โรคกระดูกพรุน หรือ
Osteoporosis เป็นโรคที่เกิดจากการลดลงของความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก ทำให้กระดูกเปราะบางและเสี่ยงต่อการหักง่าย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งมักไม่มีอาการแสดงให้เห็นชัดเจน จนกระทั่งเกิดกระดูกหักหลังอุบัติเหตุเล็กน้อย เช่น การล้ม
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
1. การลดลงของมวลกระดูกเริ่มชัดเจนหลังอายุ 40 ปี และในเพศหญิงที่หมดประจำเดือน
2. ปัจจัยเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
- อายุที่มากขึ้น
- เพศหญิง (โดยเฉพาะหลังหมดประจำเดือน)
- ประวัติครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน
3. ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้
- การขาดแคลเซียม
- การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มคาเฟอีน
- น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์
- โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือโรคข้อ
การรักษาโรคกระดูกพรุน
การรักษาโรคกระดูกพรุน จะเริ่มจากการวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยในปัจจุบันมีการใช้ยาสองกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
1. ยาลดการสลายกระดูก (Antiresorptive agents):
- มีทั้งชนิดรับประทาน (สัปดาห์ละเม็ดหรือเดือนละเม็ด)
- ชนิดฉีดใต้ผิวหนังหรือฉีดเข้าเส้นเลือด
2. ยากระตุ้นการสร้างกระดูก (Anabolic agents):
- ฉีดใต้ผิวหนังทุกวัน
- มียาที่ผสมคุณสมบัติทั้งลดการสลายกระดูกและกระตุ้นการสร้างกระดูก โดยฉีดทุกเดือน
วิธีการป้องกันโรคกระดูกพรุน
1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เลือกการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก เช่น เดิน วิ่งเหยาะ หรือรำไท้เก๊ก อย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
2. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง
เช่น นม โยเกิร์ต ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งกระดูก ผักใบเขียว
3. รับแสงแดดอ่อน
ช่วงเช้าหรือเย็น วันละ 15-20 นาที เพื่อสังเคราะห์วิตามินดี
4. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มคาเฟอีนที่มากเกินไป
5. ตรวจสุขภาพประจำปี
โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจความหนาแน่นของกระดูก
6. ปรับสิ่งแวดล้อมในบ้านให้ปลอดภัย:
- ติดแผ่นยางกันลื่น
- จัดบ้านให้โล่งและสว่างเพียงพอ
- ลดสิ่งกีดขวางเพื่อลดการหกล้ม
ผลกระทบของโรคกระดูกพรุน
หากไม่ได้รับการดูแล อาจเกิดกระดูกหักที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต เช่น
- กระดูกสันหลังยุบ ทำให้หลังโก่งหรือปวดเรื้อรัง
- ข้อสะโพกหัก ส่งผลให้ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
- เสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
การมีสุขภาพกระดูกที่ดีจะช่วยให้ชีวิตในวัยสูงอายุเต็มไปด้วยความสุขและปราศจากข้อจำกัดทางร่างกาย
-------------------------------------------
สาระน่ารู้เพื่อผู้สูงอายุ
Facebook :
https://www.facebook.com/thaiseniormarket
Youtube :
https://www.youtube.com/@ThaiSenior
เว็บไซต์ :
http://www.thaiseniormarket.com/article.php
Sticker LINE :
https://store.line.me/stickershop/product/1235514
โรคกระดูกพรุน ภัยเงียบในผู้สูงอายุที่ป้องกันได้
โรคกระดูกพรุน หรือ Osteoporosis เป็นโรคที่เกิดจากการลดลงของความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก ทำให้กระดูกเปราะบางและเสี่ยงต่อการหักง่าย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งมักไม่มีอาการแสดงให้เห็นชัดเจน จนกระทั่งเกิดกระดูกหักหลังอุบัติเหตุเล็กน้อย เช่น การล้ม
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
1. การลดลงของมวลกระดูกเริ่มชัดเจนหลังอายุ 40 ปี และในเพศหญิงที่หมดประจำเดือน
2. ปัจจัยเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
- อายุที่มากขึ้น
- เพศหญิง (โดยเฉพาะหลังหมดประจำเดือน)
- ประวัติครอบครัวที่มีผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน
3. ปัจจัยเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้
- การขาดแคลเซียม
- การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มคาเฟอีน
- น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์
- โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือโรคข้อ
การรักษาโรคกระดูกพรุน
การรักษาโรคกระดูกพรุน จะเริ่มจากการวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยในปัจจุบันมีการใช้ยาสองกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
1. ยาลดการสลายกระดูก (Antiresorptive agents):
- มีทั้งชนิดรับประทาน (สัปดาห์ละเม็ดหรือเดือนละเม็ด)
- ชนิดฉีดใต้ผิวหนังหรือฉีดเข้าเส้นเลือด
2. ยากระตุ้นการสร้างกระดูก (Anabolic agents):
- ฉีดใต้ผิวหนังทุกวัน
- มียาที่ผสมคุณสมบัติทั้งลดการสลายกระดูกและกระตุ้นการสร้างกระดูก โดยฉีดทุกเดือน
วิธีการป้องกันโรคกระดูกพรุน
1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เลือกการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก เช่น เดิน วิ่งเหยาะ หรือรำไท้เก๊ก อย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
2. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง
เช่น นม โยเกิร์ต ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งกระดูก ผักใบเขียว
3. รับแสงแดดอ่อน
ช่วงเช้าหรือเย็น วันละ 15-20 นาที เพื่อสังเคราะห์วิตามินดี
4. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มคาเฟอีนที่มากเกินไป
5. ตรวจสุขภาพประจำปี
โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจความหนาแน่นของกระดูก
6. ปรับสิ่งแวดล้อมในบ้านให้ปลอดภัย:
- ติดแผ่นยางกันลื่น
- จัดบ้านให้โล่งและสว่างเพียงพอ
- ลดสิ่งกีดขวางเพื่อลดการหกล้ม
ผลกระทบของโรคกระดูกพรุน
หากไม่ได้รับการดูแล อาจเกิดกระดูกหักที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต เช่น
- กระดูกสันหลังยุบ ทำให้หลังโก่งหรือปวดเรื้อรัง
- ข้อสะโพกหัก ส่งผลให้ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
- เสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
การมีสุขภาพกระดูกที่ดีจะช่วยให้ชีวิตในวัยสูงอายุเต็มไปด้วยความสุขและปราศจากข้อจำกัดทางร่างกาย
-------------------------------------------
สาระน่ารู้เพื่อผู้สูงอายุ
Facebook : https://www.facebook.com/thaiseniormarket
Youtube : https://www.youtube.com/@ThaiSenior
เว็บไซต์ : http://www.thaiseniormarket.com/article.php
Sticker LINE : https://store.line.me/stickershop/product/1235514