เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000121519?tbref=hp
สถานการณ์ตลาดหุ้นช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 กลับสู่ความเลวร้ายอีกครั้ง ดัชนีหุ้นปักหัวลง จนความหวังที่จะได้เห็นระดับ 1500 จุดอีกครั้ง เป็นเพียงแค่ความเพ้อฝัน เพราะดัชนี ฯ ถอยร่นหลุดระดับ 1400 จุดลงมาแล้ว และไม่รู้ว่า สิ้นปีจะปิดลงที่เท่าไหร่
เดือนธันวาคมปีนี้ นักลงทุนตั้งความคาดหวังว่า ดัชนี ฯ จะมีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปแตะระดับ 1500 จุดอีกครั้ง เพราะกองทุนวายุภักษ์ยังมีเงินเหลืออยู่ และจะมีกองหนุนจากกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนหรือ TESG ที่จะระดมเงินได้อีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาทเข้ามาเสริม
แต่ความหวังเลือนรางลงไปแล้ว ข่าวดีที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดหุ้นขาดแคลน และยังมีปัจัยจัยลบ จากการที่ บริษัท ซีพี แอ๊กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่ม CP ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ นำเงินไปลงทุนในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งเป็นทายาทของนายธนินท์ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในปัญหาธรรมภิบาล และการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
นำเงินบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นกิจการมหาชน ไปอุ้มกิจการของกลุ่มเจียรวนนท์
ผลที่ตามมาคือ การเทขายหุ้นในกลุ่ม CP ทั้งหมดในตลาดหุ้น จากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ และลุกลามบานปลายไปสู่การเทขายหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มอื่นตาม เพราะภาพรวมของตลาดหุ้นไทยกำลังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับธรรมาภิบาล ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ้มที่จุดชนวนการเทขายหุ้นต้นสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นเมื่อวันอังคารที่ 17 ธันวาคมผ่านมา ปั่นป่วนขนาดหนัก ดัชนี ฯ ปิดที่ 1395.57 จุด ลดลง -24.15 จุด หลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1400 จุดเร็วเกินคาด เนื่องจากผลกระทบปัญหาธรรมาภิบาลของกลุ่ม CP ที่ลุกลาม
ช่วงสองสัปดาห์สุดท้าย ก่อนปิดฉากปี 2567 ตลาดหุ้นไม่มีข่าวดีกระตุ้นอยู่แล้ว แต่กลับมีปัจจัยลบกรณี CP ซ้ำเติม นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ จึงพร้อมใจ เทขายหุ้นกันอีกครั้ง จนตลาดหุ้นตกอยู่ในความเลวร้าย ดัชนีฯเมื่อเทียบกับจุดปิดสิ้นปี 2566 กลับมาติดลบ
เพราะสิ้นปี 2566 ดัชนี ฯ จบที่ 1415.85 จุด ล่าสุดปิดที่ 1395.57 จุด ติดลบแล้ว 20.28 จุด หรือติดลบ -1.43%
บรรยากาศการลงทุนที่ซบเซาส่งท้ายปีเก่า นอกจากไม่มีข่าวดีกระตุ้น และถูกปัจจัยลบรอบด้านกดดันแล้ว ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความสิ้นหวังของนักลงทุน เกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นในปีนี้ และแนวโน้มในปี 2568 ด้วย
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตรที่ผลักดันออกมา โดยเฉพาะการแจกเงิน 10,000บาท ในงวดแรกประมาณ 150,000 ล้านบาท ละลายหายไปแล้ว โดยแทบไม่มีผลในการปลุกเศรษฐกิจให้กระเตื้องแต่อย่างใด
อ่านต่อที่ลิ้งค์ข้างต้น
หุ้นปีนี้ซึม...แต่ปีหน้าทรุดหนักกว่า / สุนันท์ ศรีจันทรา
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000121519?tbref=hp
สถานการณ์ตลาดหุ้นช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 กลับสู่ความเลวร้ายอีกครั้ง ดัชนีหุ้นปักหัวลง จนความหวังที่จะได้เห็นระดับ 1500 จุดอีกครั้ง เป็นเพียงแค่ความเพ้อฝัน เพราะดัชนี ฯ ถอยร่นหลุดระดับ 1400 จุดลงมาแล้ว และไม่รู้ว่า สิ้นปีจะปิดลงที่เท่าไหร่
เดือนธันวาคมปีนี้ นักลงทุนตั้งความคาดหวังว่า ดัชนี ฯ จะมีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปแตะระดับ 1500 จุดอีกครั้ง เพราะกองทุนวายุภักษ์ยังมีเงินเหลืออยู่ และจะมีกองหนุนจากกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนหรือ TESG ที่จะระดมเงินได้อีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาทเข้ามาเสริม
แต่ความหวังเลือนรางลงไปแล้ว ข่าวดีที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดหุ้นขาดแคลน และยังมีปัจัยจัยลบ จากการที่ บริษัท ซีพี แอ๊กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่ม CP ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ นำเงินไปลงทุนในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งเป็นทายาทของนายธนินท์ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในปัญหาธรรมภิบาล และการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
นำเงินบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นกิจการมหาชน ไปอุ้มกิจการของกลุ่มเจียรวนนท์
ผลที่ตามมาคือ การเทขายหุ้นในกลุ่ม CP ทั้งหมดในตลาดหุ้น จากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ และลุกลามบานปลายไปสู่การเทขายหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มอื่นตาม เพราะภาพรวมของตลาดหุ้นไทยกำลังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับธรรมาภิบาล ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ้มที่จุดชนวนการเทขายหุ้นต้นสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นเมื่อวันอังคารที่ 17 ธันวาคมผ่านมา ปั่นป่วนขนาดหนัก ดัชนี ฯ ปิดที่ 1395.57 จุด ลดลง -24.15 จุด หลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1400 จุดเร็วเกินคาด เนื่องจากผลกระทบปัญหาธรรมาภิบาลของกลุ่ม CP ที่ลุกลาม
ช่วงสองสัปดาห์สุดท้าย ก่อนปิดฉากปี 2567 ตลาดหุ้นไม่มีข่าวดีกระตุ้นอยู่แล้ว แต่กลับมีปัจจัยลบกรณี CP ซ้ำเติม นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ จึงพร้อมใจ เทขายหุ้นกันอีกครั้ง จนตลาดหุ้นตกอยู่ในความเลวร้าย ดัชนีฯเมื่อเทียบกับจุดปิดสิ้นปี 2566 กลับมาติดลบ
เพราะสิ้นปี 2566 ดัชนี ฯ จบที่ 1415.85 จุด ล่าสุดปิดที่ 1395.57 จุด ติดลบแล้ว 20.28 จุด หรือติดลบ -1.43%
บรรยากาศการลงทุนที่ซบเซาส่งท้ายปีเก่า นอกจากไม่มีข่าวดีกระตุ้น และถูกปัจจัยลบรอบด้านกดดันแล้ว ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความสิ้นหวังของนักลงทุน เกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นในปีนี้ และแนวโน้มในปี 2568 ด้วย
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตรที่ผลักดันออกมา โดยเฉพาะการแจกเงิน 10,000บาท ในงวดแรกประมาณ 150,000 ล้านบาท ละลายหายไปแล้ว โดยแทบไม่มีผลในการปลุกเศรษฐกิจให้กระเตื้องแต่อย่างใด
อ่านต่อที่ลิ้งค์ข้างต้น