่งไทย​ ต้องเข้าใจ​ รับรู้ถึงสภาพความเป็นจริงด้วย​... อย่าคิดตีค่าเงินที่นี่เป็นเงินบาทอย่างเดียว​ ​ เพราะ​ กว่าจะได้มาเเต่ละบาท​ที่นี่ ก็ต้องทำงานหนัดเช่นกัน​ เเถมมีครอบครัว/มีค่าใข้จ่ายที่ต้องดูเเลเหมือนกัน..  

ขออนุญาต​เเนะนำว่า....
​ ให้เเม่คุณเท่าที่ให้ได้เเบบสบายใจ​   จำนวนfixรายเดือน​ =ให้ได้เท่านี้​ ไม่เพิ่มไม่ลด! ​

บอกไปเลยว่าจะต้องใช้เงินดูเเลครอบครัวตัวเองเช่นกัน​ ....  

เค้าไม่เคยเลี้ยง/ดูเเลคุณ​ .. เเถมไม่มีภาระ​ บ้านมี​ที่ดินก็มี​ รายได้จากึ่าเช่า​จากร้านค้าอีก​ ชีวิตดีกว้าอีดหลายครอยครัว!! ​..
ก็ควรให้เท่าที่เห็นสมควร​  ไม่ใช่ให้เท่าที่เค้าขอ​

*ความเป็นเเม่​ดูจากการกระทำ/การทำหน้าที่เเม่ค่ะ​ ​ ไม่ใช้เเค่การให้พักพิงช่วงตั้งท้องค่ะ​​*  

ถ้าเป็นไปได้​ เเบ่งเงินข้างต้น​ส่วนนึงมาให้พ่อกะยายที่เลี้ยงคุณมาดีกว่า??​
เค้าอาจไม่เคยขอ  คงเพราะว่าเค้ารู้ว่าคุณโดนเเม่ไถรายเดิอน​/มีไถรายย่อยอีก??  เค้าคงไม่อยากเพิ่มภาระให้คุณมังคะ?
ถ้าคุณทำได้​ ควรให้เงิน​กะยายกะพ่อ .... กตัญญู​ให้ถูกคนดีกว่านะคะ​

เอาใจช่วยนะคะ😊❤️​...
สู้ๆค่ะ... ​ ทำใจ​ ใจต้องเเข็ง​กับการที่มี​คนเป็นเเม่ช่างขอ  ช่างไถ​ เเบบนี้ค่ะ

*เเก้+เพิ่มเติมค่ะ​​
ความคิดเห็นที่ 10
แม่มีรายได้มั้ย ถ้ามีก็ไม่ต้องให้หรือให้เท่าที่เราสบายใจไม่เดือดร้อน ถ้าไม่มีรายได้ก็ให้เท่าที่อยู่ได้เลี้ยงแม่ให้มีชีวิตไม่ต้องไปเลี้ยงกิเลสแม่ให้กัดกินชีวิตเรา

อยู่เมืองนอกติดต่อกันใช่ว่าสะดวกจะเดินมาด่ามาดราม่าต่อหน้าไม่ได้อยู่แล้ว ก็ติดต่อกันตามปกติถ้าแม่ดราม่าใส่ก็วางสาย เว้นระยะ ไม่ต้องรับ จนกว่าแม่จะเลิกพฤติกรรมนี้ แม่เลิกไม่ได้ก็ห่างๆกันไป ไม่ใช่ว่าไม่ช่วยเหลือแล้วจะอยู่ไม่ได้ ไม่ได้ทอดทิ้งให้อยู่อย่างอนาถา จะอกตัญญูได้ไง เอาเวลาไปพักผ่อนหรือคิดเรื่องอื่นดีกว่า ชีวิตเราใช่ว่าจะทำงานได้จนตายเก็บเงินให้ตัวเองใช้ตอนแก่บ้างจะได้ไม่มานั่งเสียใจกับชีวิตที่เหลือทีหลัง
ความคิดเห็นที่ 1
เอาตัวเองให้รอดนั่นแหละครับ ช่วยได้เท่าที่ช่วย
โอนให้ก็เก็บสลิปไว้บ้าง ทำอะไรให้ ไปเยี่ยมดูแลก็ถ่ายรูปไว้บ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่